การตลาดผ่าน QR Code








เรื่อง วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์



    เราอาจคุ้นเคยกับบาร์โค้ดซึ่งเป็นแท่งขาวดำวางเรียงกันในแนวดิ่งเพื่อใช้แทนรหัสสินค้ามานาน แต่ช่วงไม่นานมานี้จะเห็นว่ามีโค้ดอีกแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โค้ดดังกล่าวมีลักษณะเป็นโมดูลสีดำเรียงในช่องสี่เหลี่ยมพื้นขาว รู้จักในชื่อ Quick Response Code หรือเรียกกันย่อๆ QR Code เจ้าโค้ดที่ว่าปรากฏให้เห็นบนสินค้าหลากหลายชนิด รวมไปถึงสื่อต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ และโซเชียลมีเดียต่างๆ 


    ความจริงแล้ว QR Code ไม่ได้เป็นนวัตกรรมแปลกใหม่อันใด มันถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อ 21 ปีก่อนโดยบริษัทในเครือโตโยต้าเพื่อ Track ชิ้นส่วนรถยนต์ QR Code จะมีลูกเล่นกว่าบาร์โค้ดตรงที่บรรจุข้อมูลได้มากกว่า แสดง URL ของเว็บไซต์ได้ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ และที่สำคัญเป็นอุปกรณ์สแกนข้อมูลความเร็วสูงจึงถอดรหัสและอ่านข้อมูลได้เร็ว ด้วยคุณสมบัติที่เหนือชั้นกว่าบาร์โค้ดจึงทำให้ QR Code ถูกนำมาใช้ในการทำการตลาด ยิ่งจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากเท่าไร QR Code ก็ยิ่งถูกใช้เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างกับผู้บริโภคมากเท่านั้น 


    ไอเดียการตลาดผ่าน QR Code มีการนำมาใช้ในองค์กรและแวดวงธุรกิจอย่างกว้างขวาง อย่างในอุตสาหกรรมการบิน สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์เป็นสายการบินรายแรกๆ ที่ใช้ QR Code ในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ด้วยการแสดง QR Code ใต้ป้ายเที่ยวบิน เมื่อผู้โดยสารสแกนไปที่โค้ดก็จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินนั้น เช่น หมายเลขประตูทางออกขึ้นเครื่อง แผนที่ทางไปขึ้นเครื่อง และสถานะของเที่ยวบินว่าปกติหรือล่าช้า ทั้งนี้ QR Code ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ด้วย


     สื่อสิ่งพิมพ์ก็เป็นธุรกิจหนึ่งที่ใช้ประโยชน์จาก QR Code ยกตัวอย่าง นิตยสารเอสไควร์ซึ่งเป็นเล่มแรกๆ ที่ให้ข้อมูลผ่าน QR Code ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดตแฟชั่นต่างๆ ทั้งยังมีลิงก์ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ของดีไซเนอร์เพื่อให้คนอ่านสามารถสั่งสินค้าจากดีไซเนอร์โดยตรง หรือนิตยสารโอ แมกกาซีนของโอปราห์ วินฟรีย์ที่บรรจุข้อมูลสินค้าเด็ดๆ ให้ผู้อ่านสามารถสแกน QR Code เข้าไปชมสินค้าและตามลิงก์สินค้าเข้าไปสั่งซื้อได้ 


    ตัวอย่างอันชาญฉลาดในการใช้งาน QR Code คือที่สถาบันสมิธโซเนี่ยนของสหรัฐฯ ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซึ่งมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับมนุษย์ดึกดำบรรพ์ (มนุษย์ถ้ำ) อายุ 3-5 หมื่นปีก่อน เมื่อผู้เข้าชมใช้สมาร์ทโฟนสแกนโค้ดที่เจ้าหน้าที่จัดแสดงไว้ จะถูกเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่ทำให้ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์สามารถถ่ายรูปที่ทำให้ตัวเองดูเหมือนมนุษย์ถ้ำ และสามารถอัพโหลดภาพขำ ๆ นั้นลงบนเฟซบุ๊กหรือส่งให้เพื่อนทางสื่อโซเชียลอื่นๆ หลายพิพิธภัณฑ์รวมถึงหอศิลป์บรรจุ Audio Tour Guideใน QR Code สำหรับนำชมและให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานแต่ละชิ้น ด้วยลูกเล่นแบบนี้เองทำให้ดึงดูดผู้คนให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์มากขึ้น 


    หรือฮาร์นี ซูชิ ร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ที่จัดทำ Edible QR Code แปะบนอาหารที่เสิร์ฟแก่ลูกค้า โดย QR Code ดังกล่าวพิมพ์ด้วยหมึกรับประทานได้ลงบนแผ่นแป้งสีขาว เมื่อเสิร์ฟซูชิแต่ละจาน เชฟจะวางแผ่น QR Code แนบไปด้วย หากลูกค้าใช้โทรศัพท์สแกน จะพบข้อมูลเกี่ยวกับอาหารจานนั้น เช่น ชนิดของปลา แหล่งที่จับพร้อมรายละเอียดต่างๆ กลยุทธ์แบบนี้ทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดเลยทีเดียว เช่นเดียวกับที่บาร์ Glass Dance ในโตเกียว นอกจากการสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานในร้าน ลูกค้ายังสามารถสั่งเครื่องดื่มพร้อมชำระเงินผ่าน QR Code เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชันสั่งเครื่องดื่มลงบนสมาร์ทโฟนก็สามารถใช้งานได้ทุกครั้งที่ไปใช้บริการที่บาร์ นับว่าเป็นการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี


 





    QR Code ยังรุกเข้าธุรกิจค้าปลีกจนเป็นที่มาของซูเปอร์มาร์เก็ตเสมือนจริง อย่างที่กำลังฮือฮาในเกาหลีใต้ โดยห้างเทสโก้จากอังกฤษได้เปิดร้านค้าปลีกตามสถานีรถไฟใต้ดิน ร้านค้าที่ว่าอยู่ในรูปป้ายขนาดใหญ่ติดตามผนัง บนแผ่นป้ายแสดงภาพสินค้าที่จัดเรียงตามหมวดหมู่เหมือนในซูเปอร์มาร์เก็ต ทุกภาพมี QR Code กำกับ ระหว่างรอรถไฟ ลูกค้าสามารถจับจ่ายซื้อหาของกินของใช้เข้าบ้านโดยใช้สมาร์ทโฟนสแกนโค้ดใต้สินค้า ชำระเงินทางออนไลน์ แล้วสินค้าจะจัดส่งถึงประตูบ้านไม่ต้องหอบหิ้วให้เหนื่อยหนัก วิธีนี้ร้านค้าหลายแห่งในยุโรปก็เริ่มนำมาใช้แล้วเช่นกัน ทำเลที่พบจะเป็นสถานีรถไฟ ซึ่งเหมาะกับวิถีชีวิตของคนเมืองที่เร่งรีบและไม่มีเวลาเดินทางไปช้อปด้วยตัวเอง  


    ในมุมมองของนักการตลาด QR Code เป็นเครื่องมือที่ดีในการเชื่อมโยงถึงลูกค้า โดยผลการสำรวจของบริษัทเทคโนโลยี ScanLife ในสหรัฐฯ พบว่าแนวโน้มที่ผู้บริโภคสแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูลและร่วมกิจกรรมที่เจ้าของสินค้าจัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยกิจกรรม 3 อันดับท็อปฮิตได้แก่ การดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน การสแกนเพื่อรับส่วนลด และเพื่อชิงโชคชิงรางวัล เปอร์เซ็นต์ของผู้สแกนเป็นหญิง 37% และชาย 63% (อายุระหว่าง 35-44 ปี) และเกินกว่าครึ่งเป็นการสแกนผ่านสมาร์ทโฟนแอปเปิ้ล 


    ก่อนหน้านั้น ในการสื่อสารผ่านอีเมล์ มักมีการแนบลิงก์เว็บไซต์ถึงลูกค้า แต่สิ่งที่เริ่มเปลี่ยนไปคือคนเริ่มหันมาแนบ QR Code แทน Link อันนี้อาจเป็นเรื่องของจิตวิทยาเพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์จะมีความอยากรู้อยากเห็น เมื่อเห็นอะไรที่เป็นรหัส ก็อยากจะไขเข้าไปดู การแนบ QR Code จึงได้ผลในแง่ที่ว่าทำให้คนอยากสแกนเข้าไปดูมากกว่าการกดลิงก์ นอกจากนั้น QR Code ยังตอบโจทย์ในเรื่องของการนำเสนอข้อมูลได้เพียงพอ เพราะใน QR Code สามารถบรรจุไปด้วยข้อมูล เช่น URL เว็บเพจ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถคลิกโทร.ออกได้ทันที ข้อมูลที่สามารถดาวน์โหลดได้ แผนที่ และข้อมูลต่างๆ 


    ในยุคที่สมาร์ทโฟนกำลังครองเมือง การนำ QR Code มาใช้เพื่อทำการตลาดจึงเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจเพราะนอกจากอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว การตลาดแบบนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นการนำเสนอข้อมูลทางออนไลน์ ไม่ต้องใช้กระดาษ ทั้งยังประหยัดต้นทุนลงได้ การโปรโมตสินค้าหรือบริการก็สามารถทำได้หลากหลายทาง เช่น ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายบิลบอร์ด โบรชัวร์ นามบัตร ใบเสร็จ บรรจุภัณฑ์สินค้า หรือแม้กระทั่งบนเมนูอาหาร ที่สำคัญสามารถประเมินว่ามีผู้สนใจสินค้าและบริการมากน้อยเพียงใดโดยวัดจากยอดหรือจำนวนครั้งในการสแกน QR Code 


    อย่างที่ทราบ การที่ QR Code จะแพร่หลายได้ต้องได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ บริษัทฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลก ในอีกไม่เกิน 3 ปีหรือราวปี 2560 จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในไทยจะเพิ่มมาอยู่ที่ 40 ล้านคน และ 20 ล้านคนตามลำดับ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลย สำหรับผู้ประกอบการทั้งหลายหากต้องการสร้างความแตกต่าง และอยู่ในกระแสโลกไซเบอร์ การทำการตลาดผ่าน QR Code จึงเป็นเรื่องน่าพิจารณายิ่งนัก 

•    บทความจากวารสาร K SME Inspired เล่ม 33

www.smethailandclub.com ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)

 

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024