ส่องทิศทางอุตสาหกรรมเลี้ยงโค ในวันที่ Plant-Based โต จนอาจแย่งส่วนแบ่งตลาด

 


     เราพูดถึงการเติบโตของ Plant-based หรือเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชกันมาตลอด 2-3 ปีผ่านมา และเรื่องนี้ทำให้คนในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์กังวลว่ามันจะมาแย่งตลาดเบอร์เกอร์แบบดั้งเดิม เห็นได้จากเมื่อต้นเดือนแบรนด์ใหญ่อย่าง McDonald's  และ Yum! เพิ่งทำข้อตกลงกับ Beyond Meat เป็นเวลา 3 ปี ดังนั้นแล้ว ร้านอาหารในเครือ Yum! รวมถึง KFC, Pizza Hut และ Taco Bell ก็จะใช้เนื้อทางเลือกด้วย
               

      ที่ผ่านมา McDonald's และ Yum! ใช้เนื้อจากพืชเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และมีแนวโน้มจะมากขึ้น ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจจะเป็นช่องทางสำคัญในการนำเสนอเนื้อจากพืชไปสู่ผู้บริโภคนับล้านคนทั่วโลก ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 เนื้อทางเลือก Impossible Foods ก็ได้ทำสัญญากับ Burger King และ Qdoba ในปีเดียวกันนั้นเอง Dunkin’ Donuts’ ก็เปิดตัว Beyond Sausage ออกสู่ตลาดและเมื่อแบรนด์ใหญ่เคลื่อนไหว มีหรือแบรนด์อื่นจะไม่วิ่งตาม
               

      Barclays ประเมินว่า ตลาดเนื้อสัตว์ทางเลือกจะเติบโตได้ถึง 1,000 เปอร์เซ็นต์ในอีก 10 ปีข้างหน้าจนมีมูลค่ามากถึง 140 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การเติบโตที่ว่านี้ ได้รับแรงหนุนจากเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รวมไปถึงผู้บริโภคที่ใส่ใจในสวัสดิภาพของสัตว์ ไปจนถึงเทรนด์ความสนใจสุขภาพและความงาม



 

ความหวาดหวั่นของเกษตรกรผู้เลี้ยงโค
 
               
        แม้ว่ากระแสการบริโภคเนื้อจากพืชจะมากแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับผู้เลี้ยงโคก็ยังมองว่าส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการบริโภคเนื้อสัตว์จริง และการบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงก็ไม่น่าส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมหรือสภาพอากาศมากนัก อ้างอิงจากการศึกษาของ University of California – Davis ที่บอกว่าการไม่กินเนื้อสัตว์สามารถลดก๊าซเรือนกระจกลงได้เพียง 2.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
               

       แต่จากข้อมูลของ Ag Economy Barometer ที่เผยแพร่โดย Purdue University และ CME Group ที่บอกว่าเกษตรกร 55 เปอร์เซ็นต์คาดว่าโปรตีนทางเลือกจะสามารถเก็บเกี่ยวส่วนแบ่งการตลาดได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และจะแบ่งรายได้ไปถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโปรตีนทั้งหมด รวมถึงคาดว่ารายได้ของเกษตรกรจะลดลง 10 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น



               

      ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อแบบดั้งเดิมยังอยู่เหนือกว่าเนื้อทางเลือกอยู่มากนัก ในปี 2563 ยอดขายเนื้อสัตว์แช่เย็นในร้านขายของชำมีมูลค่ารวม 82.5 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับยอดขายเนื้อสัตว์จากพืชยังอยู่ที่ 475 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
               

      แม้ในตอนนี้ผู้บริโภคทั่วโลกส่วนใหญ่ยังกินเนื้อสัตว์เป็นแหล่งโปรตีนหลัก แต่พวกเขาก็ให้ความสนใจโปรตีนจากพืชเพิ่มขึ้นมาก ซึ่ง Michael Langemeier นักเศรษฐศาสตร์ของ Purdue กล่าวไว้ว่า ส่วนแบ่งการตลาด 5 – 10 เปอร์เซ็นต์จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม และสร้างแรงกระเพื่อมไปถึงอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ได้
 

     อ้างอิง : Forbes
 
 


 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง