Web 3.0 กับโลกธุรกิจ จำเป็นมากน้อยแค่ไหนกับ SME ยุคใหม่

 

     โลกธุรกิจในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจริงๆ SME อย่างพวกเราก็ต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีการพัฒนากันอยู่ตลอด และสิ่งหนึ่งที่แถบจะเกิดมาพร้อมกับ Internet เลยก็คือ Website โดยในปัจจุบันนั้นได้มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางกับ Web 3.0 คำถามแรกเลยที่ผุดมาในหัวคือ Web 3.0 คืออะไร แล้ว Web 1.0 Web 2.0 ละ เราสามารถใช้ประโยชน์อะไรจาก Web 3.0 ได้บ้าง

     วันนี้จึงขอหยิบยกประเด็นเรื่องราวของ Web 3.0 มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันครับ ว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร มีความท้าทายใดต่อ SME บ้าง

     Web 1.0 อยู่ในยุคของ Internet เริ่มต้น เป็นการสื่อสารทางเดียว / Read Only ใช้ระยะเวลาในยุคนี้หลายสิบปี แต่คุณค่าอยู่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายความรู้ Value of Information เปรียบดั่งการสร้างแท่นพิมพ์ของ Gutenberg ที่ทำให้มีหนังสือเกิดขึ้นในโลก ผู้สร้าง Content คือเจ้าของ Website และรับรายได้จากการขายพื้นที่โฆษณา

     Web 2.0 อยู่ในยุคของ Social Media เป็นการสื่อสารสองทาง โต้ตอบกันได้ ทุกคนมีเสียงของตัวเอง Consumer สามารถเป็น Prosumer ได้ เพราะผู้ใช้งานก็สามารถสร้าง Content ได้ เป็นยุคของ Customer Centric ใช้ระยะเวลาในยุคนี้ประมาณ 10 - 12 ปี และเป็นยุคของ Platform คนกลาง เช่น Facebook, IG, Tiktok, LINE เกิดการเก็บข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ แล้วนำข้อมูลไปทำกำไรได้ มีมูลค่ามหาศาล

     Web 3.0 ในปัจจุบันพึ่งจะเป็นยุคเริ่มต้น คุณค่าอยู่ที่ทุกคนเป็นผู้สร้างและผู้รับด้วยตนเองได้ เช่น Play to Earn, Learn to Earn โดยที่จุดเริ่มต้นเกิดจากเทคโนโลยี Blockchain: ที่เป็น The Next Station of Internet จากข้อดีหลัก 3 ข้อ คือ

      1. Storing Information เก็บรักษาข้อมูลได้อย่างดี

      2. Security มีความปลอดภัยสูง

      3. Allowing anyone to audit it ทุกคนตรวจสอบได้

ทำให้ Tim Burner Lee ได้นำมาต่อยอดโดยที่ Web 3 จะมีหลักการสำคัญ ดังนี้

  • Decentralize ไม่มีคนกลางมาควบคุม
  • Bottom up design มีคอมมูนิตี้ที่แลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆ กัน เช่น Github
  • มี Consensus หรือฉันทามติ เห็นพ้องต้องกันได้ โปร่งใสตรวจสอบได้

 

แต่ Web 3 ก็มีอุปสรรคสำคัญในการที่เกิดขึ้นมาเช่นกัน คือ

  • การ Scale ของระบบช้ากว่าแบบใช้ Server
  • ต้องรอให้ Browser เกิดขึ้นมาอีก
  • การสร้าง DApp (Decentralize Application) ใช้เงินลงทุนสูง

 

     ดังนั้นตอนนี้ Web 3 ก็ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ซึ่งก็อาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ เพียงแต่เป็นยุคสมัยที่จุดเปลี่ยนอยู่ ณ ปัจจุบันนี้

“The Future is Now”

     โดยที่ Web 3 ก็มีข้อดีต่อผู้ใช้งานเช่นกัน คือ มีสิทธิในการเลือกการมองเห็นโฆษณาได้ Ad Block หรืออาจจะได้รับประโยชน์จากการดูโฆษณาก็ได้ เช่น Play to Earn, Click to Earn ซึ่งก็กลายเป็นความท้าทายให้กับเจ้าของธุรกิจ SME ต่อการทำแคมเปญการตลาด การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจะมีเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้น

     และถามว่า SME ควรลงทุนกับ Web 3.0 อย่างไร? จากข้อมูลข้างต้นที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างมากดังนั้น ในความเห็นส่วนตัวอยากแนะนำให้กับ SME ดังนี้

     1. อย่าพึ่งไปลงทุนทั้งหมดกับ Web 0

     2. ลงทุนกับความรู้พื้นฐานที่เป็นรากฐานของ Web 3 ก่อน เช่น Blockchain, Bitcoin, Defi เป็นต้น

     3. พัฒนา Content ของตนเองให้คมและมีความสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกๆ Platform

     4. คิด Business Model ที่เป็นผู้สร้างและผู้รับด้วยตนเอง

www.smethailandlcub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: TECH

“จุลินทรีย์คึกคัก” นวัตกรรมกำจัดสารเคมีตกค้างบนดิน ตัวช่วยเกษตรกรประหยัดทุน ได้ธุรกิจยั่งยืน

จุลินทรีย์คึกคัก ตัวช่วยแก้ปัญหาสารเคมีตกค้าง สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ด้วยฝีมือคนไทยจากบริษัท ไบโอม จำกัด บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงตอบโจทย์การทำธุรกิจแบบยั่งยืน

เทคนิคขายของออนไลน์อย่างไร ให้สต็อกไม่จม ออร์เดอร์ไม่หลุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วง Double day หรือเทศกาลต่างๆ เป็นโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ตักตวงออร์เดอร์มากกว่าช่วงเวลาปกติ แต่จะทำอย่างไรให้โอกาสเหล่านี้ไม่กลายเป็นวิกฤตสร้างปัญหาทางธุรกิจ เช่น สต็อกจม ส่งของไม่ทัน ทำให้สูญเสียลูกค้าในที่สุด

รู้จักเทรนด์ Hyper Automation ช่วย SME กำจัดงานซ้ำๆ น่าเบื่อให้หมดจากองค์กร

Automation หรือ "ระบบอัตโนมัติ" ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่อนาคตจะพัฒนาไปสู่ Hyper automation เพื่อช่วยกำจัดความยุ่งยากของการทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ และก่อนจะสายเกินไป เพื่อให้ธุรกิจตามทันเทคโนโลยี ลองมาทำความรู้จักกับเทรนด์นี้พร้อมกัน