ล้วงลึกพฤติกรรมลูกค้า เคล็ดลับทำ e-Commerce ปัง!



TEXT : กองบรรณาธิการ



     ถ้าพูดถึงหัวใจของการทำเว็บไซต์ e-Commerce ให้โดน ให้ปัง ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้นั้น สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท rgb72 จำกัด ซึ่งกล่าวในงานสัมมนา "พลิกธุรกิจก้าวกระโดด ด้วยออนไลน์" บอกไว้ว่า การเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันพฤติกรรมลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก


    ยกตัวอย่าง สมัยก่อนคนดูทีวี เมื่อมีโฆษณาเข้ามา ก็จะเปลี่ยนช่องซึ่งสามารถวัดผลได้ แต่ปัจจุบันพฤติกรรมเปลี่ยนไปเมื่อมีโฆษณาเข้ามาแทนที่ลูกค้าจะเปลี่ยนช่องก็กลับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแทน  ดังนั้นถ้าจะอยากสร้างเว็บไซต์ e-Commerce ของคุณให้สำเร็จ ต้องมาดูก่อนเลยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างไร 


1.    Self Center 
       คนปัจจุบันนิยมยึดเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง ทฤษฎีของ Simon Sineck ระบุว่า พฤติกรรมการซื้อของคนไม่ได้ซื้อด้วย what หรือ how แต่ซื้อด้วย why การจะขายของต้องโฟกัสที่เหตุผลว่าเขาจะเอาของนั้นไปทำอะไร สินค้าต้องตอบโจทย์ข้อนั้น 
 

2.    Trust
       ผู้บริโภคชอบสิ่งที่มีความน่าเชื่อถือ การสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์จะมีอยู่หน้าหนึ่งที่คนมักมองข้ามนั่นคือ about us ซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอกตัวตนสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ คน 7 เปอร์เซ็นต์ที่จะเข้ามาดูหน้า about us จะมี 30 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มนี้ที่ตัดสินใจซื้อของ  


3.    Detail
       ชอบรายละเอียด ผู้บริโภคชอบหาข้อมูลของสินค้าก่อนตัดสินใจ เช่น การหารีวิวตามหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ดังนั้นหากจะทำเว็บไซต์ขายสินค้า เราควรจ้างหรือหาบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือมาช่วยรีวิวสินค้านั้นๆ ที่เราขาย นอกจากนี้ข้อมูลภาพของสินค้าก็เป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญ โดยมากจะทำเป็นรูปสินค้าในหลากหลายมุม อีกทั้งภาพก็ยังมีผลต่อความสนใจของผู้บริโภคอย่างมาก และต้องเป็นภาพที่มีคุณภาพที่ดีมีความคมชัด นอกจากนี้การใส่เรื่องราวลงไปในสินค้าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคชอบ เพราะคนจะเลือกตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีเรื่องราวมีที่มาที่ไป แทนที่จะเป็นตัวสินค้ามาเปล่าๆ 


4.    Human Touch 
       ต้องการมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกัน เช่นคนจะซื้อของยังต้องแชทกับคนขาย ในการเปิดเว็บไซต์ที่ดีควรให้ลูกค้าเปิดเข้ามาแล้วพบความประทับใจ เป็น first impression จะทำให้เขาอยากดูต่อ จากนั้นจึงเป็นการสร้างอารมณ์ สร้างคาแรคเตอร์ให้กับสินค้าและจะต้องมีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจุดขายและคาแรคเตอร์นั้นเหมือนกับคน จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงสินค้านั้นๆ ได้ง่าย ที่สำคัญที่สุดคือต้องมีช่องทางให้ลูกค้าติดต่อได้ และร้านค้าจะต้องมีการ follow up ข้อมูลลูกค้าคนนั้นๆ เพื่อส่งโฆษณาส่งรายละเอียดสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าคนนั้นๆ ได้


5.    8 Sec. Concentration 
       เพราะคนสมัยนี้มีสมาธิที่สั้นลง ชอบอะไรที่รวดเร็วและฉับไว การทำเว็บไซต์จึงต้องมีสิ่งที่สามารถสร้างความสนใจให้กับลูกค้าได้ เช่น การเลือกใช้สี การสร้าง eye contact ระหว่างลูกค้าที่เข้ามาดูหน้าเว็บกับตัวสินค้า


6.    Easy 
       ทุกคนต้องการความง่าย ความสะดวก ในการเข้าถึงสินค้าหรือคอนเท็นต์ การทำเว็บไซต์จึงควรมีการออกแบบ user interface ที่เห็นได้อย่างเด่นชัด มีการจัดการ SEO ที่ดี 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี



 

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง

Color Psychology: จิตวิทยาเรื่องสี ที่แบรนด์ใหญ่ใช้เพิ่มยอดขาย

สี…ก็เปลี่ยนยอดขายได้ ทำไม Facebook ใช้สีน้ำเงิน? ทำไม Chanel ถึงเลือกสีดำทอง? ทำไมฟาสต์ฟู้ดต้องสีแดง-เหลือง? คำตอบอยู่ที่ “Color Psychology” จิตวิทยาของสีที่แบรนด์ใหญ่ใช้สร้างกำไรมาแล้วทั่วโลก