Thailand Presents นำสินค้าเอสเอ็มอีไทยสู่ตลาดโลก





     กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) สนองนโยบายรัฐบาล “ไทยแลนด์ 4.0” ในการส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงรุก เร่งโปรโมทสินค้าและบริการไทย โดยเปิดตัวเว็บไซต์และทัชสกรีน คีออส (Touchscreen Kiosk) นำเสนอของดีประเทศไทยสู่กลุ่มเป้าหมายทุกที่ทุกเวลาภายใต้โครงการ “Thailand Presents”

     นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าโครงการ “Thailand Presents” เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2560 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสินค้าและบริการของไทยสู่สาธารณชนให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ผ่านกลยุทธ์การจัดทำเว็บไซต์ www.ThailandPresents.com สำหรับสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ที่สามารถเจาะตรงเข้าถึงผู้บริโภคและผู้ค้าทั่วโลก

     โครงการนี้ ริเริ่มโดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรประกอบด้วยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทย ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กรมการพัฒนาชุมชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย กรมหม่อนไหม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสถาบันอาหาร

“เป็นอีกความพยายามของกระทรวงการต่างประเทศ ในการเพิ่มเครื่องมือการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมของประเทศไทยออกสู่ชาวโลกทั้งยังจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับนานาชาติ โดยดำเนินการนำเสนอสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมของไทยผ่านสื่อออนไลน์ คือเว็บไซต์ www.ThailandPresents.com พร้อมกันนี้ได้ขยายผลการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ดังกล่าวไปในช่องทางอื่นๆ เริ่มจาก “Touchscreen Kiosk” หรือการจัดทำป้ายข้อมูลดิจิตอลระบบสัมผัสเพื่อนำไปติดตั้งยังสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศ”

     โดยเว็บไซต์และตัวทัชสกรีน คีออส ภายใต้โครงการ Thailand Presents เป็นการดำเนินงานสอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจ กลไกประชารัฐ และแนวคิดไทยแลนด์4.0 ของรัฐบาล เนื่องจากเป็นการนำนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลมาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และยังเป็นความสำเร็จในการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก จากการนำของหน่วยงานพันธมิตรดังกล่าวข้างต้น

ทั้งนี้ เว็บไซต์ www.ThailandPresents.com มุ่งนำเสนอสินค้าและบริการระดับคุณภาพคัดสรรจากทั่วประเทศพร้อมด้วยช่องทางการติดต่อเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ในเบื้องต้นนั้น ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 11หมวดสินค้าและบริการ ได้แก่ หมวดเศรษฐกิจจากความสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ แฟชั่นและเครื่องประดับ ศิลปะและงานฝีมือ สุขภาพและคุณภาพชีวิต ครัวไทยสู่ครัวโลก ผลิตภัณฑ์ฮาลาล สินค้าโอท็อปพรีเมี่ยม แหล่งพัก-แหล่งท่องเที่ยว การศึกษา ไปจนถึงวิจัยพัฒนาและเทคโนโลยี ครอบคลุมสินค้าและบริการราว 200 รายการ จากผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กถึงขนาดกลาง

     “เราเน้นผู้ประกอบการ SME เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถมีช่องทางเข้าถึงผู้ค้าหรือผู้บริโภคในต่างประเทศได้โดยตรง เพราะหลายรายก็ไม่มีโอกาสที่จะไปจัดแสดงสินค้าในต่างประเทศเนื่องจากมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูง โดยประกอบการที่สนใจต้องการนำสินค้าหรือบริการเข้ามาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.ThailandPresents.com ก็สามารถติดต่อทางกรมฯ หรือหน่วยงานพันธมิตรโครงการผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย"

     สำหรับเนื้อหาบนเว็บไซต์ ในเบื้องต้นจัดทำเป็น 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน นับเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไทยในรูปแบบของ Directory Platform ที่มีความเป็นสากลและทรงประสิทธิภาพ มีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย และนำเสนออย่างน่าสนใจ ผู้ซื้อหรือผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา เนื่องจากสามารถแสดงผลได้ดีในทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมถึงแทบเล็ตและสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ เนื่องด้วยเว็บไซต์ทำงานเชื่อมโยงโดยตรงกับบรรดาเว็บไซต์พันธมิตร และมีการอัพเดตข้อมูลแบบ Real-Time และแบบอัตโนมัติ เว็บไซต์นี้จะมีศักยภาพในการเป็น Hub หรือเป็นศูนย์รวมของสินค้าและบริการของไทยที่สมบูรณ์แบบที่สุดแหล่งหนึ่งในอนาคต


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ฟังก์ชันแยกบิลจ่ายได้ เทรนด์ใหม่ที่ร้านอาหารต้องรู้ ลูกค้ายุคใหม่อยากจ่ายเท่าที่กินโดยไม่รู้สึกผิด

ไม่ใช่เรื่องต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป หากไปกินอาหารกับเพื่อน แล้วอยากแยกรับผิดชอบจ่ายเฉพาะในส่วนที่ตัวเองสั่ง เทรนด์พฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคชาวอเมริกาที่หันมาใช้แอปพลิเคชันแยกจ่ายบิลกันมากขึ้น

ต่อยอดธุรกิจยังไงให้อยู่นานและขายดี กรณีศึกษา ALDI ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ALDI คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญญาติเยอรมัน มีต้นกำเนิดมาจาก 2 พี่น้องตระกูล Albrecht คือ “คาร์ล และ ธีโอ อัลเบรชต์” ที่รับช่วงต่อกิจการมาจากแม่ของเขาที่เปิดร้านขายของชำตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2