อย่ามองข้าม Cross-Border e-Commerce ตลาดใหญ่บนโลกออนไลน์

Text : ดร.สุทธิกร กิ่งแก้ว 
          ผู้อำนวยการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจ
 
 

 
     จากสัดส่วนมูลค่า e-Commerce ในปี 2558 พบว่า 92.31 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประกอบการ ทำการขายสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคในประเทศเป็นหลัก มีผู้ประกอบการเพียง 7.69 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ขายสินค้าและบริการทางออนไลน์ให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศ ในขณะที่ตลาด Cross-Border e-Commerce หรือตลาดการค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทาง e-Commerce ของโลกกำลังขยายตัวอย่างมาก จากการคาดการณ์ของ Alibaba ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ e-Commerce ประเมินว่า Cross-Border e-Commerce จะมีมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 จึงถือว่าเป็นโอกาสสำคัญของ SME ไทยที่จะก้าวเข้าไปมีส่วนร่วมในการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทาง e-Commerce ในตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ

 
     ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME ประสบความสำเร็จในการส่งออกหรือเข้าถึงตลาดต่างประเทศที่เหมาะสมกับสินค้าที่ผลิต คือการมีเครื่องไม้เครื่องมือด้านเทคโนโลยี e-Commerce ที่ช่วยให้การดำเนินงานตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งสินค้าถึงมือลูกค้าในประเทศเป้าหมายทำได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ 

 
     ระบบตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) และระบบสังคมออนไลน์ (Social Media)

     
     e-Marketplace เปรียบได้กับตลาดขนาดใหญ่ ซึ่งภายในเว็บไซต์ได้รวบรวมสินค้าตามหมวดหมู่ โดยเว็บไซต์จะประกอบไปด้วยข้อมูลของสินค้า เว็บไซต์ของร้านค้า เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าชมรายละเอียดสินค้าที่สนใจได้ภายในที่เดียว ซึ่งเว็บไซต์ต่างๆ เหล่านี้เป็นเครื่องมือที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวกลางเหล่านี้


     โดยมีทั้งเว็บไซต์ของภาคเอกชน เช่น eBay, Alibaba, Amazon หรือเว็บไซต์จากหน่วยงานรัฐ เช่น Thaitrade.com ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอสินค้าให้กับผู้ซื้อจากทั่วโลกได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมเว็บไซต์ในแต่ละแห่งนั้นมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้ประกอบการต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเลือกเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน

 
     นอกเหนือจากระบบ e-Marketplace แล้วการใช้ Social Media ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยสามารถขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศได้โดยง่าย โดยผู้ประกอบการอาจจะเริ่มต้นจากการทำข้อมูลสินค้าและบริการในรูปแบบภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้ซื้อในต่างประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลของธุรกิจท่านได้บนช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Instagram เป็นต้น

 
     การสร้างระบบ e-Commerce สำหรับจับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศนั้นนอกเหนือจากการมีช่องทางการสื่อสารและการซื้อ-ขายผ่านระบบ e-Marketplace และ Social Media แล้ว การวางระบบการชำระเงินที่มีมาตรฐานก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้ซื้อสินค้าและบริการในต่างประเทศ ดังนั้น ผู้ประกอบการ SME ไทยจึงควรพิจารณาวางระบบการชำระเงินในรูปแบบต่างๆ และใช้เครื่องมือสำหรับช่วยการชำระเงินที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างเช่น ระบบ PayPal ที่เปรียบเสมือนคนกลางที่ช่วยดูแลการซื้อ-ขายให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถดำเนินธุรกรรมได้โดยสะดวก

 
     ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ถึงเครื่องมือและแนวทางสำหรับ SME ไทยในการใช้ช่องทางออนไลน์สำหรับการทำธุรกิจ e-Commerce โดยนอกเหนือจากการพัฒนาและมุ่งขยายการใช้งาน e-Commerce สำหรับการซื้อ-ขายสินค้าและบริการภายในประเทศแล้ว ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญต่อการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจไปยังต่างประเทศผ่านเครื่องมือด้าน e-Commerce เพื่อสร้างการเข้าถึงผู้บริโภคในต่างประเทศโดยไม่จำเป็นต้องผ่านคนกลาง (Trader) ทั้งนี้เป็นการลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่การส่งออกในรูปแบบเดิมต้องเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง

Color Psychology: จิตวิทยาเรื่องสี ที่แบรนด์ใหญ่ใช้เพิ่มยอดขาย

สี…ก็เปลี่ยนยอดขายได้ ทำไม Facebook ใช้สีน้ำเงิน? ทำไม Chanel ถึงเลือกสีดำทอง? ทำไมฟาสต์ฟู้ดต้องสีแดง-เหลือง? คำตอบอยู่ที่ “Color Psychology” จิตวิทยาของสีที่แบรนด์ใหญ่ใช้สร้างกำไรมาแล้วทั่วโลก