“นัดบอดกับหนังสือ” การตลาดแนว ๆ ของร้านหนังสือในออสเตรเลีย

​TEXT : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

    คงต้องยอมรับว่าธุรกิจร้านหนังสือในบ้านเราซบเซาลงอย่างมากหลังจากที่การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเป็นไปอย่างง่ายดาย และผู้คนเริ่มเบนความสนใจจากหน้ากระดาษไปสู่หน้าจอ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ยังเนืองแน่นด้วยนักอ่าน ก็ไม่ทำให้รู้สึกสิ้นหวังนัก อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่ามีคนอีกจำนวนมากที่ยังรักจะเสพตัวอักษรผ่านหมึกพิมพ์บนหน้ากระดาษ แต่นั่นแหละ ร้านหนังสือที่ดำรงอยู่ได้มักเป็นร้านขนาดใหญ่มีสายป่านยาว ส่วนร้านเล็ก ๆ ก็ดิ้นรนกันไป พยายามงัดทุกกลยุทธ์มาใช้เพื่อดึงความสนใจให้ลูกค้าเดินเข้าร้าน


Cr.wowamazing.com

    ร้านหนังสือชื่อ Elizabeth’s Bookshop ซึ่งมี 6 สาขาในเมืองใหญ่ของออสเตรเลีย แต่ที่สาขาซิดนีย์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนคิง ย่านนิวทาวน์มีวิธีเพิ่มความสนใจให้ลูกค้าด้วยการจัด Blind Date Books คือเป็นมุมไว้สำหรับลูกค้ามานัดบอดกับหนังสือ หนังสือที่ถูกคัดเลือกมาจะถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษสีน้ำตาลผูกริบบิ้นเรียบร้อย บนกระดาษห่อเขียนด้วยลายมือระบุสั้น ๆ ว่าเป็นหนังสือแนวไหน และมีคีเวิร์ดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาภายในเล่ม ลูกค้าที่มาเลือกซื้อจะไม่รู้ชื่อเรื่องหรือแม้กระทั่งชื่อนักเขียน เรียกว่าเป็นการสุ่มเลือกล้วน ๆ 

    ผู้จัดการร้านบอกว่าเป็นการดึงลูกค้า(คนอ่าน) ให้ออกจากวงวรรณกรรมที่ถนัดหรือชื่นชอบ และไม่เลือกหนังสือเพราะปก “ลูกค้าหลายคนอาจเลือกหนังสือไม่ถูก ไม่รู้จะอ่านอะไร ส่วนใหญ่ก็จะตัดสินจากปกหนังสือ การห่อหนังสือไม่ให้เห็นปกทำให้ตัดปัญหาตรงนี้ไป และยังเป็นการเปิดโอกาสคนอ่านได้ลองอะไรใหม่ ๆ แทนการเลือกหนังสือแนวเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ที่คุ้นเคย” ผู้จัดการยังบอกอีกว่าลูกค้าสามารถซื้อ Blind Date Books ไปอ่านเองหรือเป็นของขวัญก็ได้ เหมือนการเล่นเกมสนุก ๆ เพิ่มความตื่นเต้นเพราะผู้ให้ก็ไม่รู้ว่าซื้อหนังสืออะไรมา ส่วนผู้รับต่างก็ได้ลุ้น


Cr.lifehacker.com.au

    ทางร้านวางจำหน่ายทั้งหนังสือเปิดเผยปกทั่วไป และ Blind Date Books ดูเหมือนกิจกรรมนัดบอดกับหนังสือจะได้รับความสนใจมากกว่าหนังสือทั่วไปบนชั้น ทั้งนี้ พนักงานในร้านจะเป็นผู้เลือกหนังสือมาห่อปก โดยราคาหนังสือจะไม่แพงมาก อยู่ที่เล่มละ 7-10 เหรียญ เมื่อซื้อไปแล้วพบว่าเป็นหนังสือที่เคยอ่านหรือมีอยู่แล้ว ลูกค้าสามารถนำกลับมาคืนได้ภายใน 7 วัน 

    ถือเป็นอีกกลยุทธ์เพิ่มยอดขายที่น่าสนใจไม่น้อย  แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลตอบรับของกลยุทธ์นี้ดี อาจเป็นด้วยร้านตั้งอยู่ในย่านนิวทาวน์ ใกล้มหาวิทยาลัยซิดนีย์ แหล่งรวมปัญญาชนและชาวฮิปสเตอร์ที่ชอบอะไรแนว ๆ นี้อยู่แล้ว  ถ้าเป็นบ้านเราล่ะ กลยุทธ์นี้จะใช้ได้ผลไหม และควรใช้กับร้านหนังสือในย่านไหนดีนะ

RECCOMMEND: MARKETING

มิติใหม่แห่งการย้อมสีผม ใช้ “ใบตอง” แทนฟอยล์ ลดต้นทุน ลดโลกร้อนง่ายๆ แบบ 2 in 1  

ปกติเวลาที่พูดถึงใบตองสด ภาพแรกๆ ที่เด้งขึ้นมาในหัวของเรา ไม่ใช้ห่อขนมไทย ก็คงนึกถึงเทศกาลลอยกระทง แต่วันนี้น้องใบกล้วยสีเขียวคุ้นตานั้นมาในลุคที่เดิร์นกว่าคือ “ใช้ห่อผมเวลาทำสี” แทนฟอยล์กันแล้ว

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น