กสอ. จับมือ 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำ สร้างสรรค์งานวิจัย ต่อยอดนวัตกรรม

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จับมือ 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้ เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัย เพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN) หวังต่อยอดงานวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย เพิ่มขีดความสาม..




กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จับมือ 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้ เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัย เพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN) หวังต่อยอดงานวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันสู่สากล
 

กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจจากภาคการผลิตที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency – driven economy) แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาว ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้เกิดความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจได้ เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจับคู่และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรมระหว่างผู้มีเทคโนโลยี (Technology Provider) อาทิ สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย นักวิจัย ผู้ถือครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และผู้ต้องการใช้เทคโนโลยี (Technology Seeker) อาทิ ผู้ประกอบการเอกชน บุคคลทั่วไป
 

ดังนั้น กสอ. จึงได้ร่วมกับ 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้ชื่อ ‘เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN)’ โดยจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ขยายผลการศึกษาวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์
 

ขณะเดียวกันยังจัดให้มีกิจกรรมการนำเสนอผลงานวิจัย (Inno Matching) ใน 6 สาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย สาขาเกษตรและอาหารแปรรูป สาขาการแพทย์และสุขภาพ สาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อม สาขาซอฟแวร์และดิจิตอล สาขายานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และสาขาเทคโนโลยีโลจิสติกส์ ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงพัฒนาแนวความคิด ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมนั่นเอง
 

“ผมเชื่อว่าการนำเสนอผลงานวิจัยจะทำให้เกิดการจับคู่งานวิจัยระหว่างผู้ต้องการใช้เทคโนโลยีและผู้มีเทคโนโลยี จนนำไปสู่การการเจรจา การตกลงอนุญาตให้เป็นเจ้าของงานวิจัย การลงทุนร่วมกัน ตลอดจนการซื้อขายไอเดีย เทคโนโลยี หรือ สิทธิบัตร นอกจากนี้การทำ MOU ร่วมกับ 8 มหาวิทยาลัยในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของงานวิจัยและนวัตกรรมที่จะส่งผลดีต่อระบบอุตสาหกรรมไทยในอนาคต” กอบชัย กล่าวทิ้งท้าย



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

NEWS & TRENDS