โอกาส SME อยากได้ทุนทำตลาดต่างประเทศ พาณิชย์ เปิดให้ยื่นของบหนุนถึง 20 ม.ค.

​TEXT : กองบรรณาธิการ

 

     เวทีงานแสดงสินค้าในต่างประเทศอาจเป็นอีกหนึ่งโอกาสของการทำตลาดที่กว้างขึ้นและโตขึ้น แต่ทว่าก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน  เหตุนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้อนุมัติการช่วยเหลือในการเข้าร่วมกิจกรรมขยายตลาดให้ผู้ประกอบการกว่า 100 ราย จำนวน 50 กิจกรรมทั่วโลก พร้อมเปิดรับสมัครผู้ประกอบการที่จะขอรับการสนับสนุนรอบใหม่ถึง 20 มกราคมนี้ 

     มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) และผู้ประกอบการขนาดจิ๋ว (Micro SMEs) โดยตั้งเป้าเพิ่มการสนับสนุนผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ 10-15% ให้สามารถบุกตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น และให้ดำเนินการต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 ในทุก ๆ กิจกรรมที่มีการดำเนินการ

     ทั้งนี้ได้รับรายงานความคืบหน้าจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศว่า ในเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา คณะกรรมการโครงการ SMEs Pro-active ได้มีมติอนุมัติการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และ Micro SMEs กว่า 100 ราย เข้าร่วม 50 กิจกรรมขยายตลาดในต่างประเทศทั่วโลก

     โดยกิจกรรมที่จะสนับสนุน ครอบคลุมทั้งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า บริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) กิจกรรมสร้างโอกาสทางการค้าและเครือข่ายทางธุรกิจในต่างประเทศ (Business Opportunities & Partnership : BOP) และงานแสดงสินค้า บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) โดยประเภทสินค้าที่ได้รับการอนุมัติมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าอาหาร โดยเป็นกิจกรรมในภูมิภาคอาเซียนมากที่สุด รองลงมาเป็นภูมิภาคเอเชียตะวันออก 

     ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับงานแสดงสินค้า บริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) ที่ได้อนุมัติช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการเข้าร่วม เช่น 1. AMBIENTE, FRANKFURT ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนและสินค้ากลุ่ม LIFESTYLE ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2. ALIMENTARIA, BARCELONA ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มระหว่างประเทศที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป 3. FOOD & HOTEL ASIA (FOOD & BEVERAGE) ณ ประเทศสิงคโปร์ เป็นงานแสดงสินค้าอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่ม สินค้าเกี่ยวกับโรงแรม และบริการด้านอาหาร ซึ่งงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการ

     ส่วนงานแสดงสินค้า บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ หรือ Virtual Exhibition ที่ได้รับการอนุมัติ เช่น  HKTDC.COM SOURCING แพลตฟอร์มของผู้จัดงานแสดงสินค้าที่รวบรวมสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อเชื่อมต่อบริษัทของผู้ผลิตสินค้ากับคู่ค้าจากทั่วโลก และช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงธุรกิจ รวมถึงเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ กระตุ้นยอดขาย และการจับคู่ทางธุรกิจ

     “ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งทบกระทบโดยตรงต่อการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ กรมฯ จึงได้เห็นชอบการขยายระยะเวลาในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่ขอรับการสนับสนุนกิจกรรมภายใต้โครงการ SMEs Pro-active ถึงเดือนมิถุนายน 2565 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถยกเลิกการเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียสิทธิ์ หรือเข้าร่วมงานโดยใช้เอเจนต์ ล่าม หรือผู้แทน เป็นผู้เข้าร่วมงานได้” นายภูสิตกล่าว

     สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) โดยโครงการสนับสนุนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า บริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) วงเงินสนับสนุนสูงสุด 200,000 บาท จำนวน 6 ครั้ง กิจกรรมสร้างโอกาสทางการค้าและเครือข่ายธุรกิจในต่างประเทศ วงเงินสนับสนุนสูงสุด 200,000 บาท จำนวน 6 ครั้ง และงานแสดงสินค้า บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) วงเงินสนับสนุนสูงสุด 50,000 บาท จำนวน 6 ครั้ง โดยการสมัครรอบที่ 1/2565 จะปิดรับสมัครในวันที่ 20 ม.ค.2565 สามารถขอรับการสนับสนุนงานที่จัดขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ย.2565

     รายละเอียดเพิ่มเติม https://smesproactive.ditp.go.th/ โทรศัพท์ 0-2507-7783 หรือ 0-2507-7786

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

2 คำที่ทายาทต้องเข้าใจก่อนทุกอย่างพัง ศิลปะการสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้รอด จากเจ้าของเพจ ‘ทำที่บ้าน’

กวาง–เสสินัน นิ่มสุวรรณ์ ทายาทธุรกิจปั๊มน้ำมันในลพบุรี และเจ้าของเพจ “ทำที่บ้าน” มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน หลังสัมภาษณ์ทายาทกว่า 100 ครอบครัว พบว่าทายาททุกคนต้องเจอกับ “สามก้อนปัญหาใหญ่” ที่ไม่มีสูตรสำเร็จใดแก้ได้

ทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารบริษัทระดับโลก มาปั้นแบรนด์บะหมี่ขาย เดือนละ 60 ตู้คอนเทนเนอร์!

ได้ขึ้นแท่นตำแหน่งสูง งานดี เงินดี น้อยคนนักที่จะคิดอยากลงมาเริ่มต้นใหม่ แต่อาจไม่ใช่กับ ยัง ชาง หนุ่มไต้หวันที่ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง เพื่อออกมาเป็นผู้ประกอบการปั้นแบรนด์บะหมี่ของตัวเองขาย

ส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น “ไชยแสง” โมเดิร์นเทรดตำนานเมืองสิงห์ ทำอย่างไรจึงยืนหยัดนานกว่า 30 ปี

เมื่อทายาทรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจการ ไม่ได้เพียงรับช่วงต่อ แต่ยังรับเอาหัวใจของธุรกิจ คือความเข้าใจผู้คนในท้องถิ่น และกล้าที่จะปรับเปลี่ยน จึงทำให้ธุรกิจไม่เพียงอยู่รอด แต่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “ห้างไชยแสง” สิงห์บุรี