เรียบเรียง : N.P
ไอเดียเล็กๆ ที่เริ่มจากห้องหอพักของ Ali Grace (อาลี เกรซ) กลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่น และการใส่หัวใจลงไปในทุกรายละเอียด
เรื่องราวของ aligrace แบรนด์กางเกงยีนส์วินเทจคัสตอม เริ่มต้นจากความชอบธรรมดาของเด็กสาวมัธยมที่หลงใหลในการเลือกซื้อยีนส์วินเทจกับคุณแม่ Ali Grace ชอบตัดเย็บและดัดแปลงกางเกงยีนส์เก่าให้เข้ากับตัวเอง และเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย UMass Amherst เธอก็เลือกเรียนสายคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่พอถึงปีสุดท้ายในปี 2018 ความรู้สึกเบื่อหน่ายกับวิชาการสาย STEM ทำให้เธอเริ่มมองหาพื้นที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เธอและรูมเมทออกตระเวนหายีนส์ Levi’s วินเทจ แล้วปรับแต่งให้พอดีกับรูปร่างของเพื่อนๆ ในหอพัก เสียงบอกต่อเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จากงานอดิเรกกลายเป็นงานเสริมที่สร้างรายได้เดือนละ 5-10 ตัว ในราคาตัวละราว 150 ดอลลาร์
“ทำระบบบนเว็บไซต์ให้ลูกค้าวางมัดจำ กรอกไซส์ พร้อมส่งรูปแรงบันดาลใจ จากนั้นจะทักแชตคุยกับลูกค้าแต่ละคนทีละคน ก่อนสรุปออเดอร์” Ali เล่าถึงความใส่ใจที่เธอให้กับลูกค้าในทุกคู่
ระหว่างนั้นเอง เธอได้รู้จักกับซัพพลายเออร์ยีนส์รายแรกโดยบังเอิญในร้านขายของมือสอง และในเวลาเดียวกันก็ลงเรียนวิชา Creative Entrepreneurship ซึ่งกลายเป็นหมุดหมายสำคัญ เพราะอาจารย์ได้แนะนำให้สมัครเข้าร่วมบิสสิเนสแอ็กเซเลอเรเตอร์ท้องถิ่น และเธอก็สามารถฝ่ารอบคัดเลือกจากกว่า 300 ธุรกิจ จนติด 12 ทีมสุดท้าย พร้อมคว้าทุนสนับสนุนมาได้ แม้เงินทุนไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการพิสูจน์ว่า ธุรกิจเล็กๆ นี้มีศักยภาพจะเติบโตอย่างแท้จริง
หลังเรียนจบ Ali ลงสนามเต็มตัว เปิดบูติกเล็กๆ ที่ Cape Cod ก่อนย้ายไปแคลิฟอร์เนีย ในช่วงแรกธุรกิจยังเป็น “วันแมนโชว์” เธอทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่หายีนส์ ตัดเย็บ ไปจนถึงคุยกับลูกค้า “เคยอยู่ที่ออฟฟิศจนเที่ยงคืนเพื่อส่งข้อความหาลูกค้าทีละคน กว่าจะได้เริ่มทำออร์เดอร์ก็ต้องเคลียร์รายชื่อกว่า 70-80 คน แต่สิ่งนี้ทำให้ลูกค้าประทับใจ และบอกว่า ไม่เคยมียีนส์ตัวไหนที่ใส่พอดีแบบนี้มาก่อน”
แล้วจุดพลิกผันก็มาถึงในช่วงโควิด-19 หลังปิดกิจการชั่วคราวเพื่อปรับตัว วันหนึ่ง Ali เปิดรับออร์เดอร์ออนไลน์ตอนเที่ยงคืน แล้วเข้านอน เช้าวันรุ่งขึ้นเธอตื่นมาพบว่ายอดขายทะลุ 60,000 ดอลลาร์ใน 12 ชั่วโมง! นั่นทำให้เธอต้องขยับขยายครั้งใหญ่ ทั้งเช่าโกดัง ซื้อสต็อกเพิ่ม และเริ่มจ้างทีมงานตัดเย็บ
แม้จะฟังดูเหมือนปัญหาใหญ่ แต่ Ali พบว่าตลาด Levi’s วินเทจนั้นกว้างกว่าที่คิด เนื่องจาก Levi’s ผลิตมาตั้งแต่ปี 1873 และยีนส์สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 30 ปีขึ้นไป เธออธิบายว่า กระบวนการผลิตกางเกงแต่ละตัวเต็มไปด้วยงานละเอียด ตั้งแต่คัดเกรดยีนส์ตามไซส์ เอว สะโพก ความยาว ปรับแต่งทรง ไปจนถึงการทำความสะอาดยีนส์วินเทจที่ใช้แล้ว ทุกขั้นตอนเป็นงานแฮนด์เมดที่ต้องใช้ทั้งเวลาและแรงงานจำนวนมาก
ปี 2020 aligrace เริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ นั่นคือส่งกางเกงเป็นของขวัญให้อินฟลูเอนเซอร์ โดยไม่ขอสิ่งตอบแทนใดๆ กลายเป็นว่า ความจริงใจนี้ได้ผลอย่างมหาศาล วันหนึ่ง Revolve ผู้ค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์รายใหญ่ที่ Ali ใฝ่ฝัน ก็เข้ามาติดต่อหลังเห็นโพสต์จากอินฟลูเอนเซอร์ที่เธอเคยส่งกางเกงให้
แม้การร่วมงานกับ Revolve หมายถึงการต้องพัฒนาระบบไซส์มาตรฐาน ซึ่งแตกต่างจากแนวคิด “คัสตอมเฉพาะบุคคล” ที่เป็นรากฐานของแบรนด์ แต่ Ali ก็ปรับตัว โดยใช้ข้อมูลการวัดจากลูกค้าตลอด 7 ปี มาสร้างคู่มือไซส์มาตรฐาน 23–35 พร้อมเปิดทางเลือกให้ลูกค้ายังสั่งคัสตอมได้เช่นเดิม
ปัจจุบัน aligrace ไม่เพียงขายกับ Revolve แต่ยังขยายไปยัง FWRD, Place และ Anthropologie จนยอดขายทะลุ 1 ล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าแตะ 2 ล้านดอลลาร์ในปีถัดไป
สำหรับ Ali Grace สิ่งที่เธอภูมิใจที่สุดไม่ใช่ตัวเลข แต่คือความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มแรกๆ ที่เคยส่งข้อความหากันจนดึกดื่น “บางคนมีเก็บไว้กว่า 15 ตัวแล้ว พวกเขากลายเป็นเพื่อนของเรา แม้วันนี้จะไม่ได้ใกล้ชิดเหมือนเดิม แต่หากไม่มีวันนั้น เราคงไม่มาถึงวันนี้”
ที่มา : www.entrepreneur.com
Photo Credit : instagram@aligrace
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี