​ถ้าจะมีร้าน ทำเลแบบไหนที่จะเหมาะกับธุรกิจ

Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

    เคยถามเพื่อนที่เปิดร้านกาแฟว่าอะไรที่ทำให้ร้านขายดี เพื่อนบอก “ทำเล ทำเล และทำเล” แม้จะเป็นคำตอบแบบทีเล่นทีจริงแต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของโลเคชั่นหรือทำเลในการเปิดธุรกิจ ในหนังสือ “Start Your Own Business” ซึ่งพิมพ์เป็นครั้งที่ 6 แล้วนั้น (แสดงว่าเป็นหนังสือขายดีระดับหนึ่ง) เนื้อหาบางส่วนเขาพูดถึงการเลือกทำเลประมาณต้องมีภาพชัดเจนในหัวว่าทำเลที่ต้องการควรเป็นแบบไหน ควรมีหรือไม่มีอะไร และมีงบในการจ่ายเท่าใด ควรศึกษาก่อนสักนิดจะได้ไม่ตัดสินใจพลาด มาดูกันว่า 10 บรรทัดฐานสำคัญที่ควรใช้ในการพิจารณาเลือกทำเลมีอะไรบ้าง



    1. เข้ากับรูปแบบของร้านหรือไม่ คุณมีแผนอยู่ในใจอยู่แล้วล่ะว่าจะเปิดร้าน/บริษัทประมาณนี้ ๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือกทำเลให้เหมาะกับธุรกิจ เช่น ถ้าเปิดร้านระดับไฮเอนด์ก็ควรมองทำเลในห้างหรูกลางเมือง หรือคิดจะชิมลางแบบขำ ๆ สไตล์แบกะดิน ก็ต้องมุ่งไปตามตลาดนัดหรือถนนคนเดิน

    2. กลุ่มเป้าหมายคือใคร ส่วนใหญ่เรามักกำหนดไว้แล้วว่าสินค้าหรือบริการของเราจะเจาะลูกค้ากลุ่มไหน ทีนี้ก็ดูว่าทำเลที่เล็งไว้เป็นแหล่งรวมของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ 

    3. เป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่าน ทำเลที่มี foot traffic สูงหรือมีคนเดินผ่านไปมามากย่อมได้เปรียบ ไม่มีใครอยากได้ทำเลในซอกในหลืบ ในจุดอับที่คนมองไม่เห็นเว้นเสียแต่ว่าสินค้าและบริการของคุณเจ๋งจริงและเป็นที่รู้จักแล้ว ทำเลที่มีคนเดินผ่านเยอะย่อมได้เปรียบและมีโอกาสเข้าถึงถูกค้ามากกว่า

    4. เดินทางยากไหม มีที่จอดรถหรือเปล่า หากตั้งอยู่ในย่านรถติด ซอยคับแคบ ผู้คนก็อาจขี้เกียจฝ่าการจราจรมาใช้บริการ ในเรื่องของการเดินทางควรสะดวกสบายไม่เฉพาะกับลูกค้าแต่ยังรวมถึงพนักงาน เจ้าของร้านและซัพพลายเออร์ที่มาส่งของด้วย สำคัญคือควรมีที่จอดรถเพียงพอ  

    5. ทำเลนั้นมีคู่แข่งอยู่แล้วหรือไม่ ต้องดูสภาพการณ์ประกอบด้วย ถ้ามีเจ้าถิ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องธุรกิจเดียวกัน ประเมินดูก่อนว่าจะเอาข้อได้เปรียบอะไรไปสู้กับเขา และคิดว่าสู้ไหวไหม แต่ถ้าไม่มีคู่แข่งเลย ก็ยังต้องศึกษาผู้บริโภคแถวนั้นด้วยว่ามีพฤติกรรมอย่างไร มีแนวโน้มตอบรับสินค้าหรือบริการเรามากน้อยแค่ไหน

    6. ทำเลแถวนั้นมีธุรกิจอะไรที่เอื้อต่อธุรกิจของเราไหม เช่น หากคิดจะทำธุรกิจร้านซักรีด/ซักแห้งแล้วย่านนั้นเป็นร้านให้เช่าชุดวิวาห์หรือชุดออกงานก็อาจเอื้อกันดี หรือคิดจะเปิดร้านเครื่องเขียน ก็อาจมองหาทำเลใกล้สถานศึกษา เป็นต้น

    7. เช็คทำเลจากคนเช่าเดิม เช่น ถ้าตึกนี้ดูแล้วโอเคมาก แต่ที่ผ่านมา ใครมาเปิดธุรกิจก็ม้วนเสื่อพับกิจการหมด แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติ หรือแม้คนเช่าเดิมทำธุรกิจขึ้นมาก ก็ต้องหาเหตุผลว่าทำไมจึงย้ายออก ศึกษาข้อมูลนิดนึง จะได้ไม่พลาดพลั้งทีหลัง

    8. ดูด้วยว่าทำเลนั้นมีกฎระเบียบหรือข้อห้ามอะไรที่จะกระทบต่อธุรกิจที่กำลังจะเปิดหรือไม่ เช่น ถ้าใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษามากเกินไป แน่นอนว่าเปิดร้านผับ บาร์หรือร้านเหล้าไม่ได้ หรือถ้าย่านนั้นเป็นแหล่งเที่ยวกลางคืน เราคงไม่คิดไปเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กหรือคนชรา

    9. โครงสร้างของอาคารแข็งแรงและมีความพร้อมแค่ไหนหากเราจะต่อเติมหรือติดตั้งระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ  มีระบบระบายน้ำ ระบายอากาศที่ดี หรือสามารถเก็บเสียงได้มิดชิดหรือไม่ แสงแดดส่องจ้ายามบ่ายเพิ่มความร้อนอบอ้าวให้อาคารหรือเปล่า เป็นต้น
 
    10. ทำเลที่มองไว้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง จะได้คำนวณค่าใช้จ่ายถูก เช่น อาจมีแม่บ้านคอยทำความสะอาดพื้นที่ มีรปภ.ดูแลความปลอดภัย บางที่ระบุค่าเช่าแค่นี้ แต่มาคิดค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติมทีหลัง ซึ่งทุกค่าใช้จ่ายถือเป็นต้นทุนทางธุรกิจทั้งสิ้น
    
    สำหรับผู้ที่คิดจะเริ่มต้นธุรกิจและกำลังมองหาทำเล ลองใช้บรรทัดฐานเหล่านี้ไปประกอบการพิจารณาดูค่ะ เผื่อจะช่วยได้ 


ข้อมูล:
https://www.entrepreneur.com/article/244866
    

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024