TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : King Organic
นงนุช สุขใจเจริญกิจ เจ้าของแบรนด์ King Organic (คนกลาง)
ขึ้นชื่อว่า “พรีเมียม” แน่นอนไม่ว่าใครก็ย่อมเข้าใจว่า คือ ของดี พิเศษ มีคุณภาพสูง ซึ่งราคาก็ย่อมต้องแรงตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น ผัก ผลไม้ และสินค้าออร์แกนิกต่างๆ ที่แม้จะปลอดภัย มีประโยชน์มากมาย แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง เพราะกรรมวิธีการผลิตมีความยุ่งยากมากกว่า ผลิตได้ปริมาณน้อยกว่า จึงทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ยากกว่า ทำยังไงถึงจะแก้ Pain Point ที่เกิดขึ้นได้
KING Organic ผู้ผลิตผัก ผลไม้ และสินค้าแปรรูปออร์แกนิก จ.สมุทรสาคร จึงได้คิดกลยุทธ์การทำธุรกิจที่เรียกว่า “Mass Premium” ขึ้นมา เพื่อทำของพรีเมียม ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขวางมากขึ้น ในราคาที่ใครๆ ก็สามารถจับต้องได้ มีวิธีการยังไง ไปดูกัน
เริ่มต้นจาก Pain Point
นงนุช สุขใจเจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิง เฟรซ ฟาร์ม จำกัดเล่าว่า เริ่มต้นธุรกิจเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ด้วยการส่งออกผลไม้ไทยโดยเฉพาะมะม่วงไปต่างประเทศ เช่น ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี จึงต่อยอดกิจการ สร้างโรงอบไอน้ำร้อน VHT เพื่อกำจัดแมลงและโรงคัดบรรจุผลไม้เพื่อการส่งออกของตัวเองอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร
ด้วยความสนใจเทรนด์สุขภาพ รวมถึงต้องการเชื่อมโยงธุรกิจสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว จึงตัดสินใจแตกไลน์ขยายธุรกิจผลิตสินค้าอาหารจากวัตถุดิบเกษตรที่เป็น “ออร์แกนิค” แท้ๆ เพื่อ อยากสนับสนุนผู้บริโภคให้เข้าถึงอาหารออร์แกนิคได้ง่ายขึ้น ภายใต้แบรนด์ “KING Organic”
“ส่วนตัวสนใจเกี่ยวกับสินค้าเกษตรอินทรีย์และอาหารปลอดภัยอยู่แล้ว ประกอบกับปัจจุบันคนทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาอาหารสุขภาพ โดยเฉพาะที่เป็นสินค้าออร์แกนิค มี Pain Point เข้าถึงผู้บริโภคได้ยาก เพราะราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นเมื่อตั้งใจจะทำธุรกิจสินค้าอาหารออร์แกนิค จึงอยากลองทำเป็นสินค้า Mass Premium เป็นของดี ราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้” เจ้าของแบรนด์ King Organic เล่าที่มาแรงบันดาลใจให้ฟัง