“เนื้อไก่จากพืช” Plant-based Meat เวอร์ชันใหม่ที่กำลังมา อีกหนึ่งทางเลือกของคนไม่กินเนื้อ

TEXT : กองบรรณาธิการ





Main Idea
 

     ที่มาของ Plant-based Meat เวอร์ชันใหม่
 
 
  • ไก่ คือหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่ผู้บริโภคยุคปัจจุบันนิยมหันมารับประทานมากขึ้น และเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ไม่ต่างจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว
 
  • ในปี 2561 พบว่าชาวอเมริกันมีการบริโภคเนื้อไก่มากเป็นประวัติการณ์ เฉลี่ย 93 ปอนด์ต่อคน ซึ่งมีปริมาณเท่าๆ กับเนื้อวัว เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีสุขภาพดีมากกว่าการรับประทานเนื้อวัวหรือเนื้อหมู และมีราคาที่ถูกกว่ามาก
 
  • การทำให้ผู้บริโภคหันมารับประทานเนื้อไก่จากพืชได้ จึงอาจช่วยลดมลภาวะโลกร้อน รวมถึงสุขภาพที่ดีขึ้น ของผู้คนจากการลดบริโภคเนื้อสัตว์ลง เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมอยู่ในร่างกายมากจนเกินไปนั่นเอง
 


 
     
     ถึงวันนี้คงไม่ต้องอธิบายกันมากแล้วว่า Plant-based Meat หรือเนื้อจากพืชนั้นคืออะไร เพราะหลายคนคงได้เริ่มทำความรู้จักกับเนื้อชนิดนี้มาแล้วในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมานี้ จากการเป็นเทรนด์อาหารแนวใหม่ของโลกที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น
               

     โดยข้อมูลจาก Euromonitor รายงานว่า ปี 2556 – 2561 ในสหรัฐอเมริกายอดขายอาหารสำเร็จรูปของเนื้อจากพืชเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 15.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ในขณะที่เนื้อแปรรูปแบบเดิมกลับโตเพียงปีละ 1.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  เช่นเดียวกับข้อมูลผู้ประกอบการร้านเบอร์เกอร์และแซนด์วิชเนื้อที่ทำจากพืชในอเมริกา ซึ่งในช่วงเมษายน 2561 – มีนาคม 2562 ก็มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 7.8 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว



               

     แต่ยอมรับว่าส่วนใหญ่แล้วเนื้อทางเลือกหรือเนื้อจากพืชที่เราเห็นกันนั้น มักถูกชูออกมาในรูปของเมนูอาหารต่างๆ เช่น สเต็ก เบอร์เกอร์ มากกว่าที่จะนิยามหรือระบุลงไปว่าเป็นการเลียนแบบมาจากเนื้อชนิดใด หมู หรือวัว หรืออาจเป็นเพราะถูกมองว่า นี่คือ เนื้อชนิดใหม่อีกหนึ่งอย่างที่ได้เถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้แล้วก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรในตอนนี้ก็ไม่สำคัญไปเท่ากับกระแสที่กำลังเกิดขึ้นใหม่อยู่ในขณะนี้ในวงการ Plant-based Meat ที่ได้เริ่มหันมาทดลองและผลิตเนื้อรสชาติใหม่ออกมาให้มีลักษณะละม้ายคล้ายกับเนื้อไก่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
                 

     ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว เนื้อไก่อาจเป็นเนื้อสัตว์ที่มนุษย์เราทุกวันนี้บริโภคมากเป็นอันดับต้นๆ มากกว่าเนื้อหมูหรือเนื้อวัวก็เป็นไปได้ โดยเคยมีข้อมูลจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริการะบุไว้ในปี 2561 ว่าชาวอเมริกันมีการบริโภคเนื้อไก่มากเป็นประวัติการณ์เฉลี่ย 93 ปอนด์ต่อคน ซึ่งมีปริมาณเท่าๆ กับเนื้อวัว โดยได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าปี 2562 จะต้องเพิ่มมากขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของการบริโภคเนื้อวัวแน่นอน





     โดยสาเหตุที่มีการบริโภคเนื้อไก่เพิ่มมากขึ้น ก็น่าจะมาจากเหตุผลสำคัญ 2 ข้อ คือ 1. ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักเชื่อว่าการรับประทานเนื้อไก่จะทำให้มีสุขภาพดีมากกว่าการบริโภคเนื้อวัวหรือเนื้อหมู 2. เนื้อไก่มีราคาที่ถูกกว่ามาก โดยนักเศรษฐศาสตร์ด้านอาหารและการเกษตร Jayson Lusk จากสหรัฐฯ ได้กล่าวไว้ว่า ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 เนื้อวัวหนึ่งปอนด์จะมีราคาแพงกว่าไก่ประมาณ 2.5 เท่า และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทุกวันนี้เนื้อวัวมีราคาแพงกว่าเนื้อไก่มากถึง 4 เท่าด้วยกัน


     จากเหตุผลที่กล่าวมานี้จึงทำให้นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์หลายคนในวงการผลิตเนื้อเทียมจากพืช รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหารได้พยายามผลิต Plant-based Meat เวอร์ชันใหม่ที่มีลักษณะและรสชาติคล้ายกับเนื้อไก่ออกมา ซึ่งหากมองในด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็สามารถช่วยลดการเกิดมลภาวะจากอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ขนาดใหญ่ทั่วโลกลงได้ และหากมองในแง่ของสุขภาพผู้บริโภคเอง การที่เราสามารถผลิตหรือหาสิ่งทดแทนเนื้อสัตว์ที่มีการนิยมบริโภคมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้ ก็อาจช่วยให้ผู้บริโภคมีสุขภาพดีมากขึ้นได้ด้วย ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายที่อาจเกิดจากการบริโภคเนื้อสัตว์สะสมในปริมาณมากเกินไป






     ซึ่งในข้อนี้เชนผู้ประกอบการธุรกิจอาหารระดับโลกหลายแบรนด์ต่างเริ่มหันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใช้ไก่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหาร เช่น ในปีที่ผ่านมาร้าน KFC ในสหราชอาณาจักรหลายแห่งได้มีการทดลองผลิตเบอร์เกอร์ไก่มังสวิรัติในร้านค้าทั่วอังกฤษ เคลือบด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศสูตรดั้งเดิมของผู้พันแซนเดอส์ ก็สามารถขายหมดได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน


     ในขณะที่ Perdue Foods และ Better Meat Co. บริษัทผลิตอาหารก็ได้จับมือร่วมกันผลิตเนื้อไก่ที่มีส่วนผสมของกะหล่ำดอกและถั่วลูกไก่ (Chickpea) ออกมาเพื่อทำเป็นนักเก็ตไก่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ Tyson Foods ที่กำลังจะเริ่มทดลองผลิตนักเก็ตจากโปรตีนถั่ว หรือ อย่างการคิดธุรกิจไก่ทอดแนวใหม่ของร้าน Rebellyous Foods ที่ตั้งใจทำเป็นร้านไก่ทอดจากพืชออกมาในรูปแบบจริงจัง ไม่แพ้แฟรนไชส์ร้านไก่ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่างที่เราทุกคนรู้จักกันดีในทุกวันนี้





     อนาคตของเนื้อไก่จากพืช และผลิตภัณฑ์ Plant-based Meat ต่างๆ จะได้รับความนิยมหรือประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนนั้น ความจริงแล้วอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเป็นหลักก็ได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วสิ่งแรกๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อ กิน หรือไม่กิน มักขึ้นอยู่กับเรื่องของรสชาติ ราคา และความสะดวกสบายเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ตามย่อมต้องการเสมอ


     ดังนั้นหากสามารถตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ได้ ก็คงไม่ยากอะไรที่จะแจ้งเกิด หรือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกซื้อได้ และนี่เป็นอีกโอกาสใหม่ที่ SME ไทยต้องจับตา

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง