10 Checklist ต้องมี ถ้าอยากขายดีบนโลกออนไลน์





     

     เดี๋ยวนี้การเป็นเจ้าของธุรกิจบนโลกออนไลน์มันช่างง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณมีอีเมล กดสมัคร สร้างร้านค้า เท่านี้คุณก็เริ่มต้นธุรกิจ สร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์ได้แล้ว ด้วยความง่ายแบบนี้ทำให้ใครหลายคนกระโดดเข้ามาเล่นบนโลกออนไลน์ ทุกโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยแบรนด์ต่างๆ ที่ลงแข่งขัน นอกจากคู่แข่งจะเยอะแล้ว ลูกค้ายังตัดสินใจซื้อสินค้ายากขึ้นด้วย หลายแบรนด์โอดโอยเป็นเสียงเดียวกันว่าขายยากเหลือเกินในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นหากคุณอยากเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จและขายดีบนโลกออนไลน์ ต้องวางกลยุทธ์ให้ดี  โดย 10 Checklist ต่อไปนี้จะทำให้คุณตัวเองว่ายังขาดอะไรบ้าง
 
  • ตั้งเป้าหมายไว้ให้ชัดเจน      
     เป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น การตั้งเป้าหมายต้องเริ่มจากการที่คุณรู้จักตัวเองดีพอ รู้ว่าคุณคือใคร คุณกำลังทำอะไรและคุณต้องการอะไร ถ้าคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ คุณก็จะสามารถสื่อสารให้ทุกคนรู้จักคุณได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนยังทำให้คุณสามารถกำหนดธีมของแบรนด์ ธีมการทำคอนเทนต์ไปจนถึงการขายสินค้าให้ตรงจุด
 
  • กลุ่มผู้ชมต้องใช่
     กลุ่มผู้ชมในที่นี้ก็คือลูกค้าของคุณนั่นเอง เหล่าผู้ชมที่จะติดตามคุณในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter ไปจนถึงผู้ชมในเว็บไซต์ของคุณนั้น ใช่คนที่คุณตามหาหรือยัง ถ้าคุณตอบว่าใช่ คำถามต่อมาคือคุณรู้จักพวกเขาดีแค่ไหน การที่คุณรู้จักกลุ่มผู้ชมของคุณเป็นหัวใจสำคัญในการทำ Online Marketing  
 
  • ใช้แพลตฟอร์มให้เหมาะสม
     ตอนนี้มีหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้เยอะมากบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ในการสร้าง Community หรือสร้างกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน Youtube ที่เหมาะสำหรับการทำคอนเทนต์วีดีโอ หรือ Instagram ที่สามารถให้คุณสามารถโชว์รูปสวยๆ เปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดรวมไปถึงการลงเรื่องราวของแบรนด์คุณแบบเรียลไทม์ใน Story
 
  • ​คิดถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์
     เชื่อว่าทุกแบรนด์ต้องมีเรื่องราว ที่มาที่ไปกว่าจะก่อร่างสร้างตัวมาเป็นธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของคุณได้ในทุกวันนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือการสื่อสารออกไปให้ชัดเจนว่าทำไมลูกค้าถึงต้องเลือกคุณ คุณพิเศษกว่าอีกหลายหมื่นแบรนด์บนโลกออนไลน์อย่างไรด้วยการใช้คอนเทนต์เป็นเครื่องมือ นี่เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากทีเดียว คุณต้องมองจากวัตถุดิบในมือที่คุณมี เช่น ที่มาของแบรนด์คุณน่าสนใจ คุณมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่หาไม่ได้จากที่อื่น แบรนด์ของคุณดีต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ร้านของคุณตกแต่งไม่เหมือนใครไปจนถึงวิธีการทำงานของคุณและอีกหลายอย่างที่ลูกค้าอยากรู้
 
  • รู้จักคีย์เวิร์ดของตัวเอง
     การรู้จักคีย์เวิร์ดของตัวเองจะทำให้คุณสามารถสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น เช่น  ถ้าคุณนึกถึง Apple จะต้องนึกถึง iPhone, iPad, Technology, Smart ความฉลาดของผู้ก่อตั้ง เพราะ Apple มีการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทำให้คนคิดถึง Apple ก็สามารถนึกภาพได้เป็นฉากๆ ถึงสินค้าของแบรนด์ ที่คุณต้องทำคือการหาคีย์เวิร์ดของตัวเอง พยายามใช้คีย์เวิร์ดในการสื่อสารกับลูกค้าของคุณในโซเชียลมีเดียต่างๆ นอกจากนี้การใช้ Hashtag ก็มีพลังในการสื่อสารเช่นเดียวกัน ลองหา Hashtag ที่ใช่สำหรับแบรนด์คุณและอย่าลืมใส่ Hashtag ที่จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใช่ด้วยเช่นกัน
 


  • จัดตารางการโพสต์เนื้อหา
     อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องมีคือการจัดตารางในการโพสต์และนำเสนอเนื้อหาต่างๆ คุณอาจจะสร้างเป็นตารางประจำเดือนหรือประจำสัปดาห์เพื่อช่วยทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของการนำเสนอเนื้อหาทั้งหมด นอกจากนี้ยังทำให้คุณควบคุมความสมดุลระหว่างเนื้อหาการขายและเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ด้วย
 
  • ลองใช้ Social Tool
     เวลาที่คุณใช้ Social Media หลายๆ แพลตฟอร์มพร้อมกันอาจจะทำให้คุณรู้สึกปวดหัวขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเวลาโพสต์ในแต่ละช่องทาง การเก็บสถิติ โพสต์แบบไหนดี แบบไหนไม่ดี ลองใช้ Social Media Tool เพื่อควบคุมการทำงานบน Social Media ของคุณดีกว่า เช่น Hootsuite เป็น social media management ช่วยให้คุณจัดการ Social ของคุณทุกช่องทางได้พร้อมกัน ช่วยประหยัดเวลาแถมยังมี Report ดูสถิติได้ง่ายๆ
 
  • อย่าลืมทบทวนตัวเองตลอดเวลา
     ความสะดวกของการใช้ Social Media ในการทำแบรนด์คือการที่คุณสามารถ Tracking ตัวเลขได้ตลอดเวลา ต่างจากการทำ Marketing แบบ Manual ที่เก็บสถิติได้ยาก อย่างการดูตัวเลขบน Facebook ง่ายๆ ก็คือการดูยอดคนเข้าถึงโพสต์ จำนวนคนไลค์ คนแชร์แถมยังมีหลังบ้านให้คุณดูตัวเลขแบบ Insight การนำตัวเลขเหล่านี้มาวิเคราะห์บ่อยๆ จะทำให้คุณรู้ว่าผู้คนใน Social Media ของคุณชอบเรื่องราวแบบไหน เวลาไหนเป็นเวลาที่ดีที่สุด พวกเขามี Reaction อย่างไรกับโพสต์ของคุณ
 
  • หมั่นปรับปรุงกลยุทธ์
     ด้วยความที่ Social Media เป็นอะไรที่เร็ว เปลี่ยนได้ตลอดเวลาอีกทั้งพฤติกรรมของลูกค้าบนโลกออนไลน์ยังเข้าใจได้ยาก วันนี้ชอบแบบนี้ พรุ่งนี้อาจจะชอบอีกแบบ ทำให้คุณต้องเรียนรู้และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตัวเอง อย่าหยุดนิ่ง คล้ายกับเป็นการทำงานทดลอง อะไรที่โดนใจก็เก็บไว้ทำต่อ อะไรที่ไม่โดนใจวันหน้าอาจจะโดนใจก็ได้ เพราะฉะนั้นต้อง Active ตัวเองอยู่เสมอ
 
  • จับตามองคู่แข่ง
     ในการจับตาดูคู่แข่ง ไม่ได้หมายความว่าให้คุณก็อปปี้ความสำเร็จของเขา แต่เป็นการเรียนรู้เขาอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไร อะไรที่เขาทำแล้วดีก็เรียนรู้ไว้ อะไรที่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจก็ต้องจดจำไว้และอย่าทำแบบนั้นเด็ด อย่ามองว่าคู่แข่งคือคู่แข่ง มองว่าพวกเขาเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ต้องเรียนรู้



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024