MUJI vs IKEA กลยุทธ์สร้างแบรนด์ต่างกันสุดขั้ว แต่ทั่วโลกต้องจดจำ

Text: Neung Cch.


      ชื่อแบรนด์ที่แข็งแรง ไม่ได้เกิดจากเสียงโฆษณาดังลั่น แต่เกิดจาก “ตัวตน” ที่ชัดเจนและยืนหยัดในแบบของตัวเอง

     MUJI จากสวีเดน และ IKEA  จากญี่ปุ่น คือสองแบรนด์ที่นิยามคำนี้ได้ชัดเจนที่สุด แบรนด์หนึ่งเลือกความเงียบ สะอาดตา อีกแบรนด์กลับขายความสนุก ความอลังการ ดูเหมือนต่างกันคนละขั้ว แต่ประสบความสำเร็จระดับโลกเหมือนกัน

     แล้วอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จ? บทความนี้จะพาคุณเจาะลึก DNA การสร้างแบรนด์ที่ไม่ได้แค่ขายของ แต่ปลูกฝัง “วัฒนธรรม” จนลูกค้าจำขึ้นใจและถอดบทเรียนสำคัญที่ธุรกิจเล็กก็ทำตามได้ ไม่ต้องเป็นยักษ์ใหญ่ก็สร้างแบรนด์ให้ทรงพลังได้เหมือนกัน

MUJI: เรียบง่ายแต่ทรงพลัง — Less is More

     MUJI (ย่อจาก Mujirushi Ryohin หรือ “สินค้าคุณภาพไร้แบรนด์”) คือแบรนด์ญี่ปุ่นที่เลือกเดินสวนกระแสตลาดในยุคที่แบรนด์นิยมและการบริโภคแบบจัดเต็มครองเมือง จุดเริ่มต้นของ MUJI ในปี 1980 เกิดจากความตั้งใจที่จะ “ลดทอน” ทุกสิ่งที่ไม่จำเป็น จนเหลือเพียงสิ่งที่ใช่ที่สุด ทั้งในแง่ของดีไซน์ ฟังก์ชัน และวิถีชีวิต

     กลยุทธ์หลัก: No-Brand Branding MUJI สร้างตัวตนผ่านความ "ไม่มีแบรนด์" ที่กลับเด่นชัดในความรู้สึก ไม่มีโลโก้ฉูดฉาด ไม่มีโฆษณาจัดจ้าน ไม่มีสีสันดึงดูดสายตา แต่ทุกผลิตภัณฑ์กลับส่งเสียงเงียบๆ ด้วยฟังก์ชันที่ใช้ได้จริง ความเรียบง่ายที่คิดมาแล้ว และวัสดุที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องมีชื่อแบรนด์ใหญ่โต แต่คนก็รู้ทันทีว่า “นี่คือ MUJI”

     ร้านค้า = พื้นที่สะท้อนปรัชญา การเข้าไปในร้าน MUJI ก็เหมือนการเข้าสู่โลกอีกใบ แสงไฟอบอุ่น การจัดวางแบบโล่งโปร่ง กลิ่นอโรม่าอ่อนๆ ทั้งหมดคือการสร้าง “ประสบการณ์แห่งความสงบ” ที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่โหยหาความเรียบง่าย ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย

     “Less is More”: การลดทอนคือจุดแข็ง ปรัชญาหลักของ MUJI คือ “Less is More” ยิ่งน้อย ยิ่งลึกซึ้ง ทุกสินค้าถูกออกแบบมาให้ "พอดี" กับชีวิต ไม่เกินจำเป็น ไม่สร้างภาระทางสายตา แต่กลมกลืนกับทุกสไตล์และพื้นที่

     คุณภาพที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ MUJI ลงลึกถึงรายละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัสดุที่เลือกใช้ การออกแบบเพื่อการใช้งานยาวนาน ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้จากป่าที่ยั่งยืน หรือบรรจุภัณฑ์แบบลดของเสีย สินค้าของ MUJI จึงไม่เพียงดูดี แต่ยังดีต่อใจและโลก

     การออกแบบเพื่อ “ทุกคน ทุกที่” ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษาหอพัก คนทำงานในคอนโด หรือครอบครัวในบ้านเดี่ยว  MUJI ออกแบบสินค้าที่เป็นกลาง เป็นมิตร และเข้ากับทุกบริบทของชีวิต นี่คือแนวคิด Universal Design ที่ไม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสินค้า แต่สินค้าเข้ากับคุณ

     Sustainability ไม่ใช่แค่คำพูด ความยั่งยืนไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่คือหัวใจของแบรนด์ MUJI ตั้งแต่การออกแบบให้ใช้ได้นาน ลดของเสีย ใช้วัสดุรีไซเคิล ไปจนถึงการส่งเสริมการผลิตที่รับผิดชอบ ทั้งหมดนี้หลอมรวมเป็นแบรนด์ที่ไม่เร่งขายของชิ้นต่อไป แต่สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้บริโภค

      MUJI ไม่ได้ขายสินค้า แต่นำเสนอ "วิถีชีวิต" ที่เรียบง่าย มีสติ และยั่งยืน ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงดังและภาพฉูดฉาด MUJI กลับเลือกอยู่เงียบๆ แต่ชัดเจน จนกลายเป็นแบรนด์ที่ผู้คนรักและจดจำไปทั่วโลก

IKEA: ความสุขในราคาจับต้องได้ — สร้างแบรนด์จากประสบการณ์

     ในขณะที่ MUJI เลือกสื่อสารความสงบผ่านความมินิมอล IKEA กลับเลือกสร้าง "พลังบวก" ผ่านความสนุก ความหลากหลาย และราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ นี่คือแบรนด์ที่ทำให้ “การซื้อเฟอร์นิเจอร์” กลายเป็นกิจกรรมที่ทั้งครอบครัวรอคอย ไม่ใช่แค่การช้อปของเข้าบ้าน

     กลยุทธ์หลัก: “Democratic Design” + “Do-It-Yourself” หัวใจสำคัญของ IKEA คือแนวคิด Democratic Design ออกแบบเพื่อทุกคน โดยผสาน 5 องค์ประกอบ ได้แก่ รูปลักษณ์, ฟังก์ชัน, คุณภาพ, ความยั่งยืน และราคาย่อมเยา

     ยิ่งไปกว่านั้น IKEA ปลุกพลัง “DIY” (Do-It-Yourself) ให้กลายเป็นเอกลักษณ์ ลูกค้าต้องประกอบเฟอร์นิเจอร์เอง นี่ไม่ใช่แค่การลดต้นทุน แต่คือการสร้าง “ความผูกพัน” กับสินค้า เมื่อลงแรงประกอบด้วยมือตัวเอง ความรู้สึกเป็นเจ้าของย่อมมากขึ้น IKEA ไม่ได้ขายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป แต่ขายประสบการณ์ ความภูมิใจ และเรื่องเล่าในบ้านของลูกค้า

     Retailtainment: ร้านค้า = สวนสนุกของคนรักบ้าน ร้าน IKEA ไม่ใช่แค่จุดขายสินค้า แต่คือ “เขาวงกตแห่งแรงบันดาลใจ” โชว์รูมขนาดใหญ่ที่จัดวางสินค้าเหมือนบ้านจริง ลูกค้าสามารถทดลองใช้งานได้ทันที ทั้งนั่งบนโซฟา นอนบนเตียง หยิบจับข้าวของได้ตามใจ พร้อมร้านอาหารและโซนสำหรับเด็ก นี่คือการเปลี่ยนการซื้อของให้กลายเป็น “วันแห่งความสนุก” สำหรับทั้งครอบครัว

     การสื่อสารแบรนด์: ชัด เข้าใจง่าย และเป็นกันเอง IKEA เลือกสื่อสารแบบตรงไปตรงมา มีอารมณ์ขัน และใช้ชื่อสินค้าที่แปลกแต่จำง่าย เช่น BILLY, KALLAX, POÄNG ฯลฯ โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก ลูกค้าเข้าใจได้ทันทีว่าสินค้านี้ใช้งานอย่างไร ช่วยชีวิตเขาอย่างไร และ “คุ้ม” แค่ไหน

     ขยายแบรนด์ผ่านนวัตกรรม IKEA ไม่หยุดอยู่แค่เฟอร์นิเจอร์ แต่ต่อยอดไปสู่เทคโนโลยี เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ แอป AR ที่ช่วยจำลองการแต่งห้อง หรือโครงการ Smart Home ต่างๆ ที่สะท้อนความตั้งใจในการยกระดับชีวิตของผู้คนในยุคดิจิทัล

     Sustainability: ความยั่งยืนที่อยู่ในระดับ Mass แม้จะเน้นการผลิตจำนวนมาก แต่ IKEA ก็พยายามสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ทั้งการออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ใช้ได้นาน ใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ และมีระบบบริหารทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ

     จุดแข็งของ IKEA:

          - เข้าถึงง่าย มีทุกอย่างให้เลือก มีประสบการณ์ให้จดจำ

         - และสำคัญที่สุด “ทำให้คนธรรมดาก็แต่งบ้านได้ในแบบที่ตัวเองภูมิใจ”

          - ไม่ว่าจะงบเท่าไหร่ ไลฟ์สไตล์แบบไหน IKEA ก็มีคำตอบ

     MUJI และ IKEA พิสูจน์แล้วว่า “ไม่มีสูตรสำเร็จเดียวในการสร้างแบรนด์” แม้ต่างกันสุดขั้ว แต่ต่างยืนหนึ่งในใจผู้บริโภค เพราะพวกเขา “ชัด” ในตัวเอง และ “มั่น” ในแนวทางของตัวเอง

     สำหรับ SME อาจไม่มีทุนแบบ IKEA หรือปรัชญาแบบ MUJI แต่คุณเริ่มต้นจากสิ่งเดียวกันได้ “ความชัดเจนในตัวตน”เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยของเลียนแบบแบรนด์ที่ “แท้” และ “แน่” เท่านั้น…ที่จะอยู่ได้ยาว

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ถึงเวลาก็ต้อง...ขยับขยาย ส่อง 3 Beauty Blogger แตกไลน์สู่สายธุรกิจ

เหล่า Blogger ยุคเก๋าที่โลดแล่นอยู่ในวงการโซเชียลมาอย่างยาวนาน ต่างเริ่มต้นขยับขยายจากการเป็นแค่อาชีพ Blogger ข้ามสู่เส้นทางธุรกิจ และนี่คือธุรกิจจาก 3 Beauty Blogger ชื่อดัง ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักธุรกิจแบบเต็มตัว

10 เทรนด์ Future Food โอกาสใหม่ธุรกิจไทย

โลกของอาหารกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ความอร่อย หรือแพ็กเกจที่สวยงามอีกต่อไป แต่ผู้บริโภคมองลึกถึง “วัตถุดิบ สุขภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม” และเทรนด์ที่น่าสนใจนี้ เรียกว่า “Future Food” ซึ่งจะมาสร้างโอกาสทองให้ธุรกิจไทย

Ipsos เผยเศรษฐกิจแย่ คนไทยกังวลเรื่องอะไรมากที่สุด? คอร์รัปชัน – การเงิน – ความเหลื่อมล้ำ มาเป็นอันดับต้น

เปิดตัวรายงานชุด "What Worries Thailand H1 2025" เจาะอินไซต์ความกังวลใจสูงสุดของคนไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568