รู้หรือไม่ ผู้หญิง VS ผู้ชาย ใครเป็นผู้นำที่ดีกว่ากัน?

TEXT : Momin

Main Idea

  • ยุคสมัยนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง จริงหรือไม่ที่ยุคสมัยนี้ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นผู้นำที่ดีกว่าผู้ชาย

 

  • ผู้นำหญิงและชายมีความแตกต่างกันอย่างไร ใครกันที่เหมาะสมกว่าในการเป็นผู้นำที่พาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และคุณสมบัติของผู้นำที่ดีต้องเป็นอย่างไร

 

     แนวคิดของผู้นำเริ่มมาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมันโบราณ จากผู้นำราชวงศ์ ทางทหาร รัฐบุรุษ ซึ่งเมื่อเราพูดถึงสิ่งนี้ ในหัวจะมองเห็นเป็นภาพของชายผู้ควบคุมทุกสิ่งในทันที ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่ในชนชั้นที่ต่ำกว่า แทบไม่มีสิทธิออกเสียงใดๆ มีแต่ฟังคำสั่งและปฏิบัติตามก็เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันระบบผู้นำทางธุรกิจยังคงเป็นไปตามโครงสร้างเดิมเช่นกัน

     แต่สังคมพัฒนาไปไกลแล้ว และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีการพูดถึงความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงานของประเทศที่พัฒนาแล้ว นั่นหมายความไม่ว่าจะเป็นเพศได้ก็สามารถทำงานได้ดีเช่นกัน เพราะองค์กรต้องการคนที่มีคุณภาพ และผลิตภาพผลิตผลคือสิ่งที่สำคัญมากกว่าเรื่องเพศ และนี่ไม่ใช่การถกเถียงเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ แต่เป็นการวิเคราะห์ผู้นำยุคใหม่ต่างหาก

     จากผลงานวิจัยที่บอกไว้ว่า ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นผู้นำที่ดีกว่าผู้ชาย  แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงนั้นไม่สามารถทราบได้ จนกว่าผู้หญิงจะได้รับโอกาสเช่นเดียวกับผู้ชายจริงๆ

     และควรนึกไว้เสมอว่าแต่ละยุคสมัยนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงและความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นอาจต้องการวิธีการเป็นผู้นำที่แตกต่างกันในสถานการณ์และเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแนวคิดที่ว่าศตวรรษที่ 21 เป็นช่วงเวลาที่ต้องให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

     พอถึงตรงนี้แล้วทุกคนก็จะสงสัยว่าแล้วผู้หญิง กับ  ผู้ชาย ใครเป็นผู้นำที่ดีกว่ากัน เพราะข้างต้นพูดถึงแต่ผู้หญิง วันนี้เราจะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจนี้กัน

ผู้หญิง กับ ผู้ชาย ใครเป็นผู้นำที่ดีกว่ากัน

ผู้นำหญิง : ข้อดี

  • ผู้หญิงมักมีทักษะในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ตัวอย่างเช่น การจัดการกับงานบ้าน และยังสามารถจัดลำดับความสำคัญของปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกันเหมือนกับการทำงานบ้าน

 

  • Louann Brizendine เขียนไว้ในหนังสือ The Female Brain ของเธอว่า โดยทั่วไปแล้วผู้นำที่เป็นผู้หญิงมักถูกมองว่าเป็นมิตร เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นผู้ฟังที่ดี สื่อสารได้มีประสิทธิภาพ และยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานอีกด้วย ดังนั้นผู้นำหญิงจึงสามารถช่วยแก้ไขข้อกังวลส่วนตัวของพนักงานด้วยความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจโดยไม่คำนึงถึงเพศ Brizendine กล่าว

 

  • ช่วยกระตุ้นให้ทีมงานคิดนอกกรอบและสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงานได้

 

ผู้นำชาย : ข้อดี

  • ผู้นำชายจะพูดตรงไปตรงมา ทำให้เข้าถึงประเด็นได้เร็ว

 

  • ให้ความสำคัญกับชั้นยศหรือตำแหน่ง และเชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยให้การมอบหมายงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

  • ผู้ชายมักจะโฟกัสไปที่งานปัจจุบัน ซึ่งจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้นำชายมีแนวโน้มที่ลงมือทำมากกว่าการมานั่งวิเคราะห์

 

  • เมื่อพูดถึงเป้าหมาย ผู้นำชายไปถึงจุดมุ่งหมายได้เร็ว และจะรู้สึกสนุกมากเวลาได้ทำงาน

 

  • ไม่ค่อยก้าวร้าว เพราะผู้ชายจะใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

 

     และนี่คือข้อดีของผู้นำหญิงและชาย ซึ่งก็บอกไม่ได้ว่าใครเป็นผู้นำที่ดีกว่ากัน เพราะทั้งสองมีความคิดความอ่านที่แตกต่างกัน และงานนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทักษะและความสามารถของผู้นำเองด้วย ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นผู้นำก็ได้ เมื่อก่อนในการเลื่อนขั้นก็ดูกันที่อายุงาน แต่ยุคนี้เรามองว่าการจะเป็นผู้นำได้ไม่เกี่ยวข้องกับอายุหรือเพศ ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นคือ เกี่ยวกับทักษะหรือสามารถในตัวบุคคลล้วนๆ

ผู้นำที่ดีต้องเป็นอย่างไร

 

  • ต้องมองโลกในแง่ดี เพื่อนำไปสู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้นำเพียงต้องสร้างความั่นใจให้กับทีมงาน

 

  • มีความยุติธรรม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้นำจะต้องยุติธรรม มีความเป็นกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการมอบรางวัลต้องไม่มีเจตนาแอบแฝง และควรรู้ดีว่าควรคาดหวังอะไรจากทีมงาน และพวกเขาต้องได้รับสิ่งใดเป็นการตอบแทน

 

  • ต้องเชื่อถือได้ เพราะว่าจะทำให้ทีมงานมีความไว้วางใจเวลาที่ได้ร่วมงานกัน

 

  • มีการสื่อสารที่ดี ดูเหมือนง่ายมาก แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น ผู้นำที่ดีควรมีทักษะการสื่อสารที่ดี เพื่อเวลาสั่งงานทีมงานทุกคนต้องเข้าใจตรงกัน

 

ที่มา https://www.ssbm.ch/blog/women-or-men-who-is-a-better-leader/

https://www.hrinasia.com/leadership-2/female-vs-male-leaders/

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย