ไทยเที่ยวไทยปี 68 'เมืองรอง' คือขุมทรัพย์ใหม่ เมื่อคนไทยเที่ยวถี่ขึ้น เน้นไป-กลับ

     แม้ภาพรวม "ไทยเที่ยวไทย" ปี 2568 จะเติบโตชะลอลง  ในความท้าทายนี้กลับมี “โอกาสใหม่” ซ่อนอยู่… เมืองรองที่เคยเงียบ กลับเริ่มมีคนแน่น ถนนสายรองเริ่มมีชีวิต เพราะคนไทยยังอยากเที่ยว เพียงแต่ เปลี่ยนวิธีเที่ยว เปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนเมืองที่เลือกไป

     บทความนี้จะพาคุณเจาะลึก "เทรนด์ไทยเที่ยวไทย ปี 2568" ว่าทำไมตลาดไม่ถอยเสียทีเดียว แต่เปลี่ยนเกม และคุณต้องเปลี่ยนตามให้ไว ก่อนจะตามไม่ทัo

ตลาดไทยเที่ยวไทยปี 2568: โตแบบเหนื่อยๆ ในภาวะที่ท้าทาย

     ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ปี 2568 คนไทยจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศรวม 205 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2.2% จากปีก่อน แต่เป็นการเติบโตที่ชะลอลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 1.14 ล้านล้านบาท โตเพียง 2% ซึ่งชะลอลงจากปีก่อนเช่นกัน

     สาเหตุหลักมาจากปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ปัญหาการเมืองในประเทศ ความเปราะบางของกำลังซื้อผู้บริโภค รวมถึงภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวที่กระทบการเดินทาง โดยเฉพาะในจังหวัดยอดนิยมอย่างกรุงเทพฯ กระบี่ อยุธยา และจันทบุรีที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยลดลง

     ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทยเพิ่มขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากมาตรการวีซ่าฟรี และโปรโมชันจากบริษัททัวร์ที่ทำให้เที่ยวต่างประเทศบางแห่ง “ถูกกว่าเที่ยวไทย” เช่น แพ็กเกจเกาหลีใต้ 4 วัน 2 คืน ราคาเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท หรือเวียดนามเริ่มต้นที่ 7,000 บาท

ครึ่งปีแรก 2568: โตแบบพอประคองตัว

     ในช่วง ครึ่งแรกของปี 2568 คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 101 ล้านคน-ครั้ง โต 2.3% (YoY) โดยสร้างรายได้ 574,426 ล้านบาท เติบโต 3.5% (YoY)

     ถึงแม้เศรษฐกิจและความเชื่อมั่นจะยังไม่ฟื้นเต็มที่ แต่ยังพอมีปัจจัยบวกอย่าง โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ที่รัฐบาลช่วยจ่ายค่าที่พักสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน จำนวน 500,000 สิทธิ์ และการแจก คูปองดิจิทัล เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย

ครึ่งปีหลัง 2568: ยังพอมีแรง แต่ต้องจับตาใกล้ชิด

     ในช่วง ครึ่งหลังของปี แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวยังโตต่อ แต่ ชะลอลงมาอยู่ที่ 1.4% (YoY) จากแรงหนุนของความต้องการท่องเที่ยวที่ยังมีอยู่ และมาตรการกระตุ้นของรัฐ

     แต่ในอีกด้าน ตลาดยังต้องรับแรงกดดันจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการแข่งขันกับการท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้มข้นขึ้นต่อเนื่อง

เทรนด์มาแรง: เมืองรอง-เมืองน่าเที่ยวกำลังชนะใจคนไทย

     หนึ่งในปรากฏการณ์ที่น่าจับตาที่สุดของปีนี้คือ เทรนด์การท่องเที่ยว “เมืองรอง” ที่มาแรงเกินคาด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ว่า สัดส่วนคนไทยเที่ยวเมืองรองในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 41.4% เพิ่มขึ้นจาก 41.3% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี และพุ่งขึ้นจาก 32.3% ในช่วงเดียวกันของปี 2562 (ก่อนโควิด-19) จังหวัดเมืองรองที่น่าสนใจ เช่น สุพรรณบุรี เชียงราย สมุทรสงคราม อุบลราชธานี ต่างมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเกิน 2 ล้านคน มากกว่าหลายจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น สงขลา (1.4 ล้านคน) หรือพังงา (6.5 แสนคน)

     ปัจจัยที่ผลักดันเมืองรองให้เติบโต ได้แก่

          - ความต้องการหลีกเลี่ยงความแออัด

          - การค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ

          - แรงหนุนจากรีวิวในโซเชียลมีเดีย

          - ความนิยมในการท่องเที่ยวเชิงศาสนา

โอกาสทางธุรกิจ: เมืองรองกำลังสร้าง “ตลาดใหม่”

     แม้การท่องเที่ยวเมืองรองจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ รายได้ยังคิดเป็นเพียง 28% ของรายได้รวมจากไทยเที่ยวไทย ซึ่งยังตามหลังเมืองท่องเที่ยวหลักที่ครองสัดส่วนรายได้ถึง 72%

     ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน/ครั้งในเมืองรองอยู่ที่ 2,800 บาท ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเมืองหลักที่ 5,000 บาท/คน/ครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากค่าบริการที่พักและอาหารที่ถูกกว่า เช่น

     โรงแรม 4 ดาวในเมืองรอง ราคาเฉลี่ย 1,850 บาท/คืน เทียบกับกรุงเทพฯ หรือภูเก็ต ราคาเฉลี่ย 3,500 บาท/คืน

     อย่างไรก็ตาม นี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการ หากสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มหรือประสบการณ์เฉพาะตัวในเมืองรองได้ เช่น กิจกรรมเชิงวัฒนธรรม, ฟาร์มทัวร์, แคมป์ธรรมชาติ, หรือแพลตฟอร์มรีวิว-จองที่พักในเมืองรองโดยเฉพาะ

พฤติกรรมใหม่ของนักท่องเที่ยวไทย: ไปเช้าเย็นกลับ – ประหยัด – แต่ยังอยากเที่ยว

     คนไทยในปี 2568 มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยกว่า 51% นิยมเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ เป็นเทรนด์ที่เพิ่มขึ้น และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยยังต่ำกว่าก่อนโควิด-19 ซึ่งปี 2562 ค่าใช้จ่ายต่อคน/ครั้งเคยสูงกว่าระดับ 4,100 บาทที่คาดการณ์ในปีนี้

     แม้การเติบโตของตลาดไทยเที่ยวไทยในปี 2568 จะชะลอลง แต่ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงนี้ซ่อน “โอกาส” ไว้อย่างชัดเจน

     - เมืองรองคือพื้นที่ที่กำลังสร้างนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่

     - การใช้จ่ายที่แม้จะไม่สูง แต่กลับมีพฤติกรรมการเดินทางที่ชัดเจนขึ้น

     - รัฐยังเดินหน้าสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวผ่านโครงการต่างๆ

     นักธุรกิจท่องเที่ยวควรมองให้ลึกกว่าตัวเลข และปรับตัวตามพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค เพื่อคว้าโอกาสจากการท่องเที่ยวแบบเนิบช้า แต่มาแรงในเมืองรอง

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เจาะอินไซด์ Beauty Business ไทย สงครามความงาม 7.5 หมื่นล้าน ใครจะครองบัลลังก์?

ธุรกิจความงามไม่ใช่แค่ “ความสวย” แต่คือ สนามรบแห่งกำไรและการเอาตัวรอด ตลาดหมื่นล้าน แต่ NPM ต่ำสุดในรอบ 10 ปี การแข่งขันดุเดือด ที่น่าสนใจคือ…ในสนามนี้ใครจะครองอยู่หรือใครจะไป?

SME ต้องรู้!  เคล็ดลับทำให้ “แบรนด์ใหญ่อยาก Collab ด้วย

ทุกวันนี้ Collaboration หรือการจับมือกับแบรนด์อื่น ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่คือ ทางลัด ที่ทำให้แบรนด์เล็กก้าวสู่สปอตไลต์ได้ในชั่วข้ามคืน แล้วแบรนด์เล็กจะทำอย่างไรให้แบรนด์ใหญ่หันมามองและยอม Collab ด้วย?