“ลดพุงดิจิตอล” โอกาสธุรกิจกับชีวิตออฟไลน์

 



เรื่อง : สัญชัย บูรณ์เจริญ 
          nineclookclick@gmail.com  
          www.clookclick.com


    ผมพยายามล็อกอินใช้งาน Pinterest โซเชียลมีเดียที่ฮิตมากในสหรัฐฯ ส่วนเมืองไทยเคยได้รับความนิยมอยู่พักหนึ่ง พยายามคีย์รหัสหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ นี่ผมไม่ได้ใช้นานจนลืมพาสเวิร์ดหรือว่าเขาปลดชื่อออกจากสารบบไปแล้ว นอกจาก Pinterest แล้ว ก็มีอีกหลายโซเชียลมีเดียที่สมัครไปแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวบัญชีนานแล้ว อย่างเช่น google+ แม้จะไม่ลืมพาสเวิร์ดเพราะผูกติดกับอีเมล แต่ก็เข้าใช้งานน้อยมาก โดยพฤติกรรมส่วนตัวผมรู้สึกว่าใช้โซเชียลมีเดียน้อยลง เอ๊ะ! นี่ผมผิดปกติหรือเปล่า 

    วันก่อนมีรายการทีวีสัมภาษณ์ “พี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” ดาราชื่อดังที่ยังเป็นขวัญใจของสาวๆ แม้จะอยู่ในวงการมานานแล้ว หนึ่งในเรื่องราวนอกจากละครที่กำลังออนแอร์ คือ การใช้โซเชียลมีเดีย ที่น่าสนใจเพราะพี่ติ๊ก ไม่ใช้โซเชียลมีเดียอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ใช้เพียง Line เพื่อการติดต่อทำงานเท่านั้น ดูจากไลฟ์สไตล์ก็พอจะเข้าใจได้ เพราะพี่ติ๊กทำรายการทีวีเกี่ยวกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วันๆ ก็เข้าป่ามากกว่าอยู่ในเมือง การสื่อสารแบบเรียลลิตี้ จึงไม่มีความจำเป็น เทียบกับพี่ติ๊กแล้ว ผมก็จัดว่าใช้งานเยอะมาก  


FoMO คืออะไร 

    เมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนที่โซเชียลมีเดียเริ่มเป็นที่นิยม หลายคนต่างรีบสมัครใช้บริการ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะนอกจากปัจจัยสี่ มนุษย์ก็ต้องการการสื่อสารการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เมื่อสื่อ (Media) เปลี่ยนไป มนุษย์ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้ทัน เพื่อให้เชื่อมสัมพันธ์กับเพื่อนได้เหมือนเดิม 

    ความนิยมในเมืองไทยดังไประดับโลก ในครั้งหนึ่งกรุงเทพฯ คือ เมืองหลวงของเฟซบุ๊ก (City of Facebook) เพราะเป็นเมืองที่มีบัญชีเฟซบุ๊กต่อจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก ในครั้งนั้นกรุงเทพฯ คือแชมป์โลกอินสตาแกรม โดยมี 2 โลเกชั่นที่ถูกปักหมุดในโลกออนไลน์มากที่สุดคือ สนามบินสุวรรณภูมิและสยามพารากอน   

    โซเชียลมีเดียเปลี่ยนโลกของการสื่อสารระหว่างกัน ทำให้เราได้เจอเพื่อนที่ห่างหายไปหลายปี ได้รู้ความเคลื่อนไหวแม้อยู่ห่างไกลคนละซีกโลก ได้ใกล้ชิดเพื่อนแม้ปลีกเวลาฝ่าการจราจรไปเจอกันลำบาก ได้รู้ข่าวสารทันทุกสถานการณ์ เสน่ห์ของเนื้อหาที่ถูกอัพเดตตลอดเวลา และเปิดเข้าไปดูเมื่อไรก็เจอรูปภาพและข้อความใหม่ๆ ทุกครั้ง ทำให้หลายคนเริ่มเสพติดโซเชียลมีเดียโดยไม่รู้ตัว กลัวตกข่าวกลัวพลาดเรื่องสำคัญ นี่คือปรากฏการณ์ Fear of Missing Out (FoMO) หรือกลัวตกกระแส


JoMO คืออะไร  

    แต่โลกของโซเชียลมีเดียก็มีอีกด้านที่ไม่ได้สวยงามไปทั้งหมด บางเหตุการณ์เป็นเรื่องธรรมดาแต่ถูกทำให้ดราม่าเกินจริง บางเรื่องราวยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงหรือเท็จแต่ก็ถูกส่งต่อกันไปสู่วงกว้างนำไปสู่การเข้าใจผิด ชนิดที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสได้อธิบาย บางเนื้อหามีการผลิตซ้ำย้ำแล้วย้ำอีก กลายเป็นโลกที่หมุนเร็ว หมุนแรง ถูกแต่งเติม และดราม่าเยอะ ก่อให้เกิดความเครียดโดยไม่จำเป็น จึงทำให้บางคนเริ่มถอยห่าง
 

    Anil Dash นักเขียนและบล็อกเกอร์ชื่อดังได้เขียนบทความเรื่อง Joy of Missing Out (JoMO) ว่า การขาดหายจากโลกออนไลน์ราวเดือนเศษไม่ได้ทำให้เขาพลาดอะไรแม้แต่น้อย ตรงข้ามกลับทำให้เขามีความสุขกับคนรอบข้าง เพราะได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น นี่เป็นพฤติกรรมของ JoMO ซึ่งตรงกันข้ามกับ FoMO แนวคิดนี้เริ่มขยายวงกว้าง หนังสือ The Joy of Missing Out และหนังสือ The Digital Diet ต่างก็มองว่าการใช้ชีวิตในโลกดิจิตอลที่มากเกินไปจะกลายเป็นผลเสีย และเสนอแนวทางการใช้ชีวิตที่สมดุลในยุคดิจิตอล JoMO ถูกกล่าวถึงอย่างมากและถูกมองว่าเป็นเทรนด์



พฤติกรรมที่จะเริ่มโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ

    Juan Enriquez กล่าวบนเวที TEDTalks ว่า ชีวิตในโลกออนไลน์จะทิ้งร่องรอยพฤติกรรมอยู่อย่างถาวร ทุกการโพสต์รูปภาพ โพสต์ข้อความ กดไลก์ กดแชร์ การฟอลโลคนดัง ค้นหาข้อความในเว็บเซิร์ช เปิดจีพีเอสตลอดเวลา ทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้กลายเป็นรอยสักอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Tattoo) และจะทำให้มนุษย์เรากลายเป็นอมตะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะอยู่ยืนยาวยิ่งกว่าอายุของเรา


   ไม่เพียงเท่านั้นมันไม่ใช่รอยสักธรรมดาแต่ยังฉลาดด้วย เพราะรู้ว่าเราชอบใส่ชุดแบบไหน รับประทานอาหารอะไร ไปเที่ยวที่ไหน ใครคือเพื่อนสนิท ในปี 2555 บริษัท face.com ซึ่งมีภาพใบหน้าคนทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านหน้า ได้ขายกิจการให้กับเฟซบุ๊ก นั่นยิ่งทำให้รอยสักอิเล็กทรอนิกส์มีข้อมูลและรู้จักเรามากกว่าที่เราคิด แนวคิดเรื่อง Digital Tattoo ทำให้มหาวิทยาลัยบริติสโคลัมเบีย เริ่มรณรงค์เรื่องคิดก่อนโพสต์ (Think Before You Ink) เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักและคิดให้รอบคอบในการใช้งานโซเชียลมีเดีย  

 
โอกาสทางธุรกิจอยู่ตรงไหน

    คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเริ่มปรับตัวเพื่อหาสมดุลใหม่ ใช้ชีวิตดิจิตอลแค่ไหนจึงจะพอดี โดยมีบางกลุ่มที่ยังเป็น FoMO ในขณะที่คนบางกลุ่มเริ่มลดการใช้ชีวิตดิจิตอลที่เกินความจำเป็น (Digital Diet) และรู้สึกว่าชีวิตออฟไลน์กลายเป็นเสน่ห์แบบใหม่ คล้ายๆ กับที่ถวิลหา “ความเนิบช้า” โหยหา “ความโบราณ” สำหรับผู้ประกอบการแล้วชีวิตออฟไลน์ คือนิยามใหม่ของความหรูหรา (Offline is new luxury) อย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม  


    ในขณะที่แอพพลิเคชันส่วนใหญ่ อำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อได้เร็ว ส่งข้อมูลได้เยอะ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีการพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อบล็อกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รับส่งอีเมล ข้อความจากโซเชียลมีเดีย เช่น SelfControl TimeOut หรือ Think เป็นต้น เพื่อให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ต้องทำ นั่นเพราะคนทั่วไปไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ การมีตัวช่วยเหล่านี้จึงมีความจำเป็น  


    การถ่ายรูปอาหารก่อนรับประทานเพื่อโพสต์ลงในโซเชียล อาจสร้างความสนุกสนานและดูคล้ายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนบางกลุ่ม แต่ขณะเดียวกันเหตุการณ์แบบนี้ก็รบกวนลูกค้าคนอื่น นี่จึงเป็นโอกาสที่ร้านอาหารควรทำอะไร เพื่อให้ลูกค้า JoMO ได้เข้ามารับประทานอาหารแล้วได้ลิ้มลองรสชาติอย่างแท้จริง แทนที่จะลงทุนติดตั้งระบบ Wi-Fi ให้เชื่อมต่อได้ง่าย ก็ชูความเป็นร้านอาหารออฟไลน์ให้ลูกค้าได้สุนทรีย์กับรสชาติ เช่นเดียวกับรีสอร์ตหรือสถานที่ท่องเที่ยว ที่ควรเน้นเรื่องความสงบ ความเป็นส่วนตัว ปราศจากการรบกวน ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง แน่นอนว่าอาจไม่ถูกใจลูกค้าบางกลุ่ม แต่จะโดนใจกลุ่มที่หนีความวุ่นวายในเมือง


    ในวงการศึกษาและพัฒนาการเด็ก มีการตั้งข้อสังเกตว่า เด็กสมัยนี้เวลาว่างก็ดูทีวี คอมพิวเตอร์ เล่นเกม แท็บเลต แช็ตบนมือถือ ที่เป็นสาเหตุของโรคสมาธิสั้น บางคนเป็นน้อยบางคนเป็นมาก บางคนเพิ่งมารู้ตัวตอนเป็นวัยรุ่นแล้ว ทำให้เกิดปัญหาการเข้าสังคม ปัญหาการเรียน การสอบ และอีกหลายๆ อย่างตามมา ทำให้ผู้ปกครองสมัยนี้เน้นเรื่องการเลี้ยงดูเด็กมากขึ้น พยายามลดการใช้งานอุปกรณ์ไอที โดยเฉพาะในวัยเด็กเล็ก จะเน้นกิจกรรมการเล่นที่ต้องใช้ทักษะของร่างกาย การใช้มือการสัมผัส ตลาดของเล่นแนวใหม่จึงไม่ใช่แค่ขายของเล่น แต่ขายวิธีการเล่น (How to Play) เพื่อให้เด็กได้ใช้ทักษะตามวัย กลายเป็นโอกาสที่น่าจับตามอง  


    สำหรับผู้ประกอบการ SME แล้ว การแข่งขันเรื่องไฮเทคอาจไม่ง่ายถ้าจะสู้กับบริษัทขนาดใหญ่ แต่ถ้าหันมาเน้น Hi-Touch ที่สามารถเอาใจใส่ดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงกว่า ก็มีโอกาสเหนือกว่าเห็นๆ

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง