YUCCIE กลุ่มเป้าหมายใหม่ของนักการตลาด

วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
 

 หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญคือการแบ่งส่วนตลาดผู้บริโภค เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ หลักเกณฑ์หนึ่งที่นำมาใช้ได้แก่ demographic segmentation หรือการแบ่งส่วนตามประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ อาชีพ รายได้ การศึกษา ไลฟ์สไตล์ ที่ผ่านมา เราอาจจะเคยได้ยินการเรียกขานกลุ่มเป้าหมายเป็นเจเนอเรชั่น เช่น Baby boomer, GenX,  GenY,  Yuppies, DINK จนมาถึงกลุ่ม Hipster ที่เป็นกระแสมาหลายปี

ความสำคัญของกลุ่มเหล่านี้คือเป็นดัชนีกำหนดทิศทางสำหรับเจ้าของสินค้า ถ้าอยากเจาะกลุ่มไหนก็ต้องทำความเข้าใจแต่ละกลุ่มเพื่อจะได้ออกแบบสินค้าให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพวกเขา  และล่าสุดกลุ่มที่ถูกเรียกว่า “ยักกี้” Yuccie อันย่อมาจาก Young Urban (Cool) กลายเป็นเป้าหมายการตลาดกลุ่มใหม่ที่น่าจับตามอง

ยักกี้คือกลุ่มคนทำงานวัยตั้งแต่ 20 กว่าถึงต้น 30 มีบุคคลิกภาพผสมผสานระหว่างยัปปี้กับฮิปสเตอร์ กล่าวคือได้รับอิทธิพลจากฮิปสเตอร์ในการใช้ชีวิตแนว ๆ กินอาหารเพื่อสุขภาพ ปั่นจักรยาน นั่งร้านกาแฟ พยายามที่จะไม่เหมือนคนอื่น และไม่ตามใคร ชอบอะไรที่เป็นงานสร้างสรรค์ ถึงจะดำเนินชีวิตแช่มช้าแต่ยักกี้แตกต่างตรงที่ไม่ใช่อยู่ในโลกของความเพ้อฝัน หากมีดีเอ็นเอของ Yuppies อยู่ในตัวคือความเชื่อว่าจะสามารถไล่ล่าฝัน และทำเงินจากไอเดียที่ผุดขึ้น ยักกี้อยู่ในยุคที่อินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีเฟื่องฟู จึงเติบโตมาในโลกที่แนวคิดในเชิงนามธรรมและความฝันสามารถเกิดขึ้นและเป็นจริงได้

พูดง่าย ๆ ยักกี้คือกลุ่มที่ทะเยอทะยานในอาชีพ อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากประสบความสำเร็จ ในหัวจึงอัดแน่นไปด้วยไอเดียการทำเงิน สร้างรายได้เหมือนยัปปี้ ขณะเดียวกันก็มีความคิดสร้างสรรค์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงกับฮิปสเตอร์ ถ้าจะให้สรุป ยักกี้ก็คือ hipster businessperson นั่นเอง และหากจะยกตัวอย่างยักกี้ในปัจจุบันที่เห็นชัด ๆ ก็เช่น มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊ก อีแวน สปีเกล ซีอีโอสแนปแชท แอพฯสื่อสารที่นิยมในหมู่วัยรุ่นอเมริกัน และโซอี้ ซักก์ เน็ตไอดอลอังกฤษที่อัพคลิปเกี่ยวกับความสวยความงามลงยูทูปจนโด่งดัง



ลักษณะเด่น ๆ ของยักกี้ได้แก่ เสพติดการใช้อินเตอร์เน็ตและโซเซียลมีเดีย ชื่นชอบการอัพเฟสบุ๊กและอินสตราแกรม เป็นกลุ่มที่ใช้เวลาส่วนใหญ่หน้าจอหรือเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา นอกจากนั้น ยังมีเป้าหมายในชีวิตและเดินตามความฝันของตัวเอง สนใจงานด้านความคิดสร้างสรรค์ และรอไม่เป็น หากอยากได้ข้อมูล ต้องได้เดี๋ยวนั้น ในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภค ยักกี้เป็นกลุ่มที่ไม่ชอบรอ มีการสำรวจมาว่า 87 เปอร์เซนต์พร้อมคลิกออกจากหน้าเว็บทันที แม้การประมวลผลจะล่าช้าไปแค่ 2 วินาทีก็ตาม ในการดาวน์โหลดคลิปหรือวิดีโอ หากการโหลดมีอุปสรรคหรืออืดเกินไป 81 เปอร์เซนต์จะยกเลิกการดาวน์โหลดเดี๋ยวนั้น และแค่ 1 วินาทีของความล่าช้าบนอินเตอร์เน็ตสามารถทำให้ conversion rate (อัตราส่วนของการเข้าชมเนื้อหาบนเว็บไซต์) หายวูบไป 7 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว ขณะที่ความพึงพอใจของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะลดลง 16 เปอร์เซนต์

ส่วนพฤติกรรมการกินของยักกี้ เป็นกลุ่มที่ชอบรับประทานอาหารนอกบ้าน ทานอาหารตามร้านแล้วถ่ายรูปลงอินสตราแกรม และยังเป็นกลุ่มที่คลั่งไคล้เครื่องดื่มกาแฟ และก็โชคดีที่โตมาในช่วงที่ร้านกาแฟกำลังบูม ธุรกิจร้านอาหารที่สนใจเจาะกลุ่มนี้ควรใช้เทคนิคการกระตุ้นให้มีการแชร์ข้อมูลผ่านโซชี่ยลมีเดีย รู้จักประยุกต์โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น การพัฒนาแอพฯเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการสั่งอาหารผ่านสมาร์ทโฟน  ส่วนอาหารก็ต้องเน้นคุณภาพ ถ้าเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ควรระบุข้อมูลที่โปร่งใสชัดเจนทุกด้าน

คราวนี้มาดูพฤติกรรมการบริโภคของยักกี้กันบ้าง อย่างแรกคือพวกเขาจะตอบสนองต่อแบรนด์ไม่เหมือนกัน ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการเติบโตในครอบครัวชนชั้นกลางที่ได้รับการสนับสนุนเรื่องความคิดสร้างสรรค์และโอกาสในการไล่ล่าความฝันของตัวเอง คนกลุ่มนี้จะสนใจแบรนด์ดี ๆ ซึ่งในที่นี้หมายถึงแบรนด์ที่สร้างสรรค์ โดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง แบรนด์ที่สามารถสื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นความเป็นตัวตนของพวกเขาชัดเจน

ยักกี้เป็นคนในยุคดิจิตอลที่กระหายข้อมูล ขาด WiFi เหมือนจะขาดใจ อินเตอร์ความเร็วสูงเป็นอะไรที่จำเป็นสำหรับพวกเขามาก พฤติกรรมการซื้อคือซื้อเมื่อต้องการ และมักจะเป็นการซื้อทางออนไลน์ ไม่ค่อยคุยกับคนขายโดยตรง แต่จะหาข้อมูลทางเน็ตก่อน กลุ่มยักกี้จะทำให้เทรนด์การช้อปแบบ omni-channel แจ้งเกิด  omni-channel คือการเชื่อมโยงช่องทางการตลาดต่างๆเป็นหนึ่งเดียวเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการแบบทุกที่ ทุกเวลา ยกตัวอย่าง การเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตเสมือนจริง (virtual supermarket) ของเทสโก้ที่สถานีรถไฟใต้ดินในเกาหลีใต้ โดยโชว์แค่ภาพสินค้าและบาร์โค้ดให้ผู้ซื้อสแกนคำสั่งซื้อและชำระเงินผ่านโทรศัพท์ สินค้าจะถูกจัดส่งถึงบ้านภายหลัง เป็นต้น
               
ในยุคที่แบรนด์ต่าง ๆ เข้าถึงผู้บริโภคทางโซเชียลมีเดีย สิ่งที่ต้องยอมรับคือการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากลูกค้า และข้อมูลนี้จะส่งผ่านถึงกันเร็วมาก กลุ่มยักกี้จะเป็นพวกตรงไปตรงมา ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง เมื่อใดที่ไม่รู้สึกประทับใจ โดยเฉพาะในเรื่องของ customer service พวกเขาจะบอกต่อทันที เจ้าของธุรกิจจึงควรหาวิธีสร้างสัมพันธ์กับยักกี้ นอกจากเป็นการพัฒนางานด้านการบริการลูกค้า ผลตอบรับจากพวกเขายังสามารถนำไปปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้นได้ด้วย

สำหรับผู้ประกอบการ ให้พึงระลึกเสมอสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการดึงดูดความสนใจของกลุ่มยักกี้ได้คือ authenticity ซึ่งหมายถึง “ของแท้” หรือ “ความน่าเชื่อถือ” คุณต้องมีความจริงใจต่อลูกค้า อย่าหลอกล่อให้ยักกี้ซื้อในสิ่งที่คุณไม่ได้เป็นจริง ๆ เพราะของแบบนี้ ยักกี้ดูออก  เพราะถ้าเป็นสินค้าผลิตยาก ต้องใช้ฝีมือ มีความปราณีต บ่งบอกความใส่ใจในการผลิต ต่อให้ราคาสูง ยักกี้ก็ยินดีจ่าย เป็นการจ่ายให้กับคุณค่าของสินค้าหรือบริการ
               
ทำไมนักการตลาดต้องสนใจกลุ่มยักกี้ คงต้องบอกว่ายักกี้เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่กำลังเติบโต เป็นคนรุ่นใหม่ที่เปิดรับนวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ ๆ ทำให้พวกเขาทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคกลุ่มอื่นด้วย เป็นผู้นำเทรนด์ที่คนอื่นต้องการเลียนแบบ ที่สำคัญเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ธุรกิจที่จับกลุ่มนี้ได้แก่ ร้านอาหาร แฟชั่น และธุรกิจบันเทิงทั้งหลาย ยักกี้ไม่ได้แค่ซื้อสินค้า แต่พวกเขาซื้อไลฟ์สไตล์ หากเข้าใจวิถีชีวิตของยักกี้ ผู้ประกอบการอาจจะพอนึกภาพออกว่าจะสร้างแบรนด์และทำการตลาดอย่างไรให้เป็นจุดสนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ควรถูกมองข้าม
 
*วารสาร K SME Inspired กรกฏาคม-กันยายน  2559

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง