เกาะเทรนด์กระชากใจผู้บริโภคยุคดิจิทัล




Main Idea
 
  • ผู้บริโภคยุคใหม่มีความชอบ ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างไปจากผู้บริโภคในโลกยุคเก่า จึงนับเป็นความท้าทายของผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรนด์ และผู้ประกอบการอย่าง  SME ที่ต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันเกม โดยต้องอ่านใจลูกค้ายุคดิจิทัลให้ออก แล้วนำจุดแข็งของแบรนด์ที่เรามีมาเชื่อมต่อกับความสนใจของลูกค้าให้ได้
 
  • อิปซอสส์ (ประเทศไทย) จำแนกกลุ่มผู้บริโภคออกเป็น 7 พฤติกรรม ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนตลาดในทศวรรษหน้า และกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในภูมิภาคเอเชียและไทยเราอย่างรวดเร็ว แบรนด์จึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสต่างๆ อย่างทันท่วงที เพื่อให้ยังคงสามารถเข้าถึงผู้บริโภคและอยู่รอดได้ในโลกยุคใหม่



     วันนี้ผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากโลกยุคเก่า มีความชอบ ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างไปจากวิถีเดิมๆ  จึงนับเป็นความท้าทายของผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรนด์ และผู้ประกอบการอย่าง  SME ที่ต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันเกม โดยต้องอ่านใจลูกค้ายุคดิจิทัลให้ออก แล้วนำจุดแข็งของแบรนด์ที่เรามีมาเชื่อมต่อกับความสนใจของลูกค้าให้ได้

               



      ในสัมมนาธุรกิจ “CEO Exclusive Forum” โดย เอสซีจี แพคเกจจิ้ง “อุษณา จันทร์กล่ำ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิปซอสส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมขึ้นเวทีเพื่อถอดรหัส “เทรนด์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล” ผ่านการสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่า 20,000 คน จาก 33 ประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นในวันนี้ได้
               


     โดยงานวิจัยของอิปซอสส์ จำแนกกลุ่มผู้บริโภคออกเป็น 7 พฤติกรรม ที่ขับเคลื่อนตลาดในทศวรรษหน้า ประกอบด้วย
 
               




     Unleash - เทรนด์รักสบายและปลีกตัวจากความทุกข์


     เป็นพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาแบบมีโลกส่วนตัวสูง มีทัศนคติ ความเชื่อ และความคิดที่ต้องการรักษาความเป็นตัวตนไว้ และส่วนใหญ่ยังไม่มีภาระความรับผิดชอบมาก จึงเลือก “ปลีกตัวจากโลกความจริง" โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มีตลาดเติบโตถึงร้อยละ 10 จากการสำรวจปี 2556 - 2562 
               

     เป็นกลุ่มที่ชอบอะไรง่ายๆ จึงใช้ชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองได้อย่างมีความสุขและไม่วุ่นวายกับใครมีโซเชียลมีเดียที่คอยบอกให้สังคมรับรู้ว่ามีความสุข โดยไม่รู้ว่าจะสุขจริงหรือไม่


     ซึ่งแบรนด์ที่ปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ สามารถทำได้โดยการช่วยลบ “ความยากลำบาก” และหยิบยื่น “ความสะดวกสบาย” ให้ อาทิ ร้านอาหารสะดวกซื้อสไตล์ญี่ปุ่น “itsu” ในอังกฤษ ที่ผันตัวมาขายของชำออนไลน์และผลิตอาหารพร้อมรับประทาน หรือบริการธนาคารออนไลน์ที่ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องไปธนาคาร
 
               



      Unfiltered - เทรนด์แสวงหาความเท่าเทียมในสังคม
               

     แบรนด์ที่ยังเคยชินกับความเป็นผู้นำตลาดจนมั่นใจเกินไป หากยังคงผลิตสินค้าแบบเดิมอยู่โดยมองข้ามคนกลุ่มเล็กๆ ก็มีโอกาสสูญเสียตลาดได้ แบบ “เสี่ยงสุดขั้ว” เมื่อมีผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ มาแทนที่ ดังนั้น แบรนด์จึงควรคำนึงถึง “ตัวตน” ของคนกลุ่มเล็กๆ และมองคนทุกกลุ่มเท่าเทียมกันอย่างไม่เลือกปฏิบัติ
               

     ดังนั้นการออกแบบสินค้าที่เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเล็กๆ สร้างโอกาสเปิดตลาดคนกลุ่มใหม่ๆ ได้ เช่น แบรนด์ชุดชั้นในแฟชั่น อย่าง วิคตอเรีย ซีเครท ที่ใช้นางแบบข้ามเพศมาถ่ายแบบชุดชั้นใน หรือแบรนด์ที่เปิดตัวเสื้อผ้าสำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่หักล้างมายาคติความสวยแบบเก่า หรือการที่อาลีบาบาเปิดตัวโปรโมชัน 11.11 วันคนโสด เพราะยึดหลักความเท่าเทียมที่ให้ความสำคัญกับทุกคน จึงสามารถเพิ่มยอดขายได้
 



                 
     Commitment - เทรนด์ผู้บริโภคมี “จุดยืน” เลือกสิ่งที่ใช่
               

     ผู้บริโภคหลายคนในยุคนี้มี “จุดยืนชัดเจน” ในการเลือกบริโภคอย่างมีคุณค่า เช่น การที่ผู้บริโภคออกมาต่อสู้กับแบรนด์ที่ทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย ทำให้ผลวิจัยพบว่าแบรนด์กว่าร้อยละ 80 หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและประกาศจุดยืนชัดเจน เพราะมองว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบ
               

     ซึ่งการมีจุดยืนเป็นโอกาสให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เช่น ร้านอาหารฟาสท์ฟู้ดในยุโรปที่แตกไลน์ร้านใหม่เอาใจผู้บริโภคสายคลีน หรือการเปิดร้านอาหารมังสวิรัติ
 

                
      Ground - เทรนด์สูงสุดคืนสู่สามัญ
               

      เทรนด์นี้ถือเป็นเทรนด์สุดขั้วอีกด้านที่เกิดขึ้นพร้อมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เข้ามาขับเคลื่อนโลกทุนนิยม ทำให้โลกเกิดความเหลื่อมล้ำ มีการแบ่งแยกคนด้วยการเข้าถึงเทคโนโลยี ชนชั้น และสถานะทางการเงิน ผู้บริโภคบางส่วนจึง “เบื่อหน่าย” และ “ถวิลหา” ความเรียบง่ายแบบดั้งเดิมในอดีต หรือการ “คืนสู่สามัญ”
               

      ยกตัวอย่าง กล้องฟิล์มหรือกล้องโพรารอยด์กลับมาขายได้ เพราะคนเริ่มเบื่อหน่ายกับสังคมก้มหน้า จึงแสวงหาอดีตและความเรียบง่าย ตัวอย่างแบรนด์ที่ปรับตัว เช่น ช็อคโกแลต Cadbury ที่ทำแคมเปญ Donate your words ให้ลูกค้าเขียนจดหมายถึงผู้สูงวัย ช่วยดึงคนออกจากหน้าจอไปพบปะพูดคุยกันมากขึ้น ดังนั้นแบรนด์ที่สร้างโอกาสให้คนกลับมาปฏิสัมพันธ์กันได้ จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการตลาดกลุ่มนี้ได้นั่นเอง
 
 
       Decode - เทรนด์ถอดรหัสความโปร่งใส ตอบใจลูกค้า
               

     ในยุคที่เทคโนโลยีบิดเบือนความจริงได้ ผู้บริโภคจึงต้องการแบรนด์ที่โปร่งใส จริงใจ และมีจริยธรรม ดังเช่นที่ผู้บริหารสายงานด้านธรรมาภิบาลของแบรนด์เสื้อผ้า H&M กล่าวไว้ว่า ลูกค้าต้องการรู้ไปถึงกระบวนการทำธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจในสินค้าและบริการที่เลือกว่า “ไม่ใช่แค่ของดี แต่ที่มาต้องดีด้วย”
               

     โดยยุคนี้ผู้บริโภคมักไม่เชื่อถือสิ่งที่ปรากฏผ่านสื่อ แต่ต้องการเห็นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ดังนั้น การให้ข้อมูลที่โปร่งใสเพื่อแสดงถึงความจริงใจ จึงเกิดประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์



 
               
      Legacy - เทรนด์ลูกค้าเชื่อมั่นในตำนาน


     เมื่อสื่อออนไลน์มีอิทธิพลต่อความเชื่อของผู้บริโภค ยิ่งมีจำนวนผู้ติดตามสูงยิ่งชี้วัดได้ว่าแบรนด์ดีพอและมีความน่าสนใจ หลายแบรนด์จึงต้องสร้างพื้นที่ดึงดูดให้คนติดตามเพื่อเพิ่มความมั่นใจในสิ่งที่แบรนด์นำเสนอ แต่ตัวแบรนด์เองนั้นก็ต้องเข้มแข็ง จริงใจ และรักษาจุดยืนของตัวเอง
               

     โดยแบรนด์ที่ดีต้องมีความโปร่งใส จริงใจ กล้าหาญ เข้มแข็ง และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อให้คนเชื่อมั่นในสิ่งที่แบรนด์นำเสนอ




 
               
      Experience is King - เทรนด์ประสบการณ์คือพระราชา
               

     ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งมานานหรือแบรนด์ใหม่ในตลาด ต่างก็ต้องพัฒนาตนเองให้ดีกว่าความสำเร็จที่เคยมีในตลาด เพราะความต้องการของลูกค้าไม่เคยหยุดนิ่ง ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มอบให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ จึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าจดจำและชื่นชมในแบรนด์
               

     โดยยุคนี้แบรนด์ต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และกล้าออกนอกกรอบจากหลักการตลาด 4 ประการที่คุ้นเคยกันมา เพราะไม่มีอะไรง่ายดายอีกต่อไป เช่น เครื่องเล่นเกม PlayStation ที่พัฒนาจากการเป็นเกมกดที่เคยได้รับความนิยมเมื่อ 20 ปีก่อน สู่การทำแว่นตาเกม 3 มิติ หรือแบรนด์ขายน้ำหอมที่ติดภาพโฆษณาในรถไฟใต้ดินที่ลอนดอนในรูปแบบที่มีกลิ่นหอมออกมาด้วย หรือเฟอร์นิเจอร์ IKEA ที่พัฒนาแอปพลิเคชันจำลองภาพเมื่อนำเฟอร์นิเจอร์ไปวางบนพื้นที่จริงในบ้าน ทั้งหมดนี้คือนวัตกรรมที่มุ่งสร้างประสบการณ์เพื่อเอาใจลูกค้าให้ได้
 
               

     ผู้บริหารอิปซอสส์ (ประเทศไทย) ย้ำว่า พฤติกรรมผู้บริโภคทั้ง 7 เทรนด์ ที่กล่าวมานี้ เป็นสิ่งที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในภูมิภาคเอเชียและในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นแบรนด์ทั้งหลายจึงควรต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสต่างๆ อย่างรวดเร็วและทันท่วงที เพื่อให้ยังคงสามารถเข้าถึงผู้บริโภคและอยู่รอดได้ต่อไป
               

     สำหรับ SME เองก็ต้องไม่นิ่งนอนใจในเทรนด์เหล่านี้ด้วย
 





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MARKETING

ฟังก์ชันแยกบิลจ่ายได้ เทรนด์ใหม่ที่ร้านอาหารต้องรู้ ลูกค้ายุคใหม่อยากจ่ายเท่าที่กินโดยไม่รู้สึกผิด

ไม่ใช่เรื่องต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป หากไปกินอาหารกับเพื่อน แล้วอยากแยกรับผิดชอบจ่ายเฉพาะในส่วนที่ตัวเองสั่ง เทรนด์พฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคชาวอเมริกาที่หันมาใช้แอปพลิเคชันแยกจ่ายบิลกันมากขึ้น

ต่อยอดธุรกิจยังไงให้อยู่นานและขายดี กรณีศึกษา ALDI ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ALDI คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญญาติเยอรมัน มีต้นกำเนิดมาจาก 2 พี่น้องตระกูล Albrecht คือ “คาร์ล และ ธีโอ อัลเบรชต์” ที่รับช่วงต่อกิจการมาจากแม่ของเขาที่เปิดร้านขายของชำตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2