ลัดเลาะมาแถวย่านอารีย์ถึงอารีย์สัมพันธ์จะเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านเก๋ๆ เปิดใหม่อยู่เต็มไปหมด แต่มีหนึ่งร้านที่สะดุดตาคนผ่านไปผ่านมาตั้งแต่แรกเห็นชื่อ Oh Vacoda Café ตั้งอยู่หน้าปากซอยอารีย์สัมพันธ์ซอย 4 สีส้มอมพีชโดดเด่นมาแต่ไกล สไตล์ของร้านมีความน่ารัก ดูย้อนยุค เมื่อเราได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านก็ได้รู้ว่า ที่นี่ไม่ใช่คาเฟ่ธรรมดา แต่คือคาเฟ่ที่อัดแน่นไปด้วยเมนูสุดสร้างสรรค์จากอะโวคาโดล้วนๆ
2 หนุ่มสาวสุดแนวเจ้าของร้าน Oh Vacoda Café เพียงพลอย - รุจิยาทร โชคสิริวรรณ และ บอม - วัชรพงษ์ ทองยาน ได้มาแชร์ไอเดียการดีไซน์เมนูจากอะโอคาโดจนกลายมาเป็นคาเฟ่อะโวคาโดที่ยังไม่ค่อยได้เห็นในเมืองไทย โดยเพียงพลอยได้บอกว่าคนไทยส่วนใหญ่มักจะคิดว่าอะโวคาโดเลี่ยน กินยากแต่ด้วยความที่ตัวเธอเองและบอมเป็น Avocado Lover หลงใหลในการกินอะโวคาโดอยู่แล้วจึงอยากจะนำวัตถุดิบนี้มาสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ
เพียงพลอย: “เราสองคนชอบกินอะโวคาโดมาก กินตั้งแต่ที่คนยังไม่ค่อยกินกัน สิ่งที่เราทำคือการเอาชนะมันด้วยการนำมาใส่ในเครื่องดื่ม พื้นฐานของเราสองคนคือบาริสต้า เรามีความรู้ด้านเครื่องดื่ม เราเลยพยายามที่จะตัดความเลี่ยนของอะโวคาโดออกไป Tagline ของร้านเราคือ Bangkok Style Avocado คนจะชอบคิดว่ามันเลี่ยน มันจืด เราเลยอยากลบภาพความคิดนั้นออกไปด้วยการทำให้อะโวคาโดเป็นอะไรที่กินได้ทุกวัน”
เรื่องของการพัฒนาเครื่องดื่มว่าจะจับอะโวดาโดมาเล่นกับเมนูอะไรดี หน้าที่นี้เลยตกเป็นของบอมเป็นหลัก โดยมีพลอยคอยซัพพอร์ท ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นบาริสต้า จึงทำให้เรื่องของการทำเครื่องดื่มกลายเป็นอะไรที่ครีเอทสุดๆ
บอม: “ความจริงอะโวคาโดมันก็เหมือนผลไม้ทั่วไป เอามาทำเครื่องดื่มได้อยู่แล้ว แต่เราเองก็ต้องทำความเข้าใจอะโวคาโดว่ารสชาติมันเป็นยังไง เนื้อมันเป็นยังไง สัมผัสมันเป็นยังไง กลิ่นเป็นแบบไหน แล้วเราจะเอามาจับคู่กับอะไรที่จะช่วยชูกันเพื่อให้อะโวคาโดอร่อยขึ้นมา”
เมนูเครื่องดื่มของร้าน Oh Vacoda Café จะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทด้วยกันคือกาแฟ สมูทตี้และชา โดยแต่ละเมนูจะไม่ใส่แค่การจับอะโวคาโดลงไปผสม แต่ถูกคิดมาอย่างมีชั้นเชิง
บอม: “เมนูที่ไม่ค่อยมีให้เห็นอย่างตัว Americado ความจริงแล้วคือ Americano ที่เราเอาตัวเม็ดอะโวคาโดไปทำ Process พอมีน้ำออกมาจะกลายเป็นชาทันที ซึ่งตัวเม็ดมันไม่ค่อยมีคนกิน เราเอามาจัดการเพื่อดึงกลิ่น ดึงรสชาติมันออกมา จากนั้นเราเอาน้ำมันมาผสมกับกาแฟแทนน้ำเปล่า ก็เลยกลายเป็นเมนู Americado จะมีกลิ่นของอะโวคาโดเด้งออกมา”
เพียงพลอย: “เม็ดตัวนี้คนอาจจะมองว่ามันกินไม่ได้แต่ความจริงแล้วมันกินได้ พอเราศึกษากลายเป็นว่ามันช่วยลดความอ้วนด้วย ลดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดคอเลสเตอรอล นอกจากนี้เรายังมีทำซอสช็อกโกแลตจากอะโวคาโด แทนที่เราจะใช้ช็อกโกแลตปกติ เราเอาอะโวคาโดไปตีกับช็อกโกแลต คือในภาษาไทยจะเรียกอะโวคาโดว่าลูกเนย จินตนาการว่าเราโยนเนยลงไปหนึ่งก้อนในช็อกโกแลต ทำให้ซอสช็อกโกแลตเราจะมีความเข้มข้น ความมันมากขึ้น เราก็จะใช้ซอสในการทำเมนู Mochado (ม็อกค่า) และ Cacao-Cado (โกโก้) สำหรับคนที่ไม่ทานกาแฟ”
ความพิเศษอีกอย่างคือการใช้เม็ดอะโวคาโดที่นำไปผ่าน Process จะออกมาเป็นน้ำชา โดยบอมและพลอยจึงได้นำน้ำชาอะโวคาโดให้คนที่เป็น Master Tea เบลนชาให้ออกมาทั้งหมด 6 สูตรด้วยกัน เลือกกลิ่นที่เข้ากับอะโวคาโด เช่น Green Tea, Cocoa nibs, Black Tea หรือใครที่ชอบความเปรี้ยวก็จะมีการเบลนกับเปลือกส้ม
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารที่สร้างสรรค์มาจากอะโวคาโดอีก 2 เมนูคือ Kaprao Avocado Chips ผัดกระเพราที่เสิร์ฟด้วยอะโวคาโอคลุกกับผงกระเพราแล้วนำไปทอดแบบ Deep Fried และ Pancake Avocado Bacon แป้งแพนเค้กที่ถูกตีกับอโวคาโดทอดพร้อมกับเบคอน ท็อปปิ้งด้วยไข่และอะโวคาโดราดน้ำผึ้ง
เพียงพลอย: “เราเรียกว่ามันคือ Bangkok Twist เอาสิ่งที่คนกินกันทุกวันอย่างข้าวผัดกระเพรา แพนเค้กมาใส่อะโวคาโดแบบมีชั้นเชิง กินง่าย ไม่น่าเบื่อ เราอยากซื่อสัตย์กับลูกค้า เราจะดูถูกลูกค้าไม่ได้ พลอยว่าลูกค้าฉลาดและเขารู้ ถ้าเราเห็นรูปจาก Pinterest สวยๆ มาเปิดเลย เห็นคาเฟ่อะโวคาโดที่นิวยอร์กแล้วเราก็อปเขามาเลยทั้งร้านและเมนู ทำง่ายๆ เลย มันไม่ได้ พลอยว่าการเป็นตัวของตัวเองสำคัญมาก”
บอม: “ผมมองว่าการทำธุรกิจยุคนี้มันเป็นเรื่องของการขายความคิด การ Present ความคิดของตัวเราเอง เรามีความคิดและอยากจะดีไซน์ความคิดของเราออกมาเป็นร้าน พอความคิดมันถูกจัดการก็จะกลายเป็นรูปเป็นร่าง คนมองเห็นก็จะรู้ว่ามันไม่เหมือนกับคนทั่วไป มันคือการสร้างสรรค์ใหม่ คือศิลปะ”
และนี่ก็คือร้านอะโวคาโดของคนรุ่นใหม่ที่ถูกดีไซน์ออกมาให้สามารถกินได้ทุกวัน อร่อยได้ทุกวันแบบไม่ต้องกลัวเลี่ยน เพียงแค่คุณมีความคิดอยากจะทำอะไรใหม่ๆ ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปแล้วนำเสนอออกมาในสไตล์ของคุณ ทุกคนก็สามารถประสบความสำเร็จได้ในทางของตัวเอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
