สศอ.เร่งพัฒนา Big Data วางรากฐานแผนพัฒนาอุตสาหกรรมไทย




     สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เร่งพัฒนาระบบข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับใช้กำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเพื่อสร้างความเข็มแข็งให้กับประเทศไทย เตรียมนำเสนอแผนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมภายในเดือนมิถุนายน

     นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เผยว่า สศอ.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้เร่งจัดทำแผน Big Data for Foresight เพื่อรวมรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับนำมาใช้ประกอบการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศไทย โดยมีการหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดทำระบบข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ภาพอุตสาหกรรมอนาคต (Industrial Foresight) เพื่อนำไปใช้ประกอบในการจัดทำแผนฯ  

     ทั้งนี้ สศอ.ได้เตรียมนำเสนอแผนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมภายในเดือนมิถุนายน โดยแผนการพัฒนาระบบ Big Data ได้แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ บุคลากร ข้อมูล และแบบจำลองอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

     1.บุคลากร จำเป็นต้องเร่งผลิตนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ซึ่งมีหน้าที่ค้นหาข้อมูลเชิงลึกและเป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญ โดยในระยะสั้นจำเป็นต้องจัดหาผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาเป็นหัวหน้าทีมการทำ Big Data for foresight รวมถึงการพัฒนาระยะกลางที่ต้องฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการและฝึกปฏิบัติจริงในการทำงานของบุคลากรภายในสศอ. เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบ Big Data ที่ทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล นอกจากนี้ จำเป็นต้องจัดหาและพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง ได้แก่ นักวิเคราะห์ (Business Analyst) นักพัฒนาระบบ (Developer) และวิศวกรข้อมูล (Data Engineer) 

     2.ข้อมูล เป็นส่วนสำคัญสำหรับการวางภาพอนาคตของอุตสาหกรรม โดยจำเป็นต้องพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลสถานการณ์และแนวโน้มทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ข้อมูลทางด้านสังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง (STEEP) ขีดความสามารถทางการแข่งขันของแต่ละประเทศ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรม แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาของไทยและประเทศที่สำคัญ จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการประเมินภาพเหตุการณ์จำลองอนาคตที่เป็นไปได้สำหรับภาคอุตสาหกรรม  

     3.แบบจำลองอุตสาหกรรม เป็นการพัฒนาขึ้นมาจากระบบ Big Data เพื่อสร้างแบบจำลองที่สามารถใช้ในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม โดยถูกออกแบบให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างและประเมินยุทธศาสตร์หรือนโยบายของรัฐบาลที่มีผลต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม โดยใช้แบบจำลอง (Model Simulation) ที่สร้างขึ้นจากข้อมูลจำนวนมหาศาล รวมทั้งนำองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) และการเรียนรู้จากเครื่อง (Machine Learning) เพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์ (Data Analyst) ในการพยากรณ์สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาระบบวิเคราะห์ (Data Analyst) และแบบจำลอง Data Model ให้เหมาะสมกับประเภทข้อมูล เพื่อสร้างแบบจำลองโดยการหาอัลกอริทึม (Algorithm) ที่เหมาะสมกับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์โลก

     นายศิริรุจ กล่าวว่า การพัฒนาระบบ Big Data จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการวิเคราะห์ภาพอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Industrial  Foresight) โดยจะเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภายในกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานกระทรวงอื่นๆ และหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อสร้างแบบจำลองที่ให้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสำหรับการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และนำไปสู่การกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศไทย


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: TECH

“จุลินทรีย์คึกคัก” นวัตกรรมกำจัดสารเคมีตกค้างบนดิน ตัวช่วยเกษตรกรประหยัดทุน ได้ธุรกิจยั่งยืน

จุลินทรีย์คึกคัก ตัวช่วยแก้ปัญหาสารเคมีตกค้าง สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ด้วยฝีมือคนไทยจากบริษัท ไบโอม จำกัด บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงตอบโจทย์การทำธุรกิจแบบยั่งยืน

เทคนิคขายของออนไลน์อย่างไร ให้สต็อกไม่จม ออร์เดอร์ไม่หลุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วง Double day หรือเทศกาลต่างๆ เป็นโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ตักตวงออร์เดอร์มากกว่าช่วงเวลาปกติ แต่จะทำอย่างไรให้โอกาสเหล่านี้ไม่กลายเป็นวิกฤตสร้างปัญหาทางธุรกิจ เช่น สต็อกจม ส่งของไม่ทัน ทำให้สูญเสียลูกค้าในที่สุด

รู้จักเทรนด์ Hyper Automation ช่วย SME กำจัดงานซ้ำๆ น่าเบื่อให้หมดจากองค์กร

Automation หรือ "ระบบอัตโนมัติ" ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่อนาคตจะพัฒนาไปสู่ Hyper automation เพื่อช่วยกำจัดความยุ่งยากของการทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ และก่อนจะสายเกินไป เพื่อให้ธุรกิจตามทันเทคโนโลยี ลองมาทำความรู้จักกับเทรนด์นี้พร้อมกัน