TEXT : Momin
Main Idea
10 เทรนด์การออกแบบ Packaging ให้ปังปี 2023
- ออกแบบแนว Illustration
- เพิ่มเนื้อสัมผัส จับต้องได้
- ออกแบบ Wrap-around ไร้รอยต่อ
- ใช้ตัวอักษรในการสื่อสาร
- ใช้มาสคอตเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์
- ออกแบบด้วยสีสันแห่งความสุข
- ออกแบบด้วยเสน่ห์แห่งการ์ตูน
- ใช้ภาพสินค้าที่สร้างสรรค์
- ย้อนหวนยุค 90
- วินเทจยุค 70
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรู้ดีอยู่แล้วว่าแพ็กเกจจิ้งคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า อย่างสินค้าบางชนิดคุณภาพดี แต่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแพ็กเกจจิ้งไม่ดึงดูดนักช้อป ดังนั้นการออกแบบแพ็กเกจจิ้งจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม และความชอบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทำให้มีเทรนด์หลายๆ อย่างของแต่ละปีเกิดขึ้น วันนี้เราเลยจะพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมารู้เทรนด์การออกแบบแพ็คเกจจิ้งปี 2023 ยังไงให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อโดยไม่ลังเล
ในช่วงเกือบ 11 เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่กระทบต่อจิตใจมนุษย์เป็นอย่างมาก ตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงสงครามในยูเครน และเหตุการณ์ล่าสุดคือที่ประเทศเกาหลีใต้ ณ อีแทวอน ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทำให้ผู้คนต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก
ด้วยเหตุนี้ ทำให้นักออกแบบทั่วโลกคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่สื่อถึงการมีชีวิตชีวาและการมองโลกในแง่ดี เพื่อเยียวยาจิตใจจากความเศร้าโศกที่เกิดขึ้น ซึ่งเราจะพาผู้ประกอบการทุกคนไปดู 10 เทรนด์การออกแบบกราฟิกปี 2023 ของ99designs by Vista กัน
10 เทรนด์การออกแบบ Packaging ให้ปังปี 2023
1. ออกแบบแนว Illustration
การออกแบบภาพแนวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสดใส และสนุกสนาน ซึ่งจะเอนเอียงไปทางการ์ตูนที่ดูอ่อนเยาว์ เพื่อที่จะดึงให้พลังงานที่ดีและความทรงจำวัยเด็กกลับคืนมา ซึ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์แนวนี้ ไม่เพียงแต่จะได้รับความสนใจจากคนอยากรู้ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์รสชาติใดหรือรูปแบบใดบ้าง ตัวอย่างสินค้าบ้านเราที่เคยเห็นกันก็คือ โออิชิแบบกล่องที่ใช้ตัวการ์ตูนและสีสันที่บ่งบอกถึงรสชาตินั้นๆ ทำให้ผู้บริโภคเห็นแล้วรู้เลยว่าคือรสชาติอะไร เป็นต้น
และการออกแบบที่มีสีสันโดดเด่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้แบรนด์โดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวบ่งชี้ให้ผู้บริโภครับรู้อย่างรวดเร็วว่าผลิตภัณฑ์นั้นคืออะไร - Imogen Hill
เหมาะกับธุรกิจ : ที่มีสินค้าหลากหลายรสชาติ เช่น เครื่องดื่ม ขนมคบเคี้ยว เป็นต้น
2. เพิ่มเนื้อสัมผัส จับต้องได้
การออบแบบแนวนี้ทำให้สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ เพราะการออกแบบที่เพิ่มพื้นผิวให้กับบรรจุภัณฑ์ เช่น การทำให้นูน หรือการใช้โลหะสะท้อนแสงบนบรรจุภัณฑ์ จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกพิเศษเมื่อพวกเขาสามารถสัมผัสและจับต้องมันได้ และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ด้วยพื้นผิวพิเศษนี้สามารถดึงดูดประสาทสัมผัสมากกว่าแค่การมองเห็นอีกด้วย ซึ่งฉลากสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เทคนิคการพิมพ์เหล่านี้ จะสามารถเพิ่มมูลค่าการรับรู้ของผลิตภัณฑ์เสมอ เนื่องจากดูหรูหราและมักเกี่ยวข้องกับแบรนด์ระดับไฮเอนด์
เหมาะกับธุรกิจ : เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม
3. ออกแบบ Wrap-around ไร้รอยต่อ
การออกแบบแนวที่ใช้เส้นกว้างสบายตาแบบไร้รอยต่อ แสดงถึงความอยากรู้อยากเห็น และช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคหยิบสินค้าได้อีกด้วย ซึ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบไร้รอยต่อที่ครอบคลุมทุกด้านของบรรจุภัณฑ์ ยังสามารถดึงดูดสนใจของผู้บริโภคได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรียงกันเมื่อแสดงบนชั้นวางสินค้าและความน่าสนใจของการออกแบบบรรจุภัณฑ์นี้อยู่ที่ความสอดคล้องกันกับรูปแบบและลักษณะของการออกแบบด้วย
เหมาะกับธุรกิจ : ที่มีสินค้าเป็นขวดหรือกระป๋อง
4. ใช้ตัวอักษรในการสื่อสาร
หรือที่เรียกเป็นภาษาทางการว่า Typography คือการจัดวางและการออกแบบตัวอักษรเพื่อการสื่อสาร ซึ่งที่ผ่านมาบรรจุภัณฑ์ที่เขียนด้วยลายมือกำลังเป็นที่นิยมอย่างเห็นได้ชัด ในแง่ของความสวยงาม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นทางการและเป็นกันเองมากขึ้น ซึ่งการออกแบบแบบง่ายๆ แบบนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์ดูมีจิตวิญญาณ โฮมเมด และให้ความรู้สึกติดดินได้ในทันที
เหมาะกับธุรกิจ : สินค้าโฮมเมด