​ไลฟ์สดบนเวทีแฟชั่นจีนบูม! ก่อกระแส See Now, Buy Now โดนใจลูกค้า Gen Z





 
               

     นาทีนี้หากไม่พูดถึง live-streaming หรือการไลฟ์สดบนอินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากก็ดูจะตกกระแสไปหน่อยเพราะการไลฟ์สด นอกจากเป็นเครื่องมือในการเพิ่มยอดขายสินค้า ยังเป็นช่องทางการจำหน่ายที่ผู้บริโภคสามารถรับชมและแสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ นำไปสู่พฤติกรรมที่เรียกว่า See Now, Buy Now ทั้งนี้ บรรดาแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ท้องถิ่นของจีนเองต่างทานกระแสไม่ไหวและหันมาไลฟ์กันเป็นแถว
               

     การไลฟ์สดได้กลายเป็นรูปแบบยอดนิยมในจีน หลังจากที่มีการไลฟ์สดเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนแพลทฟอร์มนี้จะแพร่หลายยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ อย่างอาลีบาบา อี-คอมเมิร์ซอันดับ 1 ของจีนก็ไลฟ์สดบน “เถาเป่า” แพลทฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ของบริษัทตั้งแต่ปี 2016 ทำให้พบว่า 80% ของผู้ชมเป็นผู้หญิง ครึ่งหนึ่งของผู้ชมจำนวนดังกล่าวเป็นลูกค้ากลุ่ม Gen Z หรือ post-millennials และคนกลุ่มนี้โดยมากคลิกสั่งออร์เดอร์ช่วง 20.00-22.00 น.   
               

     ไม่ใช่แค่อี-คอมเมิร์ซระดับยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบา เว็บซื้อขายสินค้าแฟชั่นและเครื่องแต่งกายมือสองในเซี่ยงไฮ้อย่าง Pawnstar ก็กระตุ้นยอดขายด้วยการไลฟ์สดผ่าน WeChat สัปดาห์ละ 4 ครั้ง มีผู้ชม 2-3 หมื่นราย อายุเฉลี่ย 20-35 ปีและเป็นกลุ่มผู้หญิงที่อาศัยในเมืองรองทั่วจีน ซึ่งการไลฟ์สดของ Pawnstar ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นคิดเป็น 30% ของยอดขายทั้งหมด


     รายงานระบุว่าหากเป็นการไลฟ์สดรายการใหญ่ๆ อาจเรียกผู้ชมได้มากหลายสิบล้านคน เช่น การไลฟ์สดงานเซี่ยงไฮ้ แฟชั่นวีคที่ร่วมกันระหว่างทีมอลล์ (อีกแพลทฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ของอาลีบาบา) กับเลเบลฮู้ด ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มแสดงสินค้าเมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมามียอดวิวเกือบ 90 ล้านวิว นับเป็นช่องทางการเข้าถึงผู้ชมที่ดีช่องทางหนึ่งของบรรดาดีไซเนอร์อิสระที่หากเป็นเมื่อก่อนคงทำไม่ได้ขนาดนี้  
               

     สำหรับแพลทฟอร์มหลักๆ ที่มีการไลฟ์สดเป็นประจำ ประกอบด้วยเถาเป่า, ทีมอลล์ม, ไชน่าเหว่ยป๋อ, เจดีดอทคอม และยังมีเว็บเล็กเว็บน้อยอีกมากที่ทำการไลฟ์เช่นกัน เอไลซ่า ฮาร์คา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของเรดแอนท์ เอเจนซี่ดิจิทัลให้ความเห็นว่าการไลฟ์สดเป็นเทรนด์ระดับโลกที่มีมาระยะหนึ่งและตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในจีน หลาย ๆ แชนเนลได้ปรับเพื่อให้เหมาะกับวัฒนธรรมของกลุ่ม Gen Z ที่เปิดกว้างในการวิพากษ์วิจารณ์และเป็นเป้าหมายสำคัญของการทำการตลาดแบบผสม หากวางแผนดี ๆ การไลฟ์สดจะเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์อย่างมาก
               

     ด้านปีเตอร์ ซู บลอกเกอร์ผู้มีอิทธิพลในวงการแฟชั่นเซี่ยงไฮ้และได้รับเชิญไปแสดงความเห็นในหลายสื่อกล่าวว่าเหว่ยป๋อซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่สำคัญของจีนยังเป็นช่องทางหลักที่ผู้คนใช้งาน เข้าถึงและทำให้สมาชิกจำนวนมากได้เข้ามาพูดคุย มีปฏิสัมพันธ์และสามารถตอบโต้กับแบบทันทีทันใด และไม่ใช่เฉพาะแบรนด์ท้องถิ่นของจีนที่ใช้วิธีนี้ แบรนด์แฟชั่นจากต่างชาติ เช่น จิออร์จิโอ อาร์มานี หรือเมซี่ และเลน ครอวฟอร์ดก็เตรียมไลฟ์สดเพื่อเข้าหาลูกค้าจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน
               

     ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการไลฟ์สดของแชนเนลต่าง ๆ คือการจ้าง KOL (Key Opinion Leader) หรือผู้มีอิทธิพลในการแสดงความเห็นในโลกโซเชียลมาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ และเนื่องจากการไลฟ์สดมีข้อจำกัดเรื่องเวลา จึงมีผลต่อจิตใจของผู้ชม นำไปสู่การช้อปแบบ See Now, Buy Now กล่าวคือเวลาในการไลฟ์ที่ไม่ยาวนาน นอกจากเหมาะกับผู้ชนที่ความสนใจสั้น ยังเป็นปัจจัยเร่งเร้าให้ผู้ชมตัดสินใจซื้อในเวลาอันรวดเร็วนั่นเอง
               

     ว่าด้วยเรื่องการไลฟ์สดจากขอบรันเวย์ ข้อมูลชี้มีมานานเกือบ 10 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านั้น การจัดแฟชั่นวีคเพื่อแสดงคอนเลคชั่นของเหล่าดีไซเนอร์มักจำกัดผู้เข้าชมว่าเป็นบุคคลในวงการแฟชั่นหรือเซเลบเท่านั้น แต่การมาถึงของโซเชียลมีเดียทำให้กระแสเปลี่ยนไป เพื่อเข้าถึงผู้ชมจำนวนกว้างขึ้น จึงมีการไลฟ์สด โดยเมื่อปี 2009 การไลฟ์สดเกิดขึ้นข้างเวทีแสดงคอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2010 ในปารีสของเอล็กซานเดอร์ แมคควีนที่ตัวดีไซเนอร์เป็นคนไลฟ์เองเลย จากนั้นก็ตามด้วยงานโชว์ของแบรนด์อื่น เช่น มาร์ค จาคอบ และเบอร์เบอรี จนกระทั่งปี 2011 วงการแฟชั่นอ้าแขนรับการไลฟ์สดเต็มตัว เรียกได้ว่าแทบไม่มีแบรนด์แฟชั่นไหนไม่ไลฟ์ และท้ายที่สุดการไลฟ์สดก็ได้แพร่หลายไปยังฝั่งจีนจนถึงบัดนี้
 


อ้างอิง
www.racked.com/2015/9/10/9279091/new-york-fashion-week-live-stream-shows
www.scmp.com/lifestyle/fashion-beauty/article/2144730/chinas-live-streaming-fashion-boom-woos-gen-z-buyers



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง

Color Psychology: จิตวิทยาเรื่องสี ที่แบรนด์ใหญ่ใช้เพิ่มยอดขาย

สี…ก็เปลี่ยนยอดขายได้ ทำไม Facebook ใช้สีน้ำเงิน? ทำไม Chanel ถึงเลือกสีดำทอง? ทำไมฟาสต์ฟู้ดต้องสีแดง-เหลือง? คำตอบอยู่ที่ “Color Psychology” จิตวิทยาของสีที่แบรนด์ใหญ่ใช้สร้างกำไรมาแล้วทั่วโลก