7 ขั้นตอน สร้างธุรกิจขนาดเล็กให้โดดเด่นบน Google






เรื่อง เจษฎา ปุรินทวรกุล


    หนึ่งในปัญหาของผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กก็คือ ไม่สามารถสร้างเว็บไซต์ให้ติดอับดับต้นๆ ของการสืบค้นใน Google ได้ และยังไม่รู้ด้วยว่าจะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้จะช่วยไขปัญหาเรื่องการสร้างเว็บไซต์ให้ธุรกิจของคุณโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กเพื่อให้สืบค้นเจอได้ง่าย และมีจำนวนผู้เข้าชมสูงขึ้น โดยขั้นตอนต่างๆ มีดังนี้

    1. ใส่ความคิดเห็นและคะแนนให้กับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ

    การสร้างเว็บไซต์ให้ลูกค้าสามารถให้คะแนนและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการได้นั้นเป็นสิ่งดีที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ร่วมกันระหว่างเรากับลูกค้า และลูกค้าที่เคยใช้สินค้ากับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงได้คำแนะนำไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้วย นอกจากนั้น Google ยังชอบให้เว็บไซต์ต่างๆ ใส่เนื้อหาประเภทนี้เข้าไปด้วย ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับที่สูงขึ้นบน Google Search  

    2. ใส่ภาพประกอบหรือวิดีโอแนะนำในผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ

    การใส่ภาพหรือวิดีโอประกอบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกับลูกค้า เป็นสิ่งที่จะทำให้อันดับในการสืบค้นพุ่งสูงขึ้น (ทั้งการค้นหาเว็บไซต์และการค้นหาภาพ) ซึ่งต้องไม่ลืมใส่คำบรรยายใต้ภาพ หรือหากเป็นสินค้าที่ใช้งานยาก มีข้อจำกัดในการใช้งานก็ควรระบุรายละเอียดและวิธีการใช้ลงไปให้ชัดเจนด้วย


    3. สร้างการเชื่อมโยงลิงค์กับเว็บอื่นๆ

    ยิ่งมีเว็บไซต์อื่นๆ ทำลิงค์มายังเว็บไซต์ของเรามากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งส่งผลต่ออันดับในการสืบค้นของเรามากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นพยายามแลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ โดยเฉพาะเว็บที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา

    4. บรรยายผลิตภัณฑ์ด้วยคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม

    อย่าลืมบรรยายหรือให้รายละเอียดสินค้าและบริการของคุณบนเว็บไซต์ด้วย เช่น คุณสมบัติและคุณประโยชน์ของสินค้านั้นดีอย่างไร ทำไมถึงน่าสนใจ แตกต่างจากคู่แข่งบนท้องตลาดอย่างไร โดยในการให้รายละเอียดก็ต้องไม่ลืมใส่คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมอย่างชื่อสินค้าหรือบริการ วัตถุดิบที่ใช้ ความโดดเด่น และสถานที่จำหน่าย ลงไปด้วย เพราะคีย์เวิร์ดที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าค้นพบเว็บไซต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น 


    5. เข้ารหัสเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    ความปลอดภัยบนโลกออนไลน์นั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ทั้งกับเรา ลูกค้า และ Google การสร้างเว็บไซต์ซึ่งเข้ารหัสเว็บไซต์ (HTTPS) หรือ SSL จะช่วยสร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อีกมาก


    6. อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับสถานที่ประกอบธุรกิจหรือขายสินค้า

    หากร้านค้าของคุณขายอุปกรณ์ก่อสร้าง คีย์เวิร์ดที่ควรใส่ก็ต้องมีมากกว่าอิฐ ปูน และจังหวัด ให้ใส่ภูมิภาค รหัสไปรษณีย์ ชื่อบริษัท เบอร์ติดต่อ ชื่อย่อ ความเป็นท้องถิ่น ถนนที่ผ่านหน้าร้านค้า และคำอื่นๆ อีกหลายคำที่จะสามารถบ่งบอกได้ว่านี่คือร้านค้าท้องถิ่น ที่สำคัญการใส่ข้อมูลชื่อร้าน ที่อยู่ และเบอร์โทร บนเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย ควรให้เหมือนกันในทุกช่องทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าสับสน 


    7. ลงทะเบียนร้านค้าใน Google Business Page

      ขั้นตอนนี้มีความจำเป็นมากๆ และผู้ประกอบการหลายๆ คนไม่ทราบ นั่นก็คือการลงทะเบียนร้านค้าผ่านทาง Google Business Page (www.google.com/business) ซึ่งร้านค้าจะปรากฏบน Google Search, Google Map และ Google+
    
    การดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด จะช่วยสร้างโอกาสให้อันดับการสืบค้นบน Google ดีขึ้น แต่ต้องอย่าลืมเรื่องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเวลาเข้ามายังเว็บไซต์ของเราด้วย นั่นก็คือ ความสวยงาม เข้าใจง่าย เนื้อหาดี และมีโปรโมชั่น ซึ่งจะมีทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และมีโอกาสเข้ามาชมเว็บไซต์ของเราอีกครั้ง 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)

RECCOMMEND: MARKETING

ธุรกิจร้านกาแฟโคม่าหนัก เกาหลีใต้เพิ่งเจอ ปัญหาคาเฟ่ล้นเมือง ไทยจะตามรอยไหม ร้านใหม่เจ๊ง 2 ปี ร้านเก่าก็รอดยาก

รู้หรือไม่? ในโซล ที่มีคาเฟ่กว่า 80,000 ร้าน นั้น... ตอนนี้ ร้านที่ 'ปิดตัว' แซงหน้า 'ร้านที่เปิดใหม่' ไปแล้ว นี่คือวิกฤตครั้งแรกในรอบ 60 ปี!

Giving Machine ตู้กดบุญอัตโนมัติ เปลี่ยนการทำบุญให้ง่าย อยากทำแบบไหน ก็เลือกได้เลย

วันนี้ตู้กดอัตโนมัติถูกพัฒนาไปไกล ถึงขั้นกลายเป็น “ตู้กดบุญ” กันแล้ว ตู้ดังกล่าวมีชื่อว่า ‘Giving Machine’ โดยเปลี่ยนจากการกดซื้อสินค้ามาเป็นการเลือก “รายการบริจาค” แทน

เจาะลึก 5 เทรนด์ influencer Marketing มาแรง แบบไหนดี แบบไหนโดนใจลูกค้า

เทรนด์อินฟลูเอนเซอร์กำลังเปลี่ยนจากภาพลักษณ์หรูหรา มาเป็นความเรียล ความสัมพันธ์ และคาแรกเตอร์เฉพาะตัวมากขึ้น เพราะอินฟลูเอนเซอร์ไม่ใช่แค่ผู้บอกเล่า แต่เป็นผู้ส่งต่อความตั้งใจแบรนด์ ที่มีอิทธิพลต่อความคิดและความรู้สึกของผู้บริโภค