ค้าปลีกระส่ำ แต่ทำไม amazon จึงรุกเปิดร้านหนังสือออฟไลน์

Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

    เพิ่งเป็นข่าวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับการเปิดร้านหนังสือแบบออฟไลน์ในนิวยอร์กของอเมซอน ยักษ์ค้าปลีกออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก ร้านนี้เป็นสาขาที่ 7 ก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2015 อเมซอนได้ชิมลางเปิดร้านหนังสือร้านแรกในซีแอตเทิล หลังจากนั้นก็ทะยอยขยายสาขาเพิ่มในอีกหลายเมือง เช่น แอลเอ ซานดิเอโก้ ชิคาโก และอีก 3 เมืองในรัฐออเรกอน และแมสซาชูเซตส์ เห็นว่าบริษัทตั้งเป้าจะขยายกิจการร้านหนังสือให้ได้ 300-400 ร้าน 


Cr.cnbc.com


    เมื่อ 20 ปีก่อนตอนที่ อเมซอนกำเนิดใหม่ ๆ ก็เริ่มต้นมาจากการขายหนังสือออนไลน์ ก่อนขยับขยายไปยังค้าปลีกอื่น ๆ เว็บอี-คอมเมิร์ซของอเมซอนได้รับความนิยมจนทำให้ลูกค้าหันมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปเป็นผลให้ร้านหนังสือ ร้านดีวีดีปิดตัวกันระนาวเพราะต้านกระแสไม่ไหว ขณะที่ร้านค้าปลีกทั่วไป ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน อะไรที่ทำให้อเมซอนที่ถูกชี้นิ้วว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ร้านหนังสือเกือบสูญพันธุ์ลุกขึ้นมาเปิดร้านหนังสือภายใต้แบรนด์ของตัวเอง แม้อเมซอนไม่เคยปริปากเผยกลยุทธ์ของบริษัท แต่มีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการรุกเปิดร้านค้าปลีกออฟไลน์ของอเมซอนว่าน่าจะมาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

    ศักยภาพของตลาดค้าปลีกยังโตได้อีกมาก อเมซอนอาจจะครองตลาดอี-คอมเมิร์ซโดยคาดว่าปี 2018 จะทำยอดขาย 2.5 ล้านล้านเหรียญ แต่นี่ก็เป็นเพียง 10% ของยอดค้าปลีกทั้งหมดทั่วโลก รายงานระบุ 90% ของกิจกรรมการค้าปลีกไม่ได้ผ่านออนไลน์แต่ผ่านร้านค้าแบบออฟไลน์ อเมซอนอาจมองว่าการเปิดร้านค้าปลีกแบบออฟไลน์เปิดโอกาสให้มีการสอดแทรกระบบอี-คอมเมิร์ซเข้าไป เช่น ที่ร้านหนังสือของอเมซอน ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Amazon Shopping app ขณะเดินเลือกสินค้าในร้าน เมื่อต้องการเล่มไหนก็แค่สแกนผ่านมือถือ จ่ายเงินผ่านมือถือ ยิ่งถ้าเป็นสมาชิก Amazon Prime ก็จะได้ส่วนลด 20-30% ถือเป็นการผสมผสานระหว่างการช้อปปิ้งออนไลน์กับออฟไลน์

    เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า ร้านหนังสือของอเมซอนไม่ได้ขายแค่หนังสืออย่างเดียว แต่เป็นเหมือนการเปิดพื้นที่ให้กับสินค้าอื่น เพราะในร้านจะมีแผนกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อี-บุ๊ก Kindle อุปกรณ์เกี่ยวกับการส่งข้อมูลผ่านทีวีแบบต่อเนื่อง และอื่น ๆ อเมซอนหวังใช้ร้านหนังสือเป็นสถานที่แสดงสินค้าเหล่านี้เพื่อให้ลูกค้าได้มาทดลองใช้งาน เผื่อลูกค้าจะเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาอ่านหนังสือผ่าน Kindle มากขึ้น

    เพิ่มยอดขาย ในการช้อปออนไลน์ ลูกค้า ลูกค้าทราบว่าต้องการอะไรก็จะตรงไปที่เป้าหมาย เลื่อนนิ้วค้นหา เปรียบเทียบราคา คลิกลงตะกร้า แต่การเปิดร้านจะทำให้คนที่เข้ามาเดินชมสินค้า แม้ไม่ตั้งใจซื้อ แต่บางทีการได้เห็น ได้สัมผัสสินค้าโดยตรง ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ ที่สำคัญทำให้ทางร้านประหยัดค่าขนส่งกล่าวคือ ลูกค้ามาซื้อของที่ร้านแล้วรับสินค้าไปด้วยโดยไม่ต้องรอส่งพัสดุ หรือลูกค้าที่สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ จ่ายเงินผ่านอินเตอร์เน็ตไปแล้วก็สามารถไปรับหนังสือที่ร้านสาขาใกล้บ้านด้วยตัวเอง 

    เรียกได้ว่าการเปิดร้านหนังสือแบบออฟไลน์ที่นำเทคโนโลยีมาผนวกเป็นการมอบประสบการณ์อีกแบบให้ลูกค้า ร้านหนังสือของอเมซอนน่าจะไปได้สวยเพราะนอกจากสายป่านจะยาว ระยะเวลา 20 ปีของการคร่ำหวอดในวงการอี-คอมเมิร์ซ ทำให้อเมซอนมีฐานลูกค้านับล้านคน อีกทั้งบริษัทได้สั่งสมข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือชนิดต่าง ๆ เรตติ้งหนังสือ จึงทำให้ทราบรสนิยมของตลาดนั้น ๆ การคัดหนังสือมาวางที่ร้านจึงหลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า

ที่มา
http://www.cnbc.com/2017/05/23/amazon-bookstore-new-york.html
http://fortune.com/2017/04/28/5-reasons-amazon-physical-stores/

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

14 ปี LINE จากแชตสู่พันธมิตร ยกระดับธุรกิจ SME ไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

14 ปีที่ LINE ไม่ได้เป็นแค่แอปแชต แต่กลายเป็น “พันธมิตรธุรกิจ” ที่ช่วยให้ SME ไทยแข็งแรงขึ้นในยุคที่ความเร็ว ประสบการณ์ ข้อมูล คือหัวใจของการแข่งขัน

เลิกบริการผิดวิธี ถ้าอยากขายดียุคนี้ ต้องทำให้ Social Battery ลูกค้าหมดช้าที่สุด

ใครว่าบริการที่ดีต้อง "ยิ้ม ต้องทัก ต้องถาม" เสมอไป? วันนี้ธุรกิจที่ทำเงินได้ดี อาจเป็นร้านที่ "พูดน้อยที่สุด" และ "รบกวน Social Battery ลูกค้าให้น้อยที่สุด" ก็เป็นได้

เปิดอินไซต์ Longevity Economy “ชีวิตยืนยาว–สุขภาพดี” มาตรฐานใหม่ของความลักชูรี่ ดันตลาดสุขภาพไทยโตแรงระดับโลก

ชีวิตยืนยาว–สุขภาพดี กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความลักชูรี่ เปิดอินไซต์ Longevity Economy ชี้ตลาด Health & Wellness ไทยโตแรงระดับโลก เมื่อ “อยู่ได้นาน” ไม่พอ แต่ต้อง “อยู่ได้ดี” นี่คือเมกะเทรนด์ที่ธุรกิจสุขภาพต้องจับตา