รับเทรนด์ภาษีความเค็ม ไอเดียเครื่องครัวอัจฉริยะ ทำให้อาหารรสเค็มขึ้น 1.5 เท่า

 

     เกลือหรือน้ำปลาทำให้อาหารมีรสชาติดีขึ้นมาก แต่ถ้าหากบริโภคมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น ความดันโลหิตสูง เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ องค์การอนามัยโลก WHO กำหนดให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก./วัน หรือเทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา

     ล่าสุดในช่วงปลายปี 2564 เราก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวจากภาครัฐที่เตรียมเก็บภาษีความเค็มจากกลุ่มอาหารโซเดียมสูงเพื่อให้คนไทยลดการบริโภคอาหารรสเค็มลง

     เพื่อช่วยให้คนทานเค็มลดลงที่ผ่านมาได้มีนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาตะเกียบไฟฟ้าที่ช่วยให้อาหารเค็มขึ้นกันมาบ้างแล้ว วันนี้พวกเขาก็ยังไม่หยุดพัฒนาจนได้ทำ ช้อน ชามไฟฟ้า ทำให้อาหารรสเค็มขึ้น 1.5 เท่าตอบโจทย์คนรักสุขภาพเป็นอย่างมาก

     อย่ารอช้าดีกว่า ไปดูว่าช้อน ชามไฟฟ้า จะดีกว่า ตะเกียบไฟฟ้า หรือไม่ ตามมาดูกันเลย

     จากงานวิจัย Estimated dietary sodium intake in Thailand: A nation‐wide population survey with 24‐hour urine collections ที่ได้ร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า คนไทยบริโภคโซเดียม “เกลือ” เฉลี่ยสูงที่สุดดังนี้ 

  1. ภาคใต้
  2. ภาคกลาง
  3. ภาคเหนือ
  4. กรุงเทพมหานคร
  5. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

     จากการศึกษาโดยการเก็บข้อมูลการบริโภคโซเดียมในประชากรไทยทั่วประเทศ ด้วยวิธีการตรวจเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ทำให้พบว่า การบริโภคโซเดียมเฉลี่ยประชาชนไทยเท่ากับ 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือถึง 1.8 ช้อนชา

ข้อเสียของการบริโภคโซเดียมมากเกินไป

     การบริโภคโซเดียม ปริมาณมาก ในการปรุงรสชาติอาหารให้มีรสเค็ม เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

     ปัจจุบันคนไทยมีพฤติกรรมการบริโภคโซเดียม สูง 2-3 เท่า ของปริมาณที่ร่างกายต้องการ ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง มีผลเสียทำให้ความดันโลหิตสูง เพิ่ม การรั่วของโปรตีนในปัสสาวะ และยังมีผลเสียต่อไตโดยตรง นอกจากนี้ยังทำให้หัวใจทำงานหนัก ก่อให้เกิดภาวะหัวใจวาย และความดันโลหิตสูงยังส่งผลให้ความดันในสมองเพิ่มขึ้น มีโอกาสเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

ช้อน ชามไฟฟ้า ดีกว่า ตะเกียบไฟฟ้า อย่างไร

     นักวิจัยชาวญี่ปุ่นได้สร้างเครื่องครัวอัจฉริยะที่ใช้ไฟฟ้าเพื่อทำให้อาหารมีความเค็มและรสชาติดีขึ้นโดยไม่ต้องเติมเกลือเพิ่ม เพราะว่าเกลือทำให้อาหารมีรสชาติดีขึ้น แต่ก็เป็นส่วนประกอบที่อันตรายมากเช่นกัน ซึ่งหากบริโภคมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้อย่างข้างต้นที่เราได้พูดไปแล้ว

     นั่นคือ สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเมจิและนักพัฒนา Kirin Holdings ได้ดำเนินการมาหลายปีแล้ว ย้อนกลับไปในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พวกเขาได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ “ตะเกียบไฟ้ฟ้าอัจฉริยะ” ที่ช่วยเพิ่มความเค็มให้กับอาหารได้ แต่ปัญหาใหญ่ที่เจอกับตะเกียบไฟฟ้าอัจฉริยะนั้นก็คือ เนื่องจากพื้นผิวของตะเกียบที่มีจำกัด ทำให้ต้องเชื่อมต่อแหล่งพลังงานที่ปลายแขนของลูกค้า อาจทำให้ลูกค้าใช้งานได้ไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ช้อน ชามไฟฟ้าอัจฉริยะที่ได้คิดค้นขึ้นมาใหม่นี้ไม่มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น และพร้อมจะวางขายในเชิงพาณิชย์แล้วด้วย (อ่านเรื่อง ตะเกียบไฟ้ฟ้าอัจฉริยะ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/tech/8017.html)

     ซึ่งช้อนและชามอัจฉริยะรุ่นใหม่นี้มีชื่อว่า Erekisoruto มีแบตเตอรี่ในตัว ซึ่งทำให้อาหารมีรสเค็มขึ้น 1.5 เท่า ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารรสเค็ม แต่อยากลดการทานเค็ม และนี่ก็ยังเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจร้านอาหารอีกด้วย ถ้าใครได้เอามาใช้เป็นเจ้าแรกๆ ต้องดึงดูดลูกค้าเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ใครๆ ก็อยากเข้ามาลองทานร้านของคุณ และช้อน ชาม ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่นี้พร้อมจำหน่ายและคาดว่าจะออกสู่ตลาดญี่ปุ่นในต้นปีหน้า

    ทั้งนี้น่าจะเป็นจังหวะดีเพราะการตั้งเป้าลดปริมาณโซเดียมในอาหารไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นวาระระดับโลก หลายประเทศได้วางเป้าหมายการลดเกลือในอาหารแปรรูปทั่วไป ขณะที่องค์การอนามัยโลกก็ได้เปิดตัวมาตรฐานการใช้โซเดียมระดับโลก หรือ WHO’s New Global Sodium Reduction Benchmarks ที่จะช่วยให้ประเทศต่างๆ ลดปริมาณโซเดียม โดยตั้งเป้าให้ลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2568

     นี่อาจเป็นเทรนด์สินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและกระแสสุขภาพ

ที่มา: https://www.lowsaltthai.com/

https://shorturl.asia/1fVJg

https://www.sdgmove.com/2021/02/25/thailand-high-sodium-intake-salts/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: TECH

นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยังจำเป็นไหม? เมื่อ SAPPORO ใช้ AI คิดสูตรเครื่องดื่มเร็วกว่าคน 3 เท่า!

SAPPORO บริษัทเครื่องดื่มเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1876 มีอายุราว 147 ปี ซึ่งเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องเบียร์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มคอกเทลที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยเป้าหมายหลักของ SAPPORO คือ ต้องการเร่งกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จึงร่วมมือกับ IBM Japan ในการใช้ AI พัฒนาสูตรเครื่องดื่ม AI กับมนุษย์ใครจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เร็วกว่ากัน ตามมาดูกันเลย

Fufuly หมอนฮีลใจ โอกาสธุรกิจยุคที่คนเป็นโรคเครียด

สังคมในปัจจุบันบีบบังคับให้ผู้คนกดดันจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว ทำให้มีคนจำนวน 301 ล้านคน เป็นโรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) และนี่เป็นโอกาสของธุรกิจที่น่าจับตามอง วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จัก “Fufuly หมอนฮีลใจ ช่วยผ่อนคลายความเครียด จากที่ทำงาน”

เครื่องสแกนความสดผัก ผลไม้ ลดของเสีย ยืดอายุการขาย เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

หนึ่งในปัญหาสำคัญของผู้จำหน่ายสินค้าผัก ผลไม้ ก็คือ การไม่รู้อายุที่แน่นอนของสินค้า จึงทำให้ไม่สามารถวางแผนการเก็บรักษาและจำหน่ายที่แม่นยำได้ จะดีกว่าไหมถ้ามีเครื่องสแกนบอกอายุผัก ผลไม้ได้