"วัยรุ่น-วัยทำงาน" ตลาดใหม่ที่น่าจับตาใน "เทศกาลกินเจ"




    “เทศกาลกินเจ” กลับมาอีกครั้ง ซึ่งในปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม ถึง 21 ตุลาคม 2558 คาดว่าบรรยากาศการกินเจในพื้นที่กรุงเทพฯ น่าจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับทุกๆ ปี 

    แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจะสร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคอยู่ไม่น้อย แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ยังสามารถปรับตัวได้ เพราะการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายที่เน้นด้านอาหารและเครื่องดื่มเจเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคก็มีการใช้จ่ายเป็นประจำอยู่แล้วในช่วงวันปกติ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนจากอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ใช่เจมาเป็นเจ
 
    ในขณะเดียวกัน หากพิจารณาถึงตลาดผู้บริโภคในช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้ นอกเหนือจากผู้บริโภคกลุ่มดั้งเดิมที่รับประทานอาหารเจเป็นประจำและตั้งใจถือศีลกินเจในช่วงเทศกาลกินเจแล้ว ยังมีกลุ่มผู้บริโภคเจรุ่นใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานต้นๆ หันมาให้ความสนใจกินเจกันมากขึ้น 

    โดยมีแรงจูงใจสำคัญมาจากการตั้งใจกินเจเพื่อสุขภาพ หรือให้การตอบรับกับอาหารเชิงสุขภาพ/อาหารคลีน (Clean Food) ซึ่งเป็นเทรนด์การบริโภคที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมสำหรับคนรักสุขภาพในปีนี้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการกินเจตามกระแสเทศกาล ที่ได้รับแรงหนุนจากคนใกล้ตัว

    ซึ่งจากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลกินเจนั้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคเจรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 20-39 ปี โดยจัดอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงาน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1 ล้านคนในกรุงเทพฯ  

    กลุ่มนี้สนใจกินเจเพื่อสุขภาพ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากความนิยมบริโภคอาหารเชิงสุขภาพ/ อาหารคลีนที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนักแสดงหรือผู้มีชื่อเสียงด้านการดูแลสุขภาพและออกกำลังกาย อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่สนใจกินเจตามกระแสเทศกาล (ส่วนใหญ่ตั้งใจรับประทานบางมื้อ เฉลี่ยอย่างน้อย 3-4 วันจาก 9 วัน) ซึ่งได้รับแรงหนุนหรือการชักชวนจากคนใกล้ตัว ครอบครัว/เพื่อนฝูง 

 



    โดยรูปแบบการบริโภคของกลุ่มนี้ จะเน้นเรื่องความสะดวกในการรับประทานมาเป็นอันดับแรก ดังนั้น การรับประทานอาหารเจที่ร้านอาหาร จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะร้านอาหารที่อยู่ใกล้สถานที่ทำงานและสถานศึกษา รองลงมาคือ การซื้ออาหารเจสำเร็จรูปจากร้านอาหารมารับประทานที่บ้าน และซื้ออาหารเจแบบตักขายข้างทาง ตามลำดับ โดยมีเมนูยอดฮิตได้แก่ ข้าวราดแกง เมนูประเภทเส้นและเมนูของทอดเจต่างๆ ตามลำดับ

     อย่างไรก็ดี เป็นที่สังเกตว่า ในปีนี้เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ก็เริ่มเป็นทางเลือกใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคให้การตอบรับมากขึ้น โดยพิจารณาถึงส่วนประกอบในอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงอาหารเจแนวสุขภาพ อาหารคลีน (สูตรเจ) หรือเมนูอาหารเจที่ไม่มัน หรือมีส่วนประกอบจากแป้งที่ไม่มากเกินไป โดยจะเน้นไปที่คุณค่าทางอาหารที่ร่างกายได้รับ จำนวนแคลอรี่ หรือกรรมวิธีการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เพื่อให้ดีต่อสุขภาพและช่วยควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมไปในตัว เป็นต้น 

    ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ควรวางแผนและปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดรับกับความต้องการที่เกิดขึ้นทั้งกลุ่มตลาดเดิม และกลุ่มที่มาแรงอย่างผู้บริโภคเจรุ่นใหม่ ซึ่งมีความเต็มใจที่จะจ่ายค่อนข้างสูง และคาดว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาผลักดันให้เม็ดเงินค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจเพิ่มมากขึ้นในระยะข้างหน้า 

    เพราะส่วนใหญ่ร้อยละ 79 ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความเห็นว่าอยากให้มีเมนูอาหารเจนอกเทศกาลมากขึ้น ดังนั้น โอกาสทางธุรกิจไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ แต่อาจจะรวมไปถึงช่วงเวลาอื่นๆ ด้วยเช่น วันพระ วันเกิด หรือช่วงเวลาที่สะดวกตลอดทั้งปี (ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนจากสูตรเจ เป็นสูตรมังสวิรัติหรืออาหารคลีนตามความสะดวก) 

    ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลอดช่วงเทศกาลกินเจปี 2558 จะมีค่าใช้จ่ายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มเจของคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นเม็ดเงินสะพัดกว่า 4,200 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.5 (YoY) หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 270 บาท/คน/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 240 บาท/คน/วัน

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)

RECCOMMEND: MARKETING

เลิกบริการผิดวิธี ถ้าอยากขายดียุคนี้ ต้องทำให้ Social Battery ลูกค้าหมดช้าที่สุด

ใครว่าบริการที่ดีต้อง "ยิ้ม ต้องทัก ต้องถาม" เสมอไป? วันนี้ธุรกิจที่ทำเงินได้ดี อาจเป็นร้านที่ "พูดน้อยที่สุด" และ "รบกวน Social Battery ลูกค้าให้น้อยที่สุด" ก็เป็นได้

เปิดอินไซต์ Longevity Economy “ชีวิตยืนยาว–สุขภาพดี” มาตรฐานใหม่ของความลักชูรี่ ดันตลาดสุขภาพไทยโตแรงระดับโลก

ชีวิตยืนยาว–สุขภาพดี กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความลักชูรี่ เปิดอินไซต์ Longevity Economy ชี้ตลาด Health & Wellness ไทยโตแรงระดับโลก เมื่อ “อยู่ได้นาน” ไม่พอ แต่ต้อง “อยู่ได้ดี” นี่คือเมกะเทรนด์ที่ธุรกิจสุขภาพต้องจับตา

ไอเดียวาฟเฟิลรองเท้า ที่โดนใจ Gen Z จนขายได้วกว่า 200 คู่/วัน   

จะมาเป็นวาฟเฟิลเหมือนกันไม่ได้! เมื่อร้าน Chalos มาพร้อมกับวาฟเฟิลรูปรองเท้า ที่มองไปมองมาช่างคุ้นตาเสียเหลือเกิน ด้วยรูปทรงหัวโตๆ มีรูเยอะๆ พร้อมติดน้ำตาลปั้นสุดคิ้วท์แต่ละข้าง และใส่มาในกล่องที่ทำมาได้ฟีลกล่องรองเท้าจริงๆ ด้วย