เจาะตลาด Kidult ผู้ใหญ่หัวใจยังเด็ก ลูกค้ากลุ่มเด็ดที่ SME ไม่ควรพลาด!

Text: VaViz


โตขนาดนี้ยังดูการ์ตูนอยู่อีกหรอ?

อยู่ๆ มานั่งเล่นตุ๊กตา เธอโอเคใช่ปะ?

อารมณ์ไหนของเขา? อยากได้ของเล่นยังกับเด็กๆ

     คำถามที่คนทั่วไปอาจสงสัย แต่ไม่ใช่กับ Kidult หรือผู้ใหญ่หัวใจยังเด็ก ซึ่งมีพฤติกรรมชอบทำกิจกรรมหรือมีความชื่นชอบสิ่งที่มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นตุ๊กตา เล่นของเล่น อ่านนิทาน หรือดูการ์ตูนกลับเข้าใจและหลงใหลเข้าอย่างเต็มเปา   

รู้จัก Kidult…เด็กในวันนั้น คือผู้ใหญ่ในวันนี้  

     คงพอจะเดากันได้ใช่ไหมว่า ที่มาของคำว่า Kidult นั้นมาจากคำว่า Kid (เด็ก) + Adult (ผู้ใหญ่) กลายมาเป็นคำศัพท์ให้เราใช้เรียกเด็กหนวดอย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เป็นแค่ศัพท์ที่ถูกหยิบมาพูดถึงกันแบบเก๋ๆ แต่นี่คือกลุ่มลูกค้าที่เรียกได้ว่ามีกำลังซื้อสูงและมาแรงที่สุดกลุ่มหนึ่งในขณะนี้

     โดยทาง ResearchAndMarkets คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดของเล่นโลกจะพุ่งสูงถึง 203.1 พันล้านเหรียญดอลลาร์ในปี 2034 ขยับจาก 114.4 พันล้านเหรียญดอลลาร์ในปี 2024 ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า เบื้องหลังของความเติบโตนี้ต้องมีชาว Kidult เข้ามาเอี่ยวด้วยแน่ๆ

     และนี่คือ 3 เหตุผลหลักที่ช่วยตอบว่า ทำไมคนกลุ่มนี้ถึงขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันและในอนาคต

          - เพราะการเป็นผู้ใหญ่มันช่างยาก เลยขอหวนวันวานถึงตอนเป็นเด็กกันสักหน่อย คือเหตุผลที่ 59% ของชาว Gen Z และ Millennials บอกว่าตัวเองเป็น Kidult ซึ่ง 63% ของคนกลุ่มนี้ยกให้ความคิดถึงสมัยเด็กๆ คือแรงจูงใจที่สำคัญ

          - เครื่องฮีลใจชั้นดี จะมีอะไรดีกว่าการได้อยู่ในพื้นที่ของตัวเองแบบชิลๆ ยืนยันได้จาก 38% ของผู้ใหญ่อายุ 25 - 40 ปี ที่ซื้อของเล่น เพื่อลดความวิตกกังวลหรือตัดขาดจากโลกดิจิทัลโดยเฉพาะ

          - นี่ไม่ใช่ของเล่น แต่มันคือการลงทุน! ไม่ต่างจากกระเป๋าแบรนด์เนมหรือไอเทมลักซูต่างๆ ของเล่น ตุ๊กตา หรือสิ่งของในวันวานหรือที่คุมธีม Kidult นั้น กลายเป็นอีกสิ่งที่คนชอบซื้อเก็บเป็นของสะสมเพราะรัก หรือสะสมไว้เพื่อเอาไปขายต่อให้ได้ราคา ยิ่งเฉพาะขายให้เหล่าแฟนพันธุ์แท้ของสิ่งนั้น ยิ่งได้ราคาสูง  

5 กลยุทธ์เปลี่ยนคนตัวโตหัวใจเด็ก...เป็นลูกค้า

     ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายต่อหลายแบรนด์หันมาวางกลยุทธ์และทำแคมเปญการตลาด เพื่อดึงดูดลูกค้าชาว Kidult โดยเฉพาะ

     แล้วถ้า SME อยากร่วมแจมกับเขาบ้าง ต้องทำยังไง?

          1. หยิบ Nostalgia Marketing หรือการตลาดย้อนวัยมาเล่น เพราะคนกลุ่มนี้มีที่ว่างเพื่อย้อนคิดถึงอดีตอยู่เสมอ ดังนั้น สินค้าหรือบริการใดที่เชื่อมโยงไปกับความทรงจำในวัยเด็กได้ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมโยงและมีความผูกพันกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้มากขึ้น เช่น ทำโปรดักต์ที่มีกลิ่นอายของยุค 80s หรือ 90s เช่น KFC ที่นำเอาเพลงฮิตตลอดกาลของคนไทยอย่าง “ผ้าเช็ดหน้า” มารีมิกซ์ใหม่ เพื่อสร้างสีสันให้กับแคมเปญโปรโมทเมนูไก่ใจเด็ด พร้อมทำผ้าเช็ดหน้าลายพิเศษสุด Exclusive! ขึ้นมา

          2. เพิ่มการ Collab แบบ X Limited Edition กลยุทธ์ถัดมาคือการไปร่วมมือกับแบรนด์ดังในตำนานหรืออินฟลูเอนเซอร์ในอดีต เพื่อทำคอลเล็กชั่นพิเศษ หรือ Limited Edition ซึ่งสามารถช่วยสร้างความตื่นเต้น เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน พร้อมดึงดูดความสนใจให้กับ SME ได้ เช่น ทิวลิป แบรนด์ผงโกโก้ที่เป็นขวัญใจคนทำคาเฟ่และร้านเบเกอรี่มาอย่างยาวนาน เลือกหยิบลายเส้นสุดคลาสสิกจาก “ขายหัวเราะ” หนังสือการ์ตูนในวัยเด็กมาทำเป็นแพ็กเกจจิ้ง ที่มีให้สะสมถึง 4 ลาย  

          3. ใช้ความ Cute ปั้นคาแรกเตอร์ แน่นอนว่าจะตกลูกค้า Kidult ได้ ต้องไม่ลืมใช้ความน่ารักให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะการนำมาสร้างคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูน โลโก้ หรือแม้กระทั่ง Mascot และ Art Toy ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อช่วยให้คนจดจำแบรนด์ได้ง่าย และสร้างให้เกิดมัมหมี-พ่อหมี (แม่ยก-พ่อยก) ให้กับแบรนด์ได้ เหมือนที่เราเห็นจากปรากฏการณ์ความฟีเว่อร์ของน้องหมีเนยนั่นเอง

          4. ผสมดีไซน์และความผ่อนคลายให้ลงตัว นอกจากความน่ารักแล้ว เรื่องของดีไซน์ที่สวยงาม น่าซื้อ น่าสะสม ยังเป็นอีกแรงจูงใจที่จะดึงดูดชาว Kidult ได้ ที่สำคัญ ของสิ่งนั้นต้องทำให้ผู้ใช้รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกโมเดลและฟิกเกอร์จะเป็นของเล่นของสะสมยอดนิยมของ Kidult รวมถึงตัวต่อ LEGO เพราะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ลดความเครียด พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา และสร้างความสุขและความภาคภูมิใจได้เมื่อต่อสำเร็จ   

           5. มอบประสบการณ์สุดล้ำ ไม่ซ้ำใคร สุดท้าย สิ่งที่ Kidult อยากได้หนีไม่พ้นประสบการณ์แปลกใหม่ ที่แบรนด์ควรตอบโจทย์ให้ได้ เพื่อสนองความต้องการของทั้งความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ไปพร้อมๆ กัน เช่น การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงอย่าง AR / VR และ AI เพิ่มความสนุกให้กับการเล่นเกมหรือใช้ผลิตภัณฑ์ หรือมอบความสนุกสนานให้ในระหว่างการซื้อ อย่างแบรนด์ตุ๊กตา Jellycat ที่เปิดร้านขนมและอาหารแบบเสมือนขึ้นมา โดยหลังจากที่ลูกค้าซื้อตุ๊กตาแล้ว พนักงานจะแสดงบทบาทเหมือนกำลังปรุงอาหารหรือเตรียมขนมนั้นอยู่ เช่น ทำท่าทางย่างตุ๊กตาเบอร์เกอร์ ทอดตุ๊กตาแพนเค้ก หรือบีบมะนาวใส่ตุ๊กตาปลาชุบแป้งทอด จนกลายเป็นไวรัล    

     รู้แบบนี้แล้ว SME ไหนที่กำลังมองหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตลาดใหม่ ลองนำชาว Kidult “ถึงตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่มีหัวใจที่ยังเด็ก” ไปพิจารณาดู แล้วอาจจะได้เจอลูกค้าที่ใช่ของแบรนด์ที่ซ่อนอยู่ก็เป็นได้  

     ที่มาสถิติ: GlobeNewswire, Storefox.ai     

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ตลาดกาแฟไทยทะยาน  คนไทยดื่ม 340 แก้ว/ปี  ดันธุรกิจหมื่นล้านโตสวนเศรษฐกิจ

ในวันที่หลายธุรกิจยังต้องตั้งรับกับแรงกดดันจากเศรษฐกิจผันผวน แต่ธุรกิจกาแฟยังคงขยายตัวต่อเนื่อง คนไทยมีการบริโภคกาแฟเฉลี่ยสูงถึง 340 แก้วต่อคนต่อปี ตลาดกาแฟในประเทศมีมูลค่า 65,000 ล้านบาท รายได้ของร้านกาแฟมาจากเดลิเวอรีมากถึง 22%

สติ๊กเกอร์ยายคุยกับหลาน ไอเดียตกลูกค้าคาเฟ่ ผ่านบนสนทนาการ์ตูน 3 ช่อง

GIMBOCHA” หรือ “ร้านชาคุณยาย”ที่คิดไอเดียสร้างบทสนทนากับลูกค้าแบบน่ารักๆ ขึ้นมา ผ่านสติ๊กเกอร์การ์ตูน 3 ช่อง แปะลงบนแก้วเครื่องดื่มของลูกค้า

จากร้านธรรมดาสู่แบรนด์ขวัญใจลูกค้า บทเรียนจากผู้ประกอบการที่พลิกเกมด้วย CRM

พบกับ 3 เรื่องราวจากร้านที่เริ่มต้นจากร้านธรรมดา แต่เติบโตเป็นแบรนด์ที่ลูกค้า “เลือกกลับมา” ด้วยพลังของ CRM