แบรนด์ของคุณแข็งแกร่งมากแค่ไหน




เรื่อง : ยุวดี ศรีภุมมา


    สำหรับการทำธุรกิจ มีหลายสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญ หนึ่งในนั้นคือการสร้างแบรนด์ หลายคนคงยังสงสัยว่าแบรนด์จำเป็นมากขนาดไหน คำตอบคือ แบรนด์มีความจำเป็น เพราะแบรนด์เปรียบเสมือนตัวตนของธุรกิจคุณ สิ่งที่คุณแสดงออกจะทำให้ผู้อื่นรู้จักคุณในแบบนั้น การสร้างแบรนด์ก็เช่นกัน แบรนด์ที่ดีจะมีตัวตน จุดยืนที่ชัดเจน เพียงแค่สีหรือโลโก้ก็สามารถสื่อได้ลึกเข้าไปถึงตัวตน และสิ่งที่แบรนด์เป็น นี่แหละคือลักษณะของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง วันนี้เรามีบททดสอบมาให้ผู้ประกอบการได้ลองดูว่า แบรนด์ของคุณแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหนกันแน่ 


1.    พนักงานของคุณรู้จักคำมั่นสัญญาของแบรนด์คุณหรือไม่?

a.    คุณช่วยอธิบายความหมายของคำนี้อีกสักนิดได้ไหม 
b.    น่าจะทราบ ผมกำลังพยายามอย่างหนักที่จะสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจคำมั่นสัญญาของแบรนด์
c.    แน่นอน ทุกคนที่อยู่ภายใต้แบรนด์มีหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันในการสนับสนุนแบรนด์และโปรโมตให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จัก 



2.    สื่อบนโลกออนไลน์ของคุณเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ทำให้แบรนด์ของคุณสมบูรณ์แบบใช่หรือไม่ 

a.    ผมว่ายังไม่ใช่อย่างนั้น 
b.    ผมต้องการให้เป็นเช่นนั้น 
c.    แน่นอนที่สุดอยู่แล้ว 



3.    คุณให้นิยามคำว่าแบรนด์ว่าอย่างไร? 

a.    แบรนด์เหรอ? ก็คือโลโก้ไง 
b.    แบรนด์คือการสะท้อนว่าเราถูกจัดอยู่ในธุรกิจประเภทไหนและเราควรที่จะดำเนินธุรกิจอย่างไร 
c.    แบรนด์คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น สะท้อนผ่านการทำตลาด การให้บริการของเรารวมไปถึงทุกอย่างที่เราเป็น 



4.    คุณคิดว่าสี โลโก้ รวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยของธุรกิจ แม้กระทั่งแพ็กเกจจิ้งมีความสำคัญกับแบรนด์ของคุณอย่างไร

a.    ไม่รู้สิ ผมเลือกสีและสิ่งต่างๆ ตามที่ผมชอบ เพราะมันคือธุรกิจของผม 
b.    แน่นอนว่ามันสำคัญ เราเลือกสีของแบรนด์ให้แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จในตลาด 
c.    ผมคิดว่ามันสำคัญมาก เราเลือกสีและสิ่งต่างๆ ให้เหมาะกับแบรนด์ของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นและยังช่วยให้พวกเขารู้สึกกับเราได้ตามที่เราต้องการ 



5.    โลโก้ของคุณบ่งบอกและสื่อถึงแบรนด์ของคุณหรือไม่ 

a.    ไม่ใช่ ผมว่ายังไม่สื่อถึงเท่าไหร่ 
b.    ใช่ โลโก้ของเราได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีให้สื่อถึงแบรนด์



6.    แบรนด์ก็เป็นเพียงแค่แบรนด์ จะมีคุณค่าเทียบเท่าสินค้าและบริการได้อย่างไร 

a.    เห็นด้วย 
b.    ไม่เห็นด้วย 



7.    เรามีการทดสอบแบรนดิ้งกับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราสื่อสารออกมาจะใช่สำหรับพวกเขา 

a.    ผมคิดว่าไม่จำเป็น ผมรู้ว่าอะไรที่ลูกค้าของผมต้องการอยู่แล้ว 
b.    เรามีการทดสอบกับคนไม่กี่คนในช่วงต้นของกระบวนการเพื่อหาทิศทางที่ถูกต้องของแบรนด์
c.    แน่นอนเรามีการทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายและทุกคนชอบแบรนด์ของเรา พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์



8.    แบรนด์ โลโก้ สี รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่สื่อถึงแบรนด์ของคุณได้ถูกนำไปใช้ในการนำเสนอบนโลกออนไลน์หรือไม่ 

a.    ไม่นะ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย 
b.    ก็มีใช้บ้าง 
c.    แน่นอน นี่คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสร้างแบรนด์และทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่จดจำได้ดียิ่งขึ้น 



9.    หากว่ามีคนอื่นลองเลียนแบบโลโก้ สี รวมถึงตัวตนของแบรนด์คุณ คุณคิดว่าพวกเขาจะสามารถไปต่อได้ไหม 

a.    ก็อาจจะได้ ที่เขาเลือกเลียนแบบเราเพราะเราโดดเด่น 
b.    ผมว่าไม่มีทางที่เขาจะไปต่อได้ 
c.    แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอยู่รอด เพราะว่าแบรนด์คือสิ่งที่ทำให้เราต่างจากคู่แข่งอื่นในตลาดและยังบอกตัวตนของธุรกิจ ตัวตนของแบรนด์ไม่สามารถนำไปใช้ได้กับธุรกิจอื่นๆ เพราะอาจจะไม่เหมาะกัน 



10.    คุณมีการวางแผนอนาคตและทิศทางของแบรนด์คุณหรือไม่ 

a.    ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ผมว่าผมคงต้องทำในไม่ช้า 
b.    แน่นอน เรามีการพูดถึงเรื่องนี้ 
c.    แน่นอน เรามีการวางแผนในเรื่องอนาคตเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ยังมีการอบรมพนักงานเกี่ยวกับแบรนด์อีกด้วย 



ถ้าคุณตอบข้อ A มากที่สุด 
แบรนด์ของคุณยังไม่แข็งแกร่ง


 
    ไม่ต้องตกใจไป แม้ว่าแบรนด์ของคุณจะยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควรแต่ก็ไม่ใช่ว่าแบรนด์ของคุณไม่ดี เพียงแค่คุณต้องเริ่มนัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ ด้านการตลาด ด้านการวางกลยุทธ์ รวมไปถึงด้านอื่นๆ ที่คุณยังไม่ถนัด ลองให้คนอื่นมีส่วนร่วมในแบรนด์ของคุณบ้าง ก็อาจจะทำให้คุณมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ ลูกค้าของคุณ รวมไปถึงทำความเข้าใจสินค้าและบริการของคุณ ยิ่งคุณศึกษาลึกเท่าไหร่ตัวตนของคุณจะยิ่งออกมามากขึ้นเท่านั้น แต่หากคุณยังไม่ต้องการที่จะลงทุนไปกับผู้เชี่ยวชาญ วิธีง่ายๆ ก็คือ ลองเช็กเสียงจากลูกค้าของคุณดูบ้าง คุณจะได้ทราบว่า จุดอ่อนของคุณคืออะไร เมื่อคุณรู้และเริ่มแก้ไข แบรนด์ของคุณก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ 



ถ้าคุณตอบข้อ B มากที่สุด 
แบรนด์ของคุณแข็งแกร่งได้มากกว่านี้ 


    หากพูดถึงในตอนนี้ แบรนด์ของคุณก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่ จัดได้ว่าดีทีเดียว แต่หากคุณพยายามกว่านี้อีกสักหน่อย แบรนด์ของคุณจะแข็งแกร่งได้มากกว่าที่คุณคิดแน่นอน ทางที่คุณกำลังเดิน ถูกต้องแล้ว เพียงแค่คุณต้องสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน ให้พวกเขากลายเป็น Brand Ambassador ของแบรนด์คุณ ทำให้พวกเขารักและเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณกำลังทำ ให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ นอกจากนี้ คุณยังต้องศึกษาจุดบอดของแบรนด์และนำมาแก้ไข พัฒนาแบรนด์ของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีทั้งแบรนด์และองค์กรที่แข็งแกร่ง 



ถ้าคุณตอบข้อ C มากที่สุด 
แบรนด์ของคุณแข็งแกร่งมาก 



    ขอปรบมือให้กับแบรนด์ของคุณเพราะว่าแบรนด์ของคุณแข็งแกร่งมาก คุณรู้ตัวเองดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ และคุณสามารถทำมันได้ดีเยี่ยมทีเดียว คุณเข้าใจในสินค้าและบริการของคุณ คุณรักธุรกิจของคุณและคุณยังถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ นั่นคือส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการสร้างแบรนด์ เพียงแค่คุณทำสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ต่อไป รักษามาตรฐานและพัฒนาสิ่งเดิมที่มีอยู่ให้ดีขึ้น รักลูกค้าของคุณ รักแบรนด์ของคุณ รวมถึงรักพนักงานของคุณ เพียงเท่านี้แบรนด์ของคุณก็จะอยู่กับคุณไปอีกนาน 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ธุรกิจเล็กก็ชนะได้ ถ้าเข้าใจ Trust Economy กลยุทธ์ใหม่ที่เร่งยอดขายได้จริง ในยุคที่ความเชื่อใจขาดแคลน

ธุรกิจเล็กอาจไม่มีงบมาก แต่ถ้ารู้จัก “Trust Economy” ก็สร้างแบรนด์ให้เติบโตเร็วกว่าได้ แม้ไม่มีงบโฆษณาหลักล้าน เพราะในยุคที่ข้อมูลปลอม รีวิวปลอม และการตลาดที่พูดเกินจริงล้นโซเชียล “ความเชื่อใจ” กลายเป็นสินค้าหายากที่สุดในตลาดวันนี้

เสื้อยืดไก่ทอดหาดใหญ่ แฟชั่นอร่อย ไอเดียขายเสื้อสุดครีเอท ใครเห็นก็อยากลองซื้อไปกิน เอ้ย! ลองใส่

ไอเดียเสื้อยืดลายไก่ทอดหาดใหญ่ ที่หยิบเอากระดาษห่อข้าวเหนียวไก่ทอด หมูทอด มาทำเป็นแพ็กเกจจิ้งสินค้า และเพิ่มความเหมือนอารมณ์ข้าวเหนียวไก่ทอดแท้ๆ ยิ่งเข้าไปอีก ด้วยการปริ้นกระดาษเป็นรูปห่อน้ำจิ้มติดเอาไว้ด้วย

ทำไมผู้ประกอบการไทยถึงสนใจลงทุน ธุรกิจร้านซักผ้าอัตโนมัติ 24 ชม. ไม่มีพนักงาน ไม่มีสต็อก แต่อยู่ได้ด้วยระบบอัตโนมัติ

ร้านซักผ้าหยอดเหรียญอัตโนมัติ เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมและถูกยกให้เป็น “อาชีพที่สอง” ที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นคือ ไม่ต้องมีสต็อกสินค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดอายุ ไม่ต้องบริหารพนักงาน และสามารถสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง