เจาะ 3 กลุ่มสมุนไพรไทย ที่ฮอตในตลาดโลก และวิธีเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ

TEXT : กองบรรณาธิการ

 

     ทุกคนก็น่าจะรู้ดีว่าสมุนไพรไทยมีชื่อเสียงมากในระดับโลก ซึ่งมูลค่าตลาดกว่า 12,211 ล้านบาท โดยตลาดสมุนไพรโดยรวมหรือมูลค่าการบริโภคเฉลี่ยอยู่ที่ 46,916.44 ล้านบาท และการที่จะทำให้ผู้ประกอบไทยที่ทำธุรกิจที่เกี่วข้องกับสมุนไพรนั้นเติบโตและไปสู่ตลาดโลกได้ ก็คือ การเพิ่มมูลค่าสินค้าให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า และเทรนด์ในปัจจุบัน วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกลุ่มสมุนไพรที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในปัจจุบันจาก 3 แบรนด์สมุนไพรไทยดาวเด่นกัน จะมีแบรนด์อะไรบ้างตามมาดูกันเลย

มารู้จัก 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่คนให้ความสนใจ

     ผลิตภัณฑ์สมุนไพร แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม สอดคล้องตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน ประกอบด้วย

  • Social Activity ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับบำรุงผิวและร่างกายให้พร้อมก่อนออกจากบ้าน

 

  • Outdoor Vibe ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับการปกป้องและฟื้นฟูผิวจากกิจกรรมกลางแจ้ง

 

  • Workaholicผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน และบำบัดด้วยกลิ่นหอมจากธรรมชาติ 

 

3 แบรนด์สมุนไพรไทยต่อยอดด้วย BCG Model

ชูชอบ

     ผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน ในกลุ่ม Social Activity ยาสีฟันที่ใช้วัตถุดิบจากสมุนไพรไทย รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ เพื่อมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืนและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

     ชูชอบ มหัทธนาเดช กรรมการผู้จัดการ หจก.ชูชอบ เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืน และเตรียมนำผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ไปขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต และซาอุดิอาระเบีย รวมถึงภูมิภาคยุโรป

     เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสนใจผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่เป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว ประกอบกับประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสมุนไพรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ส่วนตลาดในประเทศจะมุ่งขยายช่องทางร้านค้าปลีกเพื่อสุขภาพ เจาะกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานไปจนถึงกลุ่มผู้สูงอายุเพื่อรองรับการก้าวสู่สังคมสูงวัย ซึ่งประชากรกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนเป็น 20% ของประชากรทั้งประเทศ

บ้านหมอละออง

     ผลิตภัณฑ์บาล์มบำรุงผิว ในกลุ่ม Outdoor Vibe  ที่ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้มีความทันสมัยและมีความสวยงามมากขึ้น รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถย่อยสลายได้ สอดคล้องกับ BCG Model เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลก

     ศิริวิไล แอนกาดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บ้านหมอละออง เตรียมนำผลิตภัณฑ์ บ้านหมอละอองที่ได้ปรับโฉมใหม่ขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศจะมุ่งไปที่ร้านเพื่อสุขภาพ ร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ส่วนตลาดต่างประเทศ จะขยายสู่ภูมิภาคเอเชีย และภูมิภาคตะวันออกลาง เนื่องจากผู้บริโภคมีความชื่นชอบผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ซึ่งผลิตภัณฑ์มีความเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องผิวหนังที่ต้องการบำรุงมากเป็นพิเศษ โดยหลังจากนี้เตรียมนำแนวคิดของ BCG Model มายกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์อย่างเข้มข้นมากขึ้น

เฌอเอม

     ยาดมสมุนไพร “เฌอเอม” ในกลุ่ม Workaholic ยาดมที่เลือกใช้วัตถุดิบออร์แกนิคจากเกษตรกรไทย ได้ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่หลังได้เข้าร่วมโครงการถึง 4 กลิ่น ได้แก่ สีเขียว กลิ่นที่มีส่วนผสมจากหญ้าแฝก สีส้ม กลิ่นที่มีส่วนผสมจากส้ม สีม่วง กลิ่นที่มีส่วนผสมจากอโรม่า ออยล์ และสีฟ้าคราม กลิ่นที่มีส่วนผสมจากขิงและชาข้าว  

     และนี่คือ 3 แบรนด์สมุนไพรไทยดาวเด่น ที่เพิ่มมูลค่าตอบโจทย์ BCG Model ตอบรับเทรนด์ตลาดโลก เจาะตลาดคนรักสุขภาพ

ข้อมูลจาก : DIPT

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ไอเดียวาฟเฟิลรองเท้า ที่โดนใจ Gen Z จนขายได้วกว่า 200 คู่/วัน   

จะมาเป็นวาฟเฟิลเหมือนกันไม่ได้! เมื่อร้าน Chalos มาพร้อมกับวาฟเฟิลรูปรองเท้า ที่มองไปมองมาช่างคุ้นตาเสียเหลือเกิน ด้วยรูปทรงหัวโตๆ มีรูเยอะๆ พร้อมติดน้ำตาลปั้นสุดคิ้วท์แต่ละข้าง และใส่มาในกล่องที่ทำมาได้ฟีลกล่องรองเท้าจริงๆ ด้วย 

3 เทรนด์ธุรกิจมาแรงปี 2026 ที่ SME ไม่ควรมองข้าม

ปี 2026 คือปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของโลกธุรกิจ แต่สำหรับ SME ที่ต้องการ “ลงมือไว เห็นผลเร็ว” นี่คือ 3 เทรนด์ที่จับต้องได้ง่าย และมีโอกาสสร้างรายได้

Dr.Pong VS Supermom ขายของยังไงให้ได้ร้อยล้านพันล้าน สวนกระแสยุคที่คนหันมาสร้าง Personal Branding

ในขณะที่กลยุทธ์การสร้าง Personal Branding กำลังถูกพูดถึงว่าเป็นหนึ่งในหัวใจความสำเร็ของการทำธุรกิจในยุคออนไลน์ แต่ Dr.Pong VS Supermom คือสองแบรนด์ไทยที่เดินสวนกระแส แต่กลับสร้างธุรกิจระดับร้อยล้านล้านพันล้านได้