เรียบเรียง : Phan P.
การถูกไล่ออกอาจเป็นจุดจบของใครหลายคน แต่สำหรับ เมลิสซา เบน-ไอเชย์ (Melissa Ben-Ishay) มันกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์คัพเค้กที่วันนี้มีสาขา 14 แห่งทั่วสหรัฐฯ พร้อมยอดผู้ติดตามบน TikTok กว่า 2.5 ล้านคน
ก่อนหน้าจะเป็นผู้ก่อตั้ง Baked by Melissa เธอทำงานในเอเจนซี่โฆษณาในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นงานที่เธอไม่เคยรู้สึกเติมเต็มเลย กระทั่งวันที่เธอถูกให้ออกจากงาน กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต เธอเลือกที่จะไม่ยอมแพ้ เมลิสซาไปหาพี่ชายที่ทำงาน และได้รับข้อเสนอให้ลองเริ่มธุรกิจขายคัพเค้กด้วยกัน พวกเขาจึงเริ่มจากการทำเว็บไซต์ง่ายๆ และถ่ายภาพขนมโดยใช้ผ้าปูสีขาวเป็นฉากหลัง
จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดา
เมลิสซาและพี่ชายช่วยกันทำเว็บไซต์ ถ่ายภาพคัพเค้กด้วยผ้าปูสีขาวเป็นฉากหลัง และเธอก็เริ่มต้นลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการโทรหาผู้จัดเลี้ยง ส่งตัวอย่างขนมให้ลูกค้าชิม หรือแม้แต่หิ้วกล่องคัพเค้กขึ้นรถไฟใต้ดินไปส่งเอง
ในปี 2008 ทุกคำของคัพเค้กที่ส่งถึงมือลูกค้า ล้วนออกมาจากห้องครัวเล็กๆ ของเธอในนิวยอร์ก และค่อยๆ ขยายฐานลูกค้าด้วยขนมสีสันสดใสในกล่องลายมัดย้อม ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
จุดเปลี่ยนของธุรกิจเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของร้าน Café Bari ได้ลองชิมคัพเค้กของเธอแล้วประทับใจ เขาเสนอให้เธอใช้ครัวของร้านฟรี แลกกับการขายคัพเค้กให้เขาในราคาทุน
เมลิสซา เล่าว่า เพียงเจ็ดเดือนหลังเริ่มธุรกิจ พ่อของเธอขับรถมาช่วยย้ายของจากห้องครัวเล็กๆ ไปยังชั้นใต้ดินของร้านกาแฟแห่งนี้ และนั่นคือก้าวสำคัญสู่การขยายตัวของ Baked by Melissa ทั้งเจ้าของร้าน Café Bari ยังเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น ทำให้เมลิสซาสามารถใช้พื้นที่นั้นได้ต่อเนื่องอีกหลายปี ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นมีลูกค้าเดินผ่านจำนวนมากอยู่แล้ว แต่เมื่อสื่อเริ่มพูดถึงแบรนด์ ผู้คนก็ยิ่งแห่กันมาต่อแถวรอซื้อขนมคัพเค้กมากขึ้น ปีถัดมา Baked by Melissa ก็เปิดหน้าร้านแห่งที่สองที่ Union Square
จากแบรนด์คัพเค้กสู่คอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ
ไม่เพียงแต่ขยายหน้าร้าน Baked by Melissa ยังประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ เมลิสซาใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2021 ที่สูตรสลัด “Green Goddess” ของเธอกลายเป็นไวรัลใน TikTok จนติดอันดับ 6 สูตรอาหารที่มีผู้ค้นหามากที่สุดใน Google ทั่วสหรัฐฯ
ความนิยมนี้ทำให้เซเลบอย่าง Cardi B และ Lizzo นำสูตรของเธอไปทำตาม ซึ่งนำไปสู่การปรากฏตัวของ Melissa ในรายการ Today Show และการแชร์สูตร “Green Goddess Ranch” ที่โด่งดังยิ่งกว่าเดิม ปัจจุบัน เมลิสซากลายเป็นครีเอเตอร k แบ่งปันสูตรอาหารและชีวิตประจำวันผ่าน TikTok ซึ่งกลายเป็นช่องทางที่ช่วยเชื่อมโยงเธอกับแฟนๆ และลูกค้าได้อย่าง เหนียวแน่น
เธอมองว่าโซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ช่องทางขายของ แต่เป็นพื้นที่ให้คนทำธุรกิจได้แสดงตัวตนอย่างแท้จริง “เราสามารถทำอะไรก็ได้ ถ้าคุณมีทัศนคติที่ใช่ ลงมือทำทุกวัน ฟังเสียงผู้ชม และตั้งใจทำคอนเทนต์ให้ดี”
ความสำเร็จในโลกโซเชียลยังช่วยให้เมลิสซาก้าวข้ามจากแบรนด์ขนม มาสู่การเป็นนักเขียนหนังสือทำอาหารที่ส่งเสริมแนวทางการกินที่ดีต่อสุขภาพ
เมลิสซาหวังว่าผู้อ่านจะได้ความมั่นใจในการเข้าครัว และสามารถปรับใช้สูตรกับวัตถุดิบใกล้ตัวได้ในอนาคต
ผู้หญิงในโลกธุรกิจ ส้นทางที่ไม่ง่าย แต่เป็นไปได้
แม้จะประสบความสำเร็จ แต่เมลิสซาก็ยอมรับว่าเส้นทางธุรกิจในฐานะผู้หญิงไม่ได้ง่ายดายนัก งานวิจัยหลายฉบับชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงมักเข้าถึงแหล่งทุนได้น้อยกว่าผู้ชาย และยังเผชิญกับความไม่มั่นใจจากโลกของนักลงทุนที่มีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่
เมลิสซาเองก็เคยไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง เธอไม่ได้ขึ้นเป็น CEO ของบริษัทที่ใช้ชื่อตัวเองจนถึงปี 2019 และในตอนที่ได้รับตำแหน่งนั้น เธอก็ยังคิดว่าตัวเอง “ทำไม่ได้” ซึ่งเธอบอกว่าเป็นความคิดที่ผิด
ปัจจุบัน เธอคือ CEO ที่ประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าของแบรนด์ขนมที่มีเอกลักษณ์ และเป็นครีเอเตอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนอีกมากมาย เธอยอมรับว่าการเป็นผู้ประกอบการเต็มไปด้วยความท้าทาย ความไม่แน่นอน และต้องแก้ปัญหาแทบทุกวัน แต่ความไม่แน่นอนและความท้าทายนั้นก็คือช่วงเวลาที่เราจะได้เรียนรู้และเติบโตมากที่สุด
Photo Credit : FB-bakedbymelissa
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี