3 แบรนด์ดังเผยกลยุทธ์ก้าวให้เหนือคู่แข่ง

 

 
 
 
ผู้บริหารจาก 3 แบรนด์ ได้ดังเปิดบ้านให้สมาชิกไทยแลนด์ ทรัสต์ มาร์ก เยี่ยมชมธุรกิจ พร้อมแนะกลยุทธ์เจาะลึกการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น เป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ ตลอดจนไอเดียในการสร้างแคมเปญ ที่น่าสนใจ ในกิจกรรมอบรมใหญ่ประจำปีที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นเฉพาะสมาชิก Thailand Trust Mark
 
 
 
คิดต่างล้ำกว่าคู่แข่งเพื่อเป็นที่ 1 
 
"ศิริเพ็ญ  อินทุภูติ" ผู้บริหารสายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ได้กล่าวถึง สยามเซ็นเตอร์หลังจากเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ยาวนานกว่า 5 เดือน เพื่อให้เป็นเมืองแห่งไอเดียล้ำเทรนด์ โดยกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์สยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่นั้นเบื้องต้นต้องรู้ก่อนเลยว่าศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยมีการแข่งขันกันสูงมาก แต่จุดยืนหลักของสยามพิวรรธน์คือ การคิดอะไรให้ไกลกว่าผู้อื่น 1-2 ขั้นเสมอ (Think Ahead) จะไม่ทำสิ่งที่คู่แข่งหรือผู้อื่นได้ทำไปแล้ว ไม่มีการหยุดนิ่งอยู่กับที่ ต้องค้นคว้าข้อมูลหรือทำวิจัยทางด้านการตลาด ผู้บริโภค และเทรนด์ใหม่ตลอดเวลา เพื่อครองความเป็น 1 ของธุรกิจให้ได้ 
 
ดังนั้น โฉมใหม่ของสยามเซ็นเตอร์จึงเป็นศูนย์กลางของศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ และการออกแบบใหม่ ๆ จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าได้สนุกกับการมาที่แห่งนี้ หรือแม้แต่สินค้าก็จะมีความเป็นยูนีค (Unique) ทุกแบรนด์มีการผลิตสินค้าที่วางจำหน่ายเฉพาะสยาม เซ็นเตอร์ที่เดียวเท่านั้น หรือเรียกว่า แอปโซลูท สยาม (Absolute Siam) 
 
“นอกจากความผูกพันที่มีกับลูกค้าเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว สายสัมพันธ์อันดีที่มีกับผู้เช่าก็เป็นเรื่องสำคัญ บางแบรนด์อยู่กันมา 30-40 ปี การปิดเพื่อรีโนเวทใหม่ 5 เดือนนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจของผู้เช่า จึงได้จัดแคมเปญเซลส์มหัศจรรย์แห่งสยาม  เพื่อกระตุ้นยอดขายและทำให้มียอดขายครอบคลุมไปอีกหลายเดือนข้างหน้าที่จะไม่ได้เปิดให้บริการ มีการเน้นสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าอย่างเต็มที่ และได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด ซึ่งสิ่งที่เราทำเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเอื้อเฟื้อ เป็นห่วงเป็นใย ใส่ใจและดูแลในทุกๆ กลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่นี่” 
 
สำหรับสยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่นั้น ใช้งบประมาณเฉพาะการเปิดตัวไปถึง 200 ล้านบาท เพราะมีการขยายกลุ่มเป้าหมายในการสื่อสารไปถึงระดับเอเชีย อาทิ ในจีน และญี่ปุ่น อีกทั้งยังใช้ช่องทางจากบล็อกเกอร์ชื่อดังในระดับแนวหน้าของโลกมาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารไปยังลูกค้าต่างประเทศอีกด้วย   
 
 
 
ไม่หยุดสร้างสรรค์ให้แฟชั่น คาเฟ่ ทั้งในไทยและเทศ
 
"ปรีดากร   เมธเกรียงชัย" ผู้จัดการอาวุโสแผนกการตลาด บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด กล่าวว่า เกรฮาวด์เป็นแฟชั่นคาเฟ่รายแรกๆ ในเมืองไทย ภายใต้คอนเซปท์ “เท่ เก๋ เรียบง่าย แต่ไม่น่าเบื่อ” (Chic cool simple but never boring) มีการควบคุมคุณภาพและรสชาติอาหารอย่างต่อเนื่องด้วยเวิร์คช้อปภายในที่จัดเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา อีกทั้งในแต่ละปียังได้จัดเป็นเมนูพิเศษ (Special Menu) เพื่อให้เกิดความหลากหลายและไม่น่าเบื่ออีกด้วย 
 
“ปัจจุบันเกรฮาวด์ คาเฟ่ ได้ขยายตลาดไปยังต่างประเทศในรูปแบบแฟรนไชส์ แล้ว 5 สาขา แบ่งเป็นฮ่องกง 3 สาขา และจีน 2 สาขาด้วยคอนเซ็ปท์ “บางกอก คาเฟ่” เป็นร้านอาหารที่ทันสมัยแต่ลูกค้ารับรู้ว่ามาจากรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยในเมนูจะมีอาหารที่เหมือนกับเมืองไทยประมาณ 80% และอีก 20% เป็นเมนูที่ปรับให้เข้ากับความเป็นท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ โดยเป็น
 
การขายแฟรนไชส์ให้กับ กายา กรุ๊ป แมเนจเมนท์ ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารกว่า 10 แบรนด์ทั้งในฮ่องกงและจีน แต่ขณะเดียวกันเรายังคงยึดหลักการดำเนินงาน 2 ประการสำหรับการขยายตลาดไปยังต่างประเทศคือ ผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมาตรฐาน มีการควบคุมอย่างต่อเนื่อง และความแข็งแรงของแบรนด์ที่ชัดเจน มีความเป็นแฟชั่นผสม ไม่เชย มีความสนุกในอาหารแต่ละจาน” ผู้บริหารหนุ่มกล่าว 
 
โดยความแตกต่างของการขยายตลาดไปยังทั้ง 2 ประเทศนั้นคือ ที่ฮ่องกงลูกค้าค่อนข้างเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และชอบทดลอง จึงเห็นได้ว่ามีการขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว แต่ที่จีนนั้นลูกค้าจะค่อนข้างมีความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในระดับสากล และยึดติดกับแบบแผนเดิมๆ อีกทั้งกฎหมายที่จีนค่อนข้างเคร่งครัดกว่ามาก ทำให้เกรฮาวด์ต้องใช้ระยะเวลาในการแนะนำตัวเองว่าเป็นใคร มาจากไหน มีเส้นทางการเติบโตอย่างไรจนมาถึงที่จีนได้ แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองประเทศนี้ก็ยังมีจุดยืนและจุดขายที่เหมือนกัน และทั้งเกรฮาวด์ในประเทศไทยและต่างประเทศก็ยังคงยึดนโยบายในการทำให้ธุรกิจยั่งยืนคือการไม่หยุดด้านความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจอยู่เสมอ 
 
 
 
โซเชียล มีเดีย หัวใจสำคัญของการสร้างประกฎการณ์แม็กนั่มฟีเวอร์
 
"มาริสา  จงคงคาวุฒิ" ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาด – ไอศกรีม บริษัท ยูนิลิเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เป็นอีกแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากในปีที่ผ่านมากับการสร้างปรากฏการณ์แม็กนั่ม ฟีเวอร์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พรีเซนเตอร์ซึ่งเป็นดาราระดับแถวหน้าของเมืองไทย การทำให้แม็กนั่ม คาเฟ่ หรือซูเปอร์ ป๊อบอัพ สโตร์แห่งแรกในไทยที่สยามเซ็นเตอร์ เป็นสถานที่ที่ใครๆ ต้องอยากมา และยอดขายของไอศกรีมที่ทะลุเป้าด้วยยอดขายเพียง 1 เดือนเท่ากับยอดขายตลอดทั้งปี ได้กล่าวถึงความสำเร็จของการรีลอนช์แบรนด์ในครั้งนี้ว่า
 
“ด้วยความที่แม็กนั่มเป็นแบรนด์ไอศกรีมในระดับสากลที่ต้องการรีลอนช์พร้อมกันทั่วโลกจึงทำเป็นแคมเปญที่แต่ละประเทศต้องทำให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศของตัวเอง และสำหรับประเทศไทยนอกจากรูปแบบแคมเปญที่ได้ทำกันอย่างต่อเนื่อง และการใช้สื่อโฆษณาที่ครอบคลุมทุกช่องทาง อาทิ การโฆษณาทางโทรทัศน์ที่ยาวถึง 60 วินาที  การนำผลิตภัณฑ์ขึ้นปกนิตยสารชั้นนำหลายเล่ม และสื่อ ณ จุดขายต่างๆ 
 
นอกจากนี้ ยังมีช่องทางสำคัญอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้แคมเปญนี้สำเร็จคือ การใช้สื่อดิจิทัล หรือการใช้โซเชียล มีเดียเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ทั้งการทำกิจกรรมผ่านเฟซบุ๊ค การส่งผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มทีเป็น โอพีเนียน ลีดเดอร์ในแวดวงต่างๆ อาทิ เซเลบริตี้ ดีเจ บล็อกเกอร์ ฯลฯ ได้ทดลองชิมและโพสต่อในโซเชียล มีเดีย ประกอบกับ   แบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้ง 5 ท่านนั้นต่างก็มีผู้ติดตามอินสตาแกรมเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้ได้รับข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณาเลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์มาตั้งแต่แรก กลยุทธ์ด้านการใช้สื่อดิจิทัลของแม็กนั่มในครั้งนี้จึงนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จ” 
 
 
 

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก Chaos Packaging บรรจุภัณฑ์สุดแหวกที่ทำให้แบรนด์ “ปัง” ในพริบตา

เคยเห็นครีมกันแดดในกระป๋องวิปครีมไหม? หรือผ้าอนามัยที่ดูเหมือนไอศกรีม? นี่แหละ Chaos Packaging! กลยุทธ์ที่ทำให้คนงง แต่จำได้ไม่ลืม ถ้าอยากให้สินค้าสร้างกระแส กระตุ้นความอยากรู้ ลองคิดนอกกรอบด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ “แหวกแบบมีแผน”

จิบกาแฟยังไงให้สนุกขึ้น! แก้วน้ำติดแม็กเน็ต เปลี่ยนอารมณ์ได้ตามใจชอบ

จะดีกว่าไหม? ถ้าได้นั่งจิบกาแฟแก้วโปรดทุกวัน แต่สามารถเปลี่ยนอารมณ์บนลวดลายแก้วได้ตามชอบใจง่ายๆ จากแก้วใบเดิม ให้กลายเป็นแก้วใบใหม่

โอกาสธุรกิจแมลง ทางเลือกโปรตีนสุดล้ำสำหรับ SME

โปรตีนแห่งอนาคต ไม่ใช่แค่เนื้อสัตว์ แต่คือ "แมลง" แหล่งโปรตีนที่ยั่งยืน ใช้ทรัพยากรน้อย ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก นี่จึงเป็นโอกาสทองของธุรกิจไทยในตลาดที่กำลังเติบโต