On Tour การแก้เกมธุรกิจง่ายๆ ของร้านเบเกอรีไซส์เล็ก เมื่อต้องเสียโอกาสจากการที่ลูกค้าไม่สู้ค่าขนส่ง

 เรื่อง   วันวิสา งามแสงชัยกิจ

 

ยุคนี้ออนไลน์ ซื้อง่าย สั่งสะดวกก็จริง

แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ ค่าขนส่ง

ลูกค้าอยากกิน แต่ค่าส่งแพง = การสูญเสียโอกาสของร้านเบเกอรีรายเล็ก

     หนึ่งในปัญหาที่คอยขัดขาคนขายเบเกอรีออนไลน์ คือ การที่ค่าขนส่งสูงพอๆ หรืออาจจะสูงกว่าค่าขนมที่สั่ง จนลูกค้าไม่น้อยต้องถอดใจยกเลิกการสั่งซื้อไป เหมือนอย่างที่ เชฟนนท์ - นนทวรรธ โรจนศักดิ์ชัย เจ้าของร้าน BRIX Dessert Bar ได้เจอมา หลังจากทำการออกสินค้าใหม่อย่าง “เบนเย่ (Beignet)” หรือ โดนัทฝรั่งเศส ได้เพียงหนึ่งอาทิตย์ แล้วต้องเจอเข้ากับการล็อคดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบแรกในปีที่แล้ว

     “เรามีครัวกลางอยู่ที่เอกมัย ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งจองขนมเข้ามาล่วงหน้า 1 วันได้ ผ่านช่องทางของ LINE OA โดยในวันรุ่งขึ้น เราจะเป็นคนเรียกรถไปส่งให้ และลูกค้าก็ชำระค่าส่งตามระยะทาง แต่ปัญหาข้อหนึ่งที่เราพบคือ เราไม่สามารถที่จะให้บริการลูกค้าที่อยู่ไกลๆ ได้ เนื่องจากลูกค้าสู้ค่าส่งไม่ไหว และจุดนี้เองที่ทำให้เราต้องเสียโอกาสของการที่จะได้ลูกค้าไปไม่น้อย”

     ร้านเสียโอกาสที่จะได้ลูกค้าจากปัญหานี้ประมาณ 20% - 30%

     ใน 10 สายที่โทรเข้ามา จะเป็นลูกค้าที่ติดเรื่องค่าส่งประมาณ 3 – 4 สาย

     เมื่อเจอปัญหาทางออกของร้านขนมหวานที่อยู่มานานถึง 5 ปี ก็มาจบลงที่ “เมื่อค่าส่งแพง ก็ต้องออกไปหาลูกค้าเองซะเลย” หรือที่ เชฟนนท์ เรียกหมากเกมนี้ว่า “Brix On Tour”

     “On Tour คือ การที่เราบุกไปหาลูกค้าในแต่ละที่ หรือไปตามจุดต่างๆ เพื่อไปทำความรู้จักกับลูกค้าในโซนต่างๆ ให้มากขึ้น เพราะยังมีลูกค้าอีกหลายๆ โซนที่ยังไม่รู้จักเรา ด้วยความที่ร้านของเรานั้นอยู่ในเมืองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นที่สยามพารากอน ไอคอนสยาม และเซ็นทรัลลาดพร้าว”

โดย Brix On Tour ถูกทำออกมาใน 3 รูปแบบ คือ

1.การตั้งบูธรับส่งสินค้า

รูปแบบแรกของการ On Tour ที่ทางร้านทำคือ การขอเช่าพื้นที่ 2 x 2 เมตร ณ ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อใช้เป็นจุดรับส่งสินค้า โดยให้ลูกค้าทำการ Pre-order เข้ามาก่อน และให้เข้ามารับเองที่บูธ ณ วันที่กำหนด ซึ่งทางร้านจะมอบส่วนลดให้ 5% นับเป็นวิธีที่ช่วยให้ลูกค้าสบายขึ้น เพราะไม่ต้องเสียค่าส่งแพงๆ

ทางร้านทำการโปรโมทล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ผ่าน Facebook โดยให้ลูกค้า Pre-order ช่วงวันจันทร์ – วันศุกร์

ทำการตั้งบูธให้ลูกค้ามารับขนมที่สั่ง ณ วันเสาร์ที่กำหนด + ให้ส่วนลด

สิ่งต้องรู้ : สำหรับ on Tour แบบตั้งบูธ

ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมา = ค่าเช่าบูธ และค่าน้ำมันรถส่วนตัว เนื่องจากขับไปเอง  

เปิดบูธเอง = ลูกค้าจงใจมาหาเราเท่านั้น เพราะฉะนั้น ต้องทำการโปรโมทให้ดี บอกรายละเอียดให้ชัดเจน

ข้อจำกัด = ลูกค้าต้องรอหลายวัน เพราะทางร้านต้องรวบรวมจำนวนคนที่ต้องทำการจัดส่งในอาทิตย์ที่กำหนด

2.จับมือร่วมกับ COVID Rider

     การจับมือร่วมกับ COVID Rider หรือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ซึ่งโดนพักงาน หรือรายได้หดหาย ณ ช่วงเวลานั้น เพื่อจัดส่งขนมตามโซนที่กำหนดให้ลูกค้าถึงหน้าประตูบ้าน  ทางร้านทำการโปรโมทล่วงหน้า 1 สัปดาห์เช่นกัน และให้ลูกค้าทำการ Pre-order เข้ามา

     มีการกำหนดขั้นต่ำในการจัดส่ง เช่น สั่ง 3 กล่อง หรือ 480 บาทขึ้นไป จะเก็บค่าจัดส่งเพียง 50 บาท

     เป็นรูปแบบที่สามารถจัดส่งขนมให้ลูกค้าได้ถึงที่ โดยลูกค้าไม่ต้องออกจากบ้าน

สิ่งต้องรู้ : สำหรับ on Tour แบบจับมือกับ COVID Rider

ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมา = ค่าเปิดโซนของเส้นทางการจัดส่งของ COVID Rider ซึ่งถือว่าถูกกว่าการใช้บริการแอปดิลิเวอรีค่อนข้างมาก หากจะใช้รูปแบบนี้ต้องพิจารณาให้ดี เพื่อทำให้ไม่ขาดทุน ต้องมีการกำหนด Margin และมีขั้นต่ำในการสั่ง

ข้อจำกัด = ลูกค้าต้องรอหลายวัน เพราะร้านต้องรวบรวมจำนวนคนที่ต้องทำการจัดส่งในอาทิตย์ที่กำหนด

เป็นรูปแบบที่ใช้เพียงช่วงที่มี COVID Rider ให้บริการในปีที่แล้วเท่านั้น

3.ออกอีเวนท์ ร่วมงานแฟร์

การออกบูธร่วมกับออร์แกไนเซอร์ที่จัดงานแฟร์หรืออีเวนท์ต่างๆ ติดต่อขอเช่าบูธ

จากงานที่น่าสนใจ ไปในโซนที่เหมาะกับเรา ตรงกับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย สถานที่ในการจัดงานดี และรูปแบบของงานดี อย่าพลาดที่จะเข้าร่วม

สิ่งต้องรู้ : สำหรับ on Tour แบบร่วมงานแฟร์

  • ควรขอดูภาพงานที่ทางผู้จัดเคยจัดมาก่อน เพื่อใช้ในการตัดสินใจเข้าร่วม
  • เลือกขนมที่จะนำไปขายในงานให้ดี ควรจะเป็นแบบที่ขายได้ง่าย ขายได้เร็ว และสามารถซื้อกลับบ้านได้
  • ข้อดีคือ ได้อานิสงส์ของ Traffic คนที่มาเดินในงาน
  • ค่าเช่าบูธในงานอาจจะแพงกว่าการไปเปิดบูธเองอย่างในรูปแบบแรก

 

ทำ On Tour ดีอย่างไร?

  • ได้ศึกษาลูกค้าในพื้นที่ใหม่ๆ
  • ไขข้อสงสัยได้ว่า โซนนั้นๆ ดีต่อการทำธุรกิจของเราจริงหรือไม่
  • แม้จะต้องเสียค่าน้ำมัน หรือค่าเช่าบูธ แต่ค่าขนมที่ได้ก็ได้แบบเต็มๆ โดยไม่ต้องแบ่งกับใคร
  • เห็นภาพชัดเจนว่า โซนไหนบ้างที่มีศักยภาพต่อการทำธุรกิจ
  • ได้ฐานข้อมูลมาอยู่ในมือ ช่วยในการตัดสินใจในอนาคตในเรื่องของการตลาด การเปิดสาขาใหม่ และอื่นๆ
  • ไม่ต้องเสียค่า GP จากการใช้บริการของแอปดิลิเวอรีต่างๆ
  • การไปเปิดบูธข้างนอก = การมี Outlet เพิ่ม และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับร้าน
  • ข้อดีของการเปิดบูธคือ ไม่ต้องลงทุนเยอะ เมื่อเทียบกับการลงทุนเปิดร้านใหม่ ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ามัดจำล่วงหน้า ค่าเช่า หรือค่าตกแต่งร้านที่มีราคาสูง
  • ต่อรองค่าเช่าบูธให้ดี ก็ช่วยประหยัดต้นทุนไปได้มาก

 

ข้อควรรู้ก่อนเริ่ม On Tour

  • ค่าขนส่งต้องรับไหว
  • ค่าเช่าบูธ / พื้นที่ต้องไม่แพงเกินไป
  • เปิดให้ลูกค้า Pre-order ได้ แต่ไม่ควรนานเกินไป เพราะความอยากกินมันจะหมด ทางที่ดีอย่างน้อยควร 1 วัน
  • สินค้าต้องเหมาะกับการดิลิเวอรี / การขนส่ง เพราะไม่ใช่อะไรก็ได้ ยิ่งเป็นขนมหรือเบเกอรี ที่บางตัวจะมีครีม หรือต้องใช้ความเย็น
  • จะทำอย่างไร? ให้ขนมถึงมือลูกค้าได้โดยที่ขนมไม่เสียและอยู่ในสภาพที่ดี
  • ใช้เรื่องของแพ็กเกจจิ้งเข้ามาช่วย เช่น ใช้กล่องที่มีขนาดพอดีกับขนม ปิดสนิท ถือง่าย จัดส่งง่าย
  • ใช้น้ำแข็งแห้ง (Dry Ice) เพื่อรักษาความเย็นให้กับตัวสินค้า
  • การจัดการต้องเป็นระบบ เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในการจัดทำออร์เดอร์ เพราะการหลุดออร์เดอร์ครั้งหนึ่ง ไม่ใช่แค่ต้องย้อนกลับมาเอาสินค้า แต่ยังทำให้ลูกค้าไม่แฮปปี้

ดังนั้น แม้ว่าวันนี้ลูกค้าอาจจะเดินเข้ามาหาเราอย่างเต็มที่ไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่การปิดประตูตายของการทำธุรกิจ เพราะการออกไปพบปะลูกค้าในรูปแบบของการ On Tour เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ เหมือนดั่งที่เจ้าของร้านรายนี้ได้บอกเอาไว้ว่า

“ลองออกไปหาลูกค้าในโซนไกลๆ ดูบ้าง เพื่อที่จะได้เจอลูกค้า / โซนที่มันเหมาะกับเราจริงๆ”   

FB : brixdessertbar 

Tel : 02 005 1963

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

มิติใหม่แห่งการย้อมสีผม ใช้ “ใบตอง” แทนฟอยล์ ลดต้นทุน ลดโลกร้อนง่ายๆ แบบ 2 in 1  

ปกติเวลาที่พูดถึงใบตองสด ภาพแรกๆ ที่เด้งขึ้นมาในหัวของเรา ไม่ใช้ห่อขนมไทย ก็คงนึกถึงเทศกาลลอยกระทง แต่วันนี้น้องใบกล้วยสีเขียวคุ้นตานั้นมาในลุคที่เดิร์นกว่าคือ “ใช้ห่อผมเวลาทำสี” แทนฟอยล์กันแล้ว

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น