นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แผนส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าไทยในปี 2557 กรมฯ จะสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าไทยเป็นรายกลุ่มสินค้า โดยจะทำการโปรโมตผ่านนิตยสาร แมกกาซีน โทรทัศน์ บิลบอร์ด ในประเทศเป้าหมาย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จัก และสร้างการยอมรับต่อสินค้าไทยและประเทศไทย ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยมีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น และทำให้ภาพลักษณ์สินค้าไทยดีขึ้นในสายตาต่างประเทศ ได้ขอให้ทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศไปดูว่าประเทศที่ประจำอยู่ สินค้าไทยอะไร มีขีดความสามารถในการบุกเจาะตลาด ก็จะเข้าไปพีอาร์สินค้าไทยชนิดนั้นๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และโปรโมตผ่านสื่อเฉพาะของสินค้านั้นๆ อย่างเช่น อาหาร ก็จะเน้นหนังสือ นิตยสาร หรือรายการที่เกี่ยวกับอาหาร อัญมณี สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ ก็จะใช้หลักการเดียวกันนี้ในการโปรโมต นางนันทวัลย์กล่าว
อุตสาหกรรมการพิมพ์สดใส โตสวนกระแสเศรษฐกิจ ปี 2557 ดันผู้ประกอบการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เล็งตลาดเออีซี
ดีเอชแอลเดินหน้าพัฒนากระบวนการลอจิสติกส์ให้คล่องตัว และสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น รองรับธุรกิจเอสเอ็มอีไทย มอบส่วนลดค่าบริการ 30% และเปิดรับชำระค่าบริการออนไลน์ ผ่านบัตรเครดิตบนพอร์ทัล MyDHL
เอไอเอส 3G 2100 เอาใจลูกค้า SME ด้วยแพ็กเกจสุดประหยัด SME Smart Buffet จัดเต็ม ทั้งโทรไม่อั้นทุกเครือข่ายและเล่นเน็ตได้ไม่อั้น
เวิลด์แบงก์จัดไทยอยู่อันดับ 18 ของโลก จากทั้งหมด 189 ประเทศที่มีความสะดวกน่าเข้าลงทุน
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังอาเซียนเปิดการค้าเสรีอย่างเต็มรูปแบบ อาจทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หันไปนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศอื่นๆ ในอาเซียน แทนการนำเข้าจากไทย หรือใช้ไทยเป็นฐานผลิต เพราะการค้าเสรีจะทำให้อาเซียนเป็นเหมือนฐานการผลิตเดียวกัน หากผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไม่มีการปรับตัว ทั้งเรื่องเทคโนโลยี และการลดต้นทุนการใช้แรงงานเพื่อให้แข่งขันได้ อาจทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากการเปิดอาเซียนได้ โดยผู้ประกอบการกลุ่มชิ้นส่วนรายย่อยมีจำนวน 1,700 ราย รายกลาง 500 ราย ที่เหลือเป็นรายใหญ่ที่ไม่ค่อยน่าเป็นห่วง
นายปัณณพงศ์ อิทธิ์อรรถนนท์ กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง คณะกรรมการค่าจ้างกลาง (บอร์ดค่าจ้าง) กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการค่าจ้างว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีลูกจ้างบางกลุ่มเสนอให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นมาก ที่ประชุมเห็นว่าการปรับค่าจ้างให้สูงขึ้นอาจไม่เป็นประโยชน์ หากไม่สามารถคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการครองชีพได้ ซึ่งสถานประกอบการส่วนใหญ่ต่างคงอยู่ได้ แต่หากมีการปรับขึ้นค่าจ้างอีกก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ จึงอยากให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ 300 บาทไปอีกประมาณ 2 ปี ซึ่งเป็นไปตามมติบอร์ดค่าจ้างก่อนหน้านี้ ที่ให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทไปจนถึงปี พ.ศ.2558 หากไม่มีปัจจัยความผันผวนด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยและทั่วโลก หลังจากนั้นใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทเป็นฐาน โดยใช้การปรับค่าจ้างเป็นอัตราลอยตัว ที่เป็นราคาค่าจ้างที่ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างนายจ้าง ซึ่งค่าจ้างไม่จำเป็นต้องเป็นอัตราเดียวทั่วประเทศ หรือส่งเสริมให้มีเรื่องโครงสร้างค่าจ้างในสถานประกอบการที่กำหนดให้สถานประกอบการที่ลูกจ้า
นางสาวนพพร ลิ้นทอง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาการประกอบธุรกิจร้านค้าถูกใจว่าจะพัฒนาอย่างไร เพื่อให้การทำธุรกิจยั่งยืนและอยู่รอดได้หลังเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 58 โดยจะคัดเลือกร้านถูกใจ 50 ร้านค้า จากจำนวน 6,000 ร้านค้า เป็นต้นแบบการพัฒนา(โมเดล) เพื่อให้เป็นร้านค้าที่ยั่งยืน ซึ่งจะเริ่มโครงการพัฒนาตั้งแต่เดือน ม.ค. 57 และภายในเดือน ส.ค. 57 จะสามารถผลักดันให้ร้านค้าถูกใจทั้ง 6,000 ร้านได้รับการพัฒนาจนแข่งขันได้
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ขอเชิญผู้ประกอบการ SMEs และผู้สนใจ ร่วมงานสัมมนา รู้ก่อน รวยกว่า เพิ่มมูลค่าธุรกิจ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี