​​5 เทคนิคไม่เคย Out!!! ดันธุรกิจโต





 


 

ศึกษาคู่แข่ง


     รู้เขา รู้เรา เป็นกลยุทธ์ที่ยังใช้ได้เสมอในการทำธุรกิจ แบรนด์ต่างๆคงมองแต่ตัวเองไม่ได้ ต้องรู้ด้วยว่า คู่แข่งของคุณคือใคร ขายสินค้าหรือบริการอะไร ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นแนวทางที่จะมาพัฒนาตัวโปรดักต์ของคุณได้ บางทีการเอาจุดอ่อนของคู่แข่งมาปรับให้เป็นจุดแข็งจะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับแบรนด์ของคุณได้
 




รู้ว่าเทรนด์ไหนกำลังมา

     แบรนด์ต้องรู้ว่ามีสินค้าหรือบริการตัวไหนที่กำลังมาแรงและสามารถนำมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจได้ หรือพูดง่ายๆว่า ต้องรู้ว่า เทรนด์ไหน In เทรนด์ไหน Out จะได้ไม่ตกยุคและเข้าใจถึงความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ แต่อย่าลืมว่าจะตามเทรนด์ไหนหรือใช้กลยุทธ์อะไรต้องมีความเหมาะสมกับตัวแบรนด์ด้วย
 




อย่าเจาะตลาดใหญ่ ถ้าไม่พร้อม

     หากแบรนด์อยากทำการขยายฐานตลาดไปตลาดใหม่ ต้องดูความพร้อมและกำลังของตัวก่อน สิ่งที่ควรคิดคือควรเลี่ยงการไปขายในตลาดที่มีขนาดใหญ่และเกินกำลัง เช่นการคิดว่าถ้าได้ตลาดจีนสัก 1 เปอร์เซ็นต์ก็คงดีอาจเป็นความคิดที่ผิดถ้าแบรนด์ยังไม่พร้อมที่จะลุยจริงๆ แต่ถ้าอยากเจาะตลาดเฉพาะหรือ Niche Markets จริงๆ แบรนด์ควรจำให้ขึ้นใจว่า ต้องตอบสนองความต้องการของตลาดด้วยการนำเสนอสิ่งใหม่ๆและน่าสนใจ มีความเข้าใจในตัวตลาดและรู้สถานการณ์ดีว่าใครๆก็อยากเข้ามาเป็นผู้เล่น รวมถึงระดับภาษาที่ใช้เช่นในสโลแกนหรือแคมเปญต่างๆต้องมีความเหมาะสมกับตลาด


 

รับฟัง Feedback จากลูกค้า

     แบรนด์จะสามารถพัฒนาธุรกิจได้เมื่อยอมรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายว่าคุณต้องนอยด์ถ้ามีลูกค้า 1 คนไม่ชอบหรือติโปรดักต์ของคุณ แต่ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่รู้สึกอย่างนั้น ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องรับฟังเพื่อนำมาปรับปรุง
 




พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงเสมอ

     การเปลี่ยนแปลงในวงการธุรกิจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นแบรนด์ต้องมีความยืดหยุ่นและมีความสามารถที่จะปรับตัว ต้องพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากทำไม่ได้อาจทำให้แบรนด์ต้องสูญเสียลูกค้า กำไรหรืออาจหนักถึงขั้นที่ต้องปิดกิจการทิ้งเลยทีเดียว    


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”  

โอกาสชาไทย สู่เวทีโลก ในวิกฤต matcha ขาดตลาด

กระแสมัทฉะพุ่งแรงตั้งแต่ปี 2568 ขณะที่ปริมาณผลผลิตลดลงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เกิดภาวะของขาดตลาดในหลายภูมิภาค สำหรับผู้ประกอบการไทย นี่คือโอกาสทอง