เจาะเทรนด์ใหม่บำบัดคนขี้เหงา เมื่อ ‘ตุ๊กตา’ ไม่ได้มีไว้แค่ให้เด็กเล่น แต่ยอดขายพุ่งสูงขึ้นในกลุ่มวัยทำงาน

TEXT : Sir.nim

Main Idea

  • ความเหงา กับผู้คนยุคนี้ดูเหมือนจะเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะผู้คนที่ต้องอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ใช้ชีวิตเร่งรีบแข่งกับเวลา ทำงานแบบเช้าไปเย็นกลับ

 

  • ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้เกิดเทรนด์ความต้องการใหม่ๆ ขึ้นมากมาย เพื่อมาเติมเต็มความสุขในชีวิต จนเกิดเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจ

 

  • ล่าสุดใครจะคิดว่า ‘ตุ๊กตา’ สินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ จะกลับเป็นที่ต้องการและเติบโตพุ่งสูงขึ้นในหมู่คนวัยทำงาน โดยเฉพาะตุ๊กตาตัวโตๆ ที่สามารถกอด เพื่อคลายความเหงา ความวิตกกังวลได้

 

     เมื่อพูดถึง “ตุ๊กตา” เชื่อแน่ว่าผู้ประกอบการสินค้าส่วนใหญ่คงพุ่งเป้ากลุ่มเป้าหมายไปที่เด็กๆ แต่เคยคิดไหมว่า จริงๆ แล้ว ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็อาจต้องการตุ๊กตาตัวโตๆ เอาไว้กอดอุ่นๆ สักตัวก็ได้

อเมริกา - แคนาดายอดขายตุ๊กตาพุ่ง

     เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เมื่อยอดแห่ซื้อตุ๊กตาสูงในอเมริกาและแคนาดาพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะตุ๊กตาสัตว์ตัวโตๆ แต่ที่น่าแปลกใจไปยิ่งกว่า ก็คือ ผู้ที่แห่ซื้อตุ๊กตาจำนวนมากเหล่านั้น กลับไม่ใช่เด็กน้อยที่ชื่นชอบการเล่นตุ๊กตา แต่กลับเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน ซึ่งไม่ได้ซื้อไปเป็นของเล่นเพื่อความเพลิดเพลินหรือสนุกสนานเท่านั้น แต่กลับซื้อไปเป็นเพื่อนเพื่อช่วยบำบัดความเหงา ความวิตกกังวลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต

     กระแสดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่มีโรคระบาดโควิด-19 จนถึงทุกวันนี้กระแสดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งความต้องการซื้อนั้น ไม่ใช่แค่การมีไว้เล่นหรือตกแต่งบ้าน ตกแต่งห้องให้น่ารักเท่านั้น แต่สำหรับบางคนตุ๊กตารูปสัตว์หรือตุ๊กตาตัวโตๆ ยังช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและคลายเหงาได้ด้วย

แบรนด์นอก ผุดไอเดียทำตุ๊กตาบำบัดความเหงา

     Marina Khidekel นักข่าวด้านสุขภาพและผู้ก่อตั้งแบรนด์ตุ๊กตา Hugimals คือ หนึ่งในผู้ใหญ่ที่ต้องการตุ๊กตามาเยียวยาจิตใจ เธอบอกว่าได้ออกแบบ Hugimals ซึ่งเป็นแบรนด์ตุ๊กตาสัตว์ตัวโตขึ้นมา เพื่อต้องการให้ช่วยคลายเครียดและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้นให้กับผู้ซื้อเวลาใช้นอนกอด โดยส่วนหนึ่งก็เพื่อเอาไว้ใช้เอง เนื่องจากพบว่าบางครั้งผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (Weighted blanket) ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้บำบัดผู้มีภาวะนอนไม่หลับหรือมีอาการวิตกกังวล ก็มีน้ำหนักที่มากเกินไป จึงต้องการสิ่งของที่ให้ความอบอุ่น ทดแทนการโอบกอดได้ที่มีน้ำหนักน้อยลง

     โดยเริ่มแรกนั้นเธอกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้ปกครองที่มีเด็กขี้กังวล แต่กลับกลายเป็นว่าหลังเปิดตัวได้เพียงหนึ่งปี ลูกค้าที่ซื้อไปใช้งานของ Hugimals มากกว่า 50% กลับเป็นผู้ใหญ่ โดยพวกเขามักซื้อตุ๊กตาสัตว์เหล่านี้ให้ตัวเอง หรือให้เป็นของขวัญแก่เพื่อนผู้ใหญ่หรือสมาชิกในครอบครัว เพื่อใช้พวกมันบรรเทาความวิตกกังวลและช่วยในการนอนหลับนั่นเอง

     เช่นเดียวกับ Squishmallows และ Jellycats ซึ่งเป็นแบรนด์ของเล่นและตุ๊กตายอดนิยมอีกสองแบรนด์ ก็เริ่มได้รับความสนใจในลักษณะเดียวกันนี้ในหมู่ผู้ใหญ่ตั้งแต่เริ่มเกิดโรคระบาดเช่นกัน โดยตุ๊กตา Jellycats จะเป็นตุ๊กตารูปสัตว์ขนนุ่มๆ ออกแนวน่ารักปนขบขันนิดๆ อาทิ รูปกระต่ายหูยาว, รูปน้องหมา ส่วนของแบรนด์ Squishmallows จะเป็นตุ๊กตาตัวกลมๆ นุ่มๆ หน้ายิ้ม ล่าสุดกลายเป็นแบรนด์ของเล่นที่มียอดขายสูงสุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเมื่อปีที่ผ่านมาตามรายงานของ Circana บริษัทวิจัยการตลาด

     ว่ากันว่าความนิยมในตุ๊กตาที่เพิ่มสูงขึ้นในวัยผู้ใหญ่ ส่วนหนึ่งมาจากเทรนด์ของเล่นที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ใหญ่ด้วย เพื่อสานสัมพันธ์กับความเป็นเด็กในตัวของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง และเหตุผลอีกส่วนหนึ่งของเล่นเหล่านี้ยังสามารถใช้ตกแต่งบ้านได้ด้วย เพียงแต่เทรนด์ตุ๊กตาสัตว์ตัวโตๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมนี้กลับให้มากกว่าความเพลิดเพลิน สนุกสนาน แต่ช่วยให้พวกเขารับมือกับความวิตกกังวล ความเครียด โศกเศร้า และโดดเดี่ยว ได้ด้วย

คนวัยทำงานชาวอเมริกันเป็นโรคนอนไม่หลับ พุ่งสูงกว่า 20%

     ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันประมาณ 20% มีปัญหาความวิตกกังวลซึ่งส่งผลกระทบต่อการนอนหลับยาก โดยในเดือนมกราคม 2022 มีการค้นหาคำว่า "เครื่องช่วยการนอนหลับ" พุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปีบน Google และยอดขายเมลาโทนิน ยาที่ไปช่วยกระตุ้นฮอร์โมนควบคุมการนอนหลับเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าตั้งแต่ปี 2016 – 2020

     จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นจึงมีการพยายามคิดค้นนวัตกรรมเพื่อช่วยให้นอนหลับมากขึ้น หนึ่งในนั้น คือ ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (Weighted blanket) โดยลักษณะพิเศษของผ้าห่มชนิดนี้ ก็คือน้ำหนักที่มากกว่าผ้าห่มปกติทั่วไปตั้งแต่ 1-10 กิโลกรัมตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกโอบกอด มั่นคง ปลอดภัย และอบอุ่น จึงช่วยให้นอนหลับได้ลึกและหลับได้สบายมากขึ้น ตามหลักการที่เรียกว่า Deep pressure simulation (DPS) โดยตุ๊กตารูปสัตว์ตัวโตๆ เป็นหนึ่งในไอเดียที่ต่อยอดขึ้นมา

     ในปี 2017 Atomik Research บริษัทวิจัยการตลาดพบว่าผู้ใหญ่ 40% ยังคงนอนกับตุ๊กตาสัตว์ ขณะที่ Build-A-Bear ร้านจำหน่ายตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ และตุ๊กตาสัตว์อื่นๆ สัญชาติอเมริกัน มีการเก็บสถิติว่ามากกว่า 25% ของยอดขายตุ๊กตาสัตว์ภายในร้านนั้นมีไว้สำหรับวัยรุ่นขึ้นไป และเปอร์เซ็นต์นั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยนอกจากขายตุ๊กตาทั่วไปแล้วบนเว็บไซต์ Build-A-Bear ยังมีคอลเลคชั่นที่เรียกว่า "ตุ๊กตาสัตว์สำหรับผู้ใหญ่ เพื่อคลายวิตกกังวล" โดยเฉพาะด้วย

ตุ๊กตาสัตว์ช่วยคลายกังวลได้อย่างไร

     ตามหลักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่า เหตุที่ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก หรือตุ๊กตาตัวโตๆ ถึงทำให้รู้สึกสงบและนอนหลับได้สบายขึ้น เป็นเพราะน้ำหนักและแรงกดของผ้าห่มฯ หรือตุ๊กตาจะส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ควบคุมสัญชาตญาณการต่อสู้ หรือตื่นตัวลดน้อยลง นอกจากนี้แรงกดที่ได้รับยังทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจช้าลง คล้ายกับเทคนิคการหายใจแบบกล่อง ซึ่งช่วยให้คุณเข้าสู่การนอนหลับได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

     ในอีกมุมหนึ่งการที่มีตุ๊กตาตัวโตๆ อยู่ใกล้ๆ Donald Winnicott นักจิตวิทยาวิเคราะห์เรียกว่า "วัตถุเปลี่ยนผ่าน" (Transitional Objects) เป็นสะพานเชื่อมช่องว่างที่ไม่แน่นอน หรือตัวแทนเพื่อใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนกับความรู้สึกในตอนเด็กๆ ที่เรารู้สึกกังวล หรือกลัวอะไรสักอย่าง การมีตุ๊กตา, ผ้าห่ม หรือของเล่นสักชิ้นถือไว้กับตัวก็จะทำให้รู้สึกปลอดภัย และมั่นคงได้นั่นเอง

     เห็นไหมล่ะว่าสินค้าชิ้นเดียวกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการ หรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา ก็อาจเปลี่ยนไปได้เช่นกัน ฉะนั้นลองสังเกต ศึกษาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่แน่คุณอาจพบโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจก็เป็นไปได้

ที่มา : https://www.businessinsider.com/lonely-adults-driving-stuffed-animal-sales-for-self-care-2023-7

https://www.sleep.com/sleep-tech/stuffed-animals-for-adults

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024