เราเชื่อว่าผู้ประกอบการหลายคนเคยเห็นระบบขายหน้าร้านที่อยู่ในรูปแบบเครื่องคิดเงินอยู่แล้ว ซึ่งหลายร้านก็ใช้ระบบนี้กันอยู่ แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปทำให้ระบบ POS ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคเช่นกัน เราจะเห็นได้ว่าผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มใช้เงินสดน้อยลง และหันมาจ่ายเงินผ่าน Mobile Banking กันมากขึ้น
จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปริมาณการทำธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินผ่าน Mobile Banking ในปี 2564 จะขยายตัวราว 80.2% – 83.5% YoY เร่งขึ้นจากปี 2563 ที่ 79.7%
- มูลค่าการทำธุรกรรมผ่าน e-Money ที่คาดว่าจะเติบโตราว 8% – 18.0% สูงกว่าปี 2563 ที่ 8.7%
- ส่วนมูลค่าการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking คาดว่าจะขยายตัวราว 5% – 38.0% YoY ใกล้เคียงกับปี 2563
- ขณะที่มูลค่าการทำธุรกรรมผ่าน e-Money คาดว่าจะขยายตัว 5%-17.7%
ดังนั้นธุรกิจค้าปลีกควรใช้ระบบ POS ที่รองรับ e-wallet และการจ่ายเงินด้วยมือถือ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ทำไมร้านค้าปลีกจึงต้องใช้ POS รูปแบบใหม่
สาเหตุหลักๆ ก็คือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ได้บอกไปในข้างต้น ทำให้หลายธุรกิจเริ่มใช้ระบบ POS รูปแบบใหม่กันมากขึ้น อย่างเมื่อก่อนเวลาที่ไปทานอาหารที่ร้านอาหาร ที่เคาน์เตอร์คิดเงินจะรับเฉพาะเงินสดและบัตรเครดิตเท่านนั้น แต่ตอนนี้เกือบทุกร้านอาหารสามารถจ่ายเงินผ่าน Mobile Banking ได้แล้ว ทำให้ง่ายและสะดวกต่อลูกค้า และมาดูกันว่าระบบ POS สามารถทำอะไรได้บ้าง
ขายได้หลากหลายช่องทางทั้งออฟไลน์-ออนไลน์
เพราะด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัวเข้าสู่โลกออนไลน์เพื่อเอาตัวรอด ระบบนี้สามารถรองรับธุรกิจที่ขายในออนไลน์เช่นกัน พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หมดกังวลไปเลย
ช่วยเก็บข้อมูลการขาย
อย่างเช่น วันนี้ขายสินค้าอะไรได้บ้าง จำนวนเท่าไร และขั้นตอนนี้จะทำให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าไหนขายดีหรือไม่ดี และนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุต่อไป