เครื่องประดับ Unisex ทางเลือกสำหรับคนยุคใหม่

              ปัจจุบันกระแสการแต่งกายของผู้หญิงได้เปลี่ยนจากสไตล์วินเทจสีพาสเทล ไปสู่ความเรียบง่าย-เก๋-ใส่สบาย ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่แสนวุ่นวายและทุกนาทีมีค่า ทำให้รูปแบบของเครื่องประดับที่ผู้หญิงสวมใส่ในชีวิตประจำวันมีความคล่องตัว ไม่ได้ห้อยระย้าลงมาแบบคุณผู้หญิงในละคร 



              ขณะที่ผู้ชายก็หันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้นทั้งดูดีจากภายในโดยการสร้างกล้ามเนื้ออวดความแข็งแรงของรูปร่าง และดูดีจากรูปลักษณ์ภายนอกโดยการแต่งกายและการเลือกเครื่องประดับที่จะทำให้คุณผู้ชายดูเรียบหรู มีสไตล์ แล้วจะดีกว่าหรือไม่หากเครื่องประดับที่วางขายมีความเป็น Gender-Neutral หรือเรียกตามศัพท์สมัยใหม่ว่า Unisex ที่ไม่ว่าหญิงหรือชายก็สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างไม่ขัดเขิน โดยไม่มีการแบ่งแยกว่าสีน้ำเงินเป็นของผู้ชาย สีชมพูเป็นของผู้หญิง


             อย่างในร้านขายสินค้าสำหรับเด็ก ซึ่งจะเป็นการชูจุดขายและจุดแข็งของแบรนด์ในยุคที่คู่แข่งทางการค้าล้นตลาดได้อีกทางหนึ่ง ที่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็ได้ปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องประดับก็หันมาใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น

 

Cr www.gq.com
 
 
เครื่องประดับ Unisex ตรงใจคน Gen X&Y
 
 
              เพื่อตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่นยุคสมัยนี้ ที่ไม่ว่าหญิงและชายนิยมแต่งกายแบบฮิปสเตอร์ รวมทั้งแฟชั่นการแต่งกายที่เน้นความเรียบง่ายสไตล์มินิมอลอย่างเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่แค่หาแจ็คเก็ตเก๋ๆ มาคลุมก็สามารถออกไปทำงานได้ เครื่องประดับแบบ Unisex จึงตอบโจทย์ทั้งหญิงและชาย โดยกลุ่มเป้าหมายของสินค้าชนิดนี้ คือคน Gen X และ Y ที่เมื่อดูตัวเลขทางสถิติแล้วพบว่ามีจำนวนมากถึงครึ่งหนึ่งของประชากรไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะคน Gen Y นั้นคิดเป็นสัดส่วนถึงกว่า 30% ทั้งของประชากรไทย และประชากรโลก ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอัตราการใช้จ่ายต่อรายได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับประชากร Gen อื่นจึงทำให้วัยนี้เป็นวัยจับจ่ายที่น่าจับตามอง

 
เครื่องประดับดีไซน์แบบไหนที่ชายหญิงจะใช้ร่วมกันได้?
 
 
              หากกล่าวถึงเครื่องประดับ แน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึงว่าเป็นสิ่งที่คู่กันกับผู้หญิง เช่นเดียวกับร้านเครื่องประดับหลายแบรนด์ที่เมื่ออ่านชื่อร้านแล้วก็อดนึกถึงผู้หญิงไม่ได้ เช่น Tiffany, Victoria Buckley, Swarovski และ Pandora แต่ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา สร้อยข้อมือ สร้อยคอ หรือแม้กระทั่งต่างหูเองที่หลายคนคิดว่าเป็นเครื่องประดับของผู้หญิงเท่านั้น ก็สามารถออกแบบให้เป็นเครื่องประดับที่หญิงชายสามารถใช้ร่วมกันได้ โดยจะต้องมีความสวยงามที่มาพร้อมกับความกระฉับกระเฉง เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา มีรูปแบบที่สะท้อนความแข็งเกร่ง หรือเป็นรูปทรงเรขาคณิต เพื่อให้ได้ภาพลักษณ์ของความเป็นชาย รวมทั้งมีลูกเล่นเป็นลวดลายหรือประดับด้วยอัญมณีเพี่อให้ได้ความรู้สึกของความเป็นหญิง และที่สำคัญสีจะต้องคลุมโทน ไม่ฉูดฉาด หากเป็นต่างหูชายควรมีลักษณะไม่ใหญ่ และจะต้องเลือกได้ว่าจะซื้อเป็นคู่ หรือซื้อเพียงชิ้นเดียว
 
 
 
              การที่จะทำให้เครื่องประดับชิ้นนั้นๆ มีความพิเศษ การเอาใจใส่ในรายละเอียดของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการออกแบบให้เครื่องประดับมีรูปแบบเดียวกัน แต่สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพของทั้งชายและหญิงจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย อีกทั้งควรมีรูปแบบให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมทั้งการจัดร้านสำหรับวางขายควรระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเครื่องประดับสำหรับ Unisex จะทำให้ไม่เกิดความลังเลสำหรับลูกค้าชาย 
 
 
              จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นจะเห็นได้ว่าการเจาะตลาดเครื่องประดับชนิดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากหากทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพราะถ้าเราไม่เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงและปรับตัว คู่แข่งของเราจะทำแทน ...และสำหรับผู้บริโภคก็คงจะดีไม่น้อยหากสามารถแบ่งปันเครื่องประดับร่วมกับเพื่อนชายหรือสามีได้
 
 
 
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามข้อมูลได้ที่ infocenter.git.or.th ทางไลน์ที่ git_info_center
หรือติดตามผ่านเฟซบุ๊ค facebook.com/GITInfoCenter
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024