Glazziq ผู้บุกเบิกธุรกิจแว่นตาออนไลน์ที่เสิร์ฟแว่นให้ลองถึงบ้านในช่วงกักตัว!

TEXT : ยุวดี ศรีภุมมา





Main Idea
 
 
  • แว่นตาคือของจำเป็นที่อยู่ติดตัวสำหรับใครหลายคน สมัยก่อนการตัดแว่นตาอาจเริ่มที่ร้านแว่น แต่ปัจจุบันการ  ช้อปแว่นตาเริ่มได้เพียงปลายนิ้วคลิก!
 
  • Glazziq คือผู้บุกเบิกโมเดลการช้อปแว่นตาแนวใหม่ที่มอบประสบการณ์ซื้อแว่นตาที่สะดวก รวดเร็ว ทำได้ผ่านออนไลน์แถมยังสามารถเลือกแว่นมาลองที่บ้านในช่วงกักตัวแบบนี้ได้อีกด้วย! 



     หากย้อนกลับไปในอดีต การจะตัดแว่นสักหนึ่งอันคงต้องเริ่มจากการเดินไปที่ร้านขายแว่น ยืนเลือกกรอบแว่นที่ชอบ ใช้เวลาสักพักก่อนตัดสินใจ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการวัดสายตาแล้วรอรับแว่นตา อาจจะ 2 ชั่วโมงจนถึง 1 วัน แต่สำหรับ Glazziq  (กลาซซิค) คือผู้เข้ามาปฏิวัติการซื้อแว่นตาแบบออนไลน์ที่สร้างความสะดวกให้แก่ลูกค้าเพียงปลายนิ้วคลิก แถมยังมีการเชื่อมโยงบริการวัดสายตากับร้านหอแว่น ซึ่งมีมากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้ค่าสายตาที่แม่นยำและนำเข้าระบบเพื่อใช้ในการตัดแว่นกับ Glazziq และแว่นตาที่ถูกประกอบเรียบร้อยจะถูกส่งตรงมาถึงประตูบ้านคุณในเวลาอันรวดเร็ว!





     ‘ปริณดา ประจักษ์ธรรม
’ ผู้ก่อตั้ง Glazziq และทายาทหอแว่น เลือกที่จะก้าวออกมาสร้างธุรกิจใหม่ที่ฉีกไปจากเส้นทางเดิมของครอบครัวแต่ยังคงใช้ความเชี่ยวชาญของหอแว่นมาผสานกลมกลืนเพื่อทำให้ Glazziq สามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแว่นตาออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด


     “ที่บ้านเรามีธุรกิจเกี่ยวกับแว่นตา พอเราเรียนจบมาก็มองว่าจริงๆ ธุรกิจแว่นตาไม่มีใครเปลี่ยนแปลงวิธีการซื้อขายของมัน เป็นแบบนี้มานานแล้วและน่าจะมีใครที่ทำให้ประสบการณ์ซื้อดีขึ้นได้ เราเลยเริ่มต้น Glazziq ขึ้นมา เป็นการผสมสิ่งดีๆ ที่ออนไลน์สามารถทำได้และสิ่งที่ออฟไลน์สามารถให้ได้ นั่นคือเราทำดีไซน์ สั่งซื้อสินค้าทุกอย่างเองหมด สต๊อกของไว้ที่โรงงาน แล้วเวลาที่ลูกค้าซื้อก็สามารถทำงานจากส่วนกลางได้เลย โดยไม่ต้องมีสินค้าวางเอาไว้ทุกที่ เราสามารถทำให้ Supply Chain ของเรามีความ Lean และให้สินค้าที่ดีกับลูกค้าในราคาที่เหมาะสม” เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Glazziq





     Customer Journey เป็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างธุรกิจแว่นตาแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งปริณดาได้เล่าถึงจุดนี้ว่า ในธุรกิจแว่นตาออฟไลน์จุดเริ่มต้นของ Customer Journey จะเริ่มต้นขึ้นที่หน้าร้านแต่สำหรับ Glazziq สามารถสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ตั้งแต่บนโลกออนไลน์


     “เมื่อก่อนเวลาลูกค้าเดินไปที่ร้าน เขาจะไม่มีไอเดียเลยว่าจะซื้ออะไร แสดงว่าจุดเริ่มต้นของ Customer Journey เริ่มที่ร้าน แต่สำหรับเรา ปกติจะมีการ Engage กับลูกค้าก่อนที่จะไปถึงร้าน พอเขาไปที่สาขาก็แค่ไปลองเพื่อจะซื้อ สเต็ป ใน Customer Journey นั้นต่างกัน เราเหมือนเริ่มจากออนไลน์ไปออฟไลน์ ซึ่ง Purchase Conversion จะสูงกว่า นอกจากนี้พนักงานในร้านก็จะสามารถดูแลลูกค้าหลายคนได้พร้อมกันเพราะไม่ต้องโน้มน้าวลูกค้าหรือให้ข้อมูลใหม่ตั้งแต่ต้นด้วย”





     ท่ามกลางสถานการณ์ที่สาหัสสำหรับคนทำธุรกิจ ด้าน Glazziq เองก็มีการปรับตัวในช่วงนี้ด้วยการให้บริการ Home Try-On เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากตัดแว่นตาในช่วงกักตัวหนีโควิด


     “ตอนนี้ก็ค่อนข้างหนักอยู่พอสมควร เพราะว่าลูกค้าวัดสายตาที่สาขาไม่ได้หรือถ้าเปิดคนก็ไม่ค่อยอยากไปเดินห้างเท่าไร แต่ว่าการซื้อแว่นออนไลน์ ความยากก็คือการลอง ลูกค้าจะอยากจับ อยากลอง ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือการให้ลูกค้าลองที่บ้านได้ โดยเก็บค่ามัดจำแค่ 20 บาท แล้วคืนเต็มเป็นเครดิตที่ลูกค้าใช้ต่อได้ เหมือนลองฟรี เราจะมีการผูกกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต พอลูกค้าลองแว่นเสร็จก็จะคืน 20 บาทให้ลูกค้าไป ส่วนค่าขนส่งไปกลับทางเราออกให้หมด เขาก็จะสบาย สามารถลองที่บ้านได้ เวลาคืนก็คืนที่ 7-11 ได้ทุกสาขา” เธอเล่ากลยุทธ์ที่ใช้





     หลังจากที่ลูกค้าเลือกกรอบแว่นที่ต้องการได้แล้วก็สามารถส่งค่าสายตาของตัวเองที่มีอยู่ให้ทาง Glazziq หรือจะไปวัดสายตาที่ร้านหอแว่นสาขาที่ยังเปิดทำการอยู่ก็ได้เช่นเดียวกัน
               

     นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่ทาง Glazziq กำลังทำนั่นคือบริการ Virtual Try-On ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดของการช้อปปิ้งแว่นตาในประเทศไทย โดยคุณจะสามารถลองแว่นตาได้แบบเสมือนจริง ซึ่งกำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้
               

     โดยปริณดาได้เล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า มีความยากในการทำธุรกิจมากขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคมีการควักกระเป๋าใช้จ่ายน้อยลง จึงเป็นโจทย์สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่จะต้องรับมือ
               

     “ตอนนี้คนไม่ใช้จ่ายเงินเลย พยายามที่จะไม่ใช้เงินถ้าไม่จำเป็น เหมือนคน Panic ซึ่งกระทบทุกอุตสาหกรรม ความยากของธุรกิจทั่วไปคือทำอย่างไรให้คนใช้จ่ายอย่างปกติ ก็ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง อย่างเราเลยต้องทำให้คนที่จำเป็นต้องใช้หรือว่าอยากจะซื้อตอนนี้สามารถทำได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องออกจากบ้าน ตอบโจทย์ความต้องการตรงนี้เพราะเราไม่รู้ว่าถึงแม้โควิดจะจบแล้ว จะเปิดประเทศแล้ว อย่างอู่ฮั่นที่เปิดประเทศแล้วแต่คนก็ยังไม่ค่อยออกไปใช้จ่ายอยู่ดี เพราะคนยังกลัวที่จะออกจากบ้าน เราเลยต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าสะดวกที่สุดและเพิ่มช่องทางให้เขา”
               




     นอกจากนี้เธอยังกล่าวอีกว่า โลกหลังโควิด ธุรกิจรีเทลจะเปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับที่เคยเป็นมา พฤติกรรมของผู้บริโภคก็จะเปลี่ยน การทำธุรกิจก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
               

     “สำหรับเรา พฤติกรรมคนก็ต้องเปลี่ยนไปอยู่แล้ว บางคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยซื้ออะไรออนไลน์ก็ต้องปรับตัว คนจะเริ่มมีความเคยชินกับการซื้อของออนไลน์มากขึ้น เป็นสิ่งที่ดีที่เราก้าวมาทางนี้ก่อนคนอื่น จากนี้เราว่าโลกของรีเทลจะเปลี่ยนไป ในอนาคตร้านค้าต่างๆ อาจจะไม่ใช่จุดขายแต่เป็นจุดบริการมากกว่า แล้วจุดขายมันจะเกิดใน Chanel ไหนก็ได้ เรามองแบบนั้น”
               

     โดยปริณดาได้ปิดท้ายถึงหัวใจการทำธุรกิจในแบบของเธอนั่นคือ “การปรับตัว”
               

     “จุดสำคัญคือการปรับตัว เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่หรืออย่างไรบ้าง สิ่งที่เราต้องทำคือการอย่ายึดติดกับการทำธุรกิจแบบเดิมๆ ตอนนี้ไม่ใช่คนที่ใหญ่สุดจะรอดแล้ว แต่คนที่เปลี่ยนเร็วที่สุดต่างหากถึงจะอยู่รอดได้”
 


 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 
 
 

 

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024