Text: VaViz
Photo: Elizabeth Hotel
ถ้าเป็นคุณจะรู้สึกยังไง?
เปิดโรงแรมมาตั้ง 34 ปี
แต่คนที่อยู่ในซอยข้างๆ กลับไม่รู้เลยว่า โรงแรมนี้มีตัวตนด้วยซ้ำ
สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ สุรกิจ เมธานุกิจ เจ้าของโรงแรมอลิซาเบธ รุ่นที่ 2 ต้องประสบ และจะยังคงเป็นอยู่อย่างนั้น หากไม่เจอเข้ากับวิกฤต COVID-19 เล่นงานอย่างหนักจนต้องปิดทำการไปเกือบ 3 เดือน และด้วยความลำบากนี้เอง ที่ทำให้ทายาทคนนี้ต้องลุกขึ้นมาสู้ เดินเกมรุกหาลูกค้า เพื่อพาคนกลับมาพักและใช้บริการที่นี้อีกครั้ง
“ช่วงนั้นโรงแรมเราได้รับผลกระทบอย่างมาก และเราเองก็ลำบากมากเช่นกัน แต่อย่างไรเสียเราก็ต้องพยายามพาครอบครัวไปให้รอด จึงมองหาหนทางว่า จะทำยังไงดี เพื่อจะเข้าถึงลูกค้าได้ จากที่ปกติเราเองก็อยู่กันแบบเงียบๆ ไม่เคยออกสื่อหรือช่องทางใดๆ ทั้งสิ้น แต่ครั้งนี้จะปล่อยให้เป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว”
ดังนั้น การออกผจญภัยครั้งแรกสู่โลกกว้างในรอบกว่าสามทศวรรษของโรงแรมที่ตั้งอยู่ ณ ถนนประดิพัทธ์ ย่านพญาไท จึงดำเนินขึ้น ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า โซเชียลมีเดียและออนไลน์ คือหมุดหมายและเครื่องมือสำคัญในเรื่องนี้
ค่อยๆ สร้างตัวตน...ให้คนเริ่มจำได้
แน่นอนว่าทำธุรกิจในยุคนี้จะอยู่แค่แบบออฟไลน์ไม่ได้ สุรกิจ จึงก้าวเข้าไปในโลกที่ใครๆ ก็รู้ว่ามีอิทธิพลมากแค่ไหนอย่างโลกออนไลน์
“ช่วงแรกเราทำคอนเทนต์ใน Facebook ก่อน ซึ่งก็เป็นอะไรที่ดูธรรมดาๆ อย่างโพสต์รูปสวยๆ หรือใส่แคปชั่นเกี่ยวกับอาหารอร่อยๆ แต่พอทำไปได้สักพัก เริ่มเห็นเทรนด์ของช่องทางใหม่อย่าง TikTok ที่เข้ามาและคนเริ่มนิยม จึงคาดว่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงในอนาคตแน่ๆ”
ด้วยเป้าหมายที่แน่วแน่ในการหาลูกค้า ทำให้เขาไม่ทอดเวลา ดังนั้น เมื่อคิดตอนกลางคืนแล้วว่า พรุ่งนี้จะลองถ่าย TikTok ดู เช้าขึ้นมาจึงรีบคว้ามือถือแล้วเริ่มทำคลิปทันที
ธรรมชาติของเรา...ความเรียลที่ลูกค้าจับต้องได้
ก่อนจะล้านวิวแตกกับคลิปไวรัลราดหน้าเส้นกรอบสูตรเด็ดของโรงแรม ผู้นำที่เป็นคนขี้อายและเรียบร้อยคนนี้ ก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูกในการทำคลิปมาไม่น้อย
“เราลงคลิปทุกวัน วันละ 1 คลิป อย่าง 40 วันก็ 40 คลิป ซึ่งคลิปแรกก็ปกติได้ยอดวิวแค่หลักร้อย บางคลิปก็หลักพัน แต่พอมาวันที่ 41 เราก็ได้ล้านวิวเป็นคลิปแรกเลย ซึ่งช่วงแรกก็เหมือนเราได้เรียนรู้ ฝึกฝน ลองผิดลองถูกเอาเอง เพราะตอน 3 ปีก่อนนั้นไม่มีใครมาสอนเราในเรื่องนี้อยู่แล้ว จนเราจับทางได้เอง”
นอกจากใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป โดยที่ไม่ได้กำหนดคาแรกเตอร์ใดๆ แล้ว สุรกิจ บอกว่า สิ่งที่ทำให้คลิปของเขามียอดคนดูเป็นล้านนั้นคือ การทำคลิปที่มีประโยชน์ ซึ่งอาจจะสอดแทรกความสนุกและมุขตลกเบาๆ เข้าไปด้วยก็ได้
“การทำคลิปที่มีประโยชน์จะทำให้คนอยากดูจนจบ อย่างคลิปแรกที่เราทำได้ล้านวิวก็คือคลิปที่พูดถึง 4 อย่างในโรงแรมที่เอากลับบ้านได้ พอหัวเรื่องมันเป็นแบบนี้ คนเขาก็อยากจะรู้ว่ามีอะไรบ้าง เขาก็จะรอจนจบ เช่น หนึ่งมีกาแฟ สองมีรองเท้า เขาก็จะฟังจนจบ เพราะอยากรู้ว่าทั้งหมด 4 อย่างนั้นคืออะไร”
ดังนั้น คลิปที่มีประโยชน์ ซึ่งอาจจะเป็นบางอย่างที่คนอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับโรงแรมจะกลายเป็นคอนเทนต์ที่แข็งแรงและดึงดูดคนให้อยู่กับเราตลอดได้
“มากไปกว่านั้น ถ้าจะให้ดี เราต้องทำให้คน Save และ Share คลิปของเราด้วย เพราะถ้าทำได้ เราจะรู้เลยว่าคลิปนั้นประสบความสำเร็จแน่ๆ อย่างคลิปไวรัลราดหน้าเส้นกรอบของเราที่ลงในเย็นวันศุกร์แล้วได้ล้านวิวขึ้นมาก็มียอด Save และยอด Share เยอะมาก ทำให้เรารู้เลยว่าพรุ่งนี้เช้าวันเสาร์ ลูกค้าจะเข้ามาเยอะแน่ๆ”
เหรียญ 2 ด้านของ “ความปังล้านวิว”
และเป็นอย่างที่ สุรกิจ คิดไว้แล้วว่า ความไวรัลของคลิปราดหน้าเส้นกรอบจะพาผู้คนจำนวนมากเข้ามาลองชิม ซึ่งแม้ว่าพอจะได้เตรียมตัวล่วงหน้าไว้บ้าง แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นช่างเกินคาด เพราะตามมาด้วย “เสียงบ่นและถูกด่ายับ”
“ผลกระทบรุ่งเช้าวันถัดมาคือแรงเลย เราโดนด่ายับ เพราะว่าเสิร์ฟไม่ทัน ลูกค้าบ่นว่าเสิร์ฟช้า ได้อาหารช้า เพราะเราไม่รู้ว่าลูกค้าจะมาเป็นร้อย ในขณะที่ตอนนั้นเรามีพ่อครัวอยู่แค่ 7 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้และนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป”
แต่ใช่ว่าจะมีแค่เรื่องลบๆ อย่างเดียวเท่านั้น เพราะการทำคอนเทนต์ยังส่งผลกระทบเชิงบวกให้กับทางโรงแรมเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
“อย่างที่บอกว่าเราเปิดมาตั้ง 34 ปี แม้จะอยู่มานานขนาดนี้ แต่คนที่อยู่ใกล้ๆ อย่างซอยข้างๆ ยังบอกว่า ไม่เคยรู้เลยว่ามีโรงแรมอยู่ตรงนี้ มีราดหน้าขายอยู่ในโรงแรมด้วย ทำให้เรารู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่เขายังไม่รู้จักเรา ดังนั้น เราต้องขยันทำคอนเทนต์หรือคลิปทุกวันไม่ให้ขาด ซึ่งพอคลิปได้ล้านวิวบ่อยๆ จะทำให้คนจำเราได้ พอคนจำเราได้ เราก็จะโปรโมทโรงแรมเราได้ง่ายขึ้น”
เบื้องหลัง “สู้”... เบื้องหน้า “สำเร็จ”
การกัดฟันทนทำในสิ่งที่ไม่เคยทำและอาจจะฝืนธรรมชาติของคนเงียบๆ ไปสักหน่อยในช่วงแรก เป็นผลที่เจ้าของโรงแรมรุ่นใหม่คนนี้บอกว่ามาจากเลือดนักสู้ของผู้ที่เป็นพ่อแม่ ที่เริ่มต้นมาจากฐานะยากจนและมีวุฒิการศึกษาเพียงชั้นประถมเท่านั้น
“ทำธุรกิจยุคนี้เราต้องสู้ไม่ถอย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมได้มาจากคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว เช่น แม้ว่าตอนทำคลิปแรกๆ จะมียอดวิวน้อย เราก็ต้องสู้ เพราะตอนนั้นครอบครัวกำลังลำบาก และมีเป้าหมายที่เราต้องทำให้ได้ จึงลงคลิปไปเรื่อยๆ จนเริ่มสนุกและสำเร็จได้ในที่สุด”
สำหรับใครที่อยากพลิกธุรกิจด้วยการทำคลิปหรือสร้างคอนเทนต์แบบนี้ สุรกิจ ฝากไว้ว่า อย่าเอาแต่คิดให้ลงมือทำ พร้อมทั้งต้องมีความสม่ำเสมอด้วย
“การทำคอนเทนต์ตอนนี้สำคัญมาก ที่โรงแรมเราเปลี่ยนแปลงมาถึงขั้นนี้ได้ก็เกิดจากคอนเทนต์ด้วย ดังนั้น ธุรกิจจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ อย่างเราเองทุกวันนี้ก็ยังไม่หยุด โดยลงวันละ 1 คลิป ทำแบบนี้เป็นประจำ ซึ่งเทคนิคการทำก็ไม่ยุ่งยากอะไร แค่หาหัวข้อมาก่อนว่าเราจะทำเรื่องอะไร แตกข้อย่อยเป็น Bullet ซึ่งจะเขียนใส่กระดาษหรือพิมพ์ออกมาก็ได้ รวมถึงวางสคริปต์ด้วยว่า ฉากแรกเราจะพูดอะไร ฉากสองเราจะเดินไปทางไหน ซึ่งเราสามารถถ่ายและตัดต่อได้ด้วยตัวเราเอง”
“ถ้าธุรกิจเราอยู่ในซอก ในหลืบ ในซอยเล็กๆ ยิ่งต้องทำคอนเทนต์
ไม่ต้องกลัวว่าลูกค้าจะไม่มีที่จอดรถ หรือเดินทางไม่สะดวก
เพราะถ้ามันดัง เดี๋ยวลูกค้าเขาก็หาทางมาหาเราเอง”
ที่มา: งานสัมมนา Digital SME Conference Thailand 2025
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
