Text: Neung Cch.
สำหรับผู้ประกอบการไทย “ทุน” อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความฝัน แต่ไม่เคยเป็นคำตอบสุดท้ายของการเติบโต หลายธุรกิจมีไอเดียที่ดี แต่ติดอยู่ตรงที่ขาดระบบสนับสนุน ขาดพันธมิตร และขาดโอกาสที่จะก้าวไปสู่ตลาดจริง
นี่คือภารกิจของ กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) เข้ามามีบทบาท เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยตัวเล็กๆ ได้ไปถึงฝั่งฝัน
“หน้าที่ของ TED Fund ไม่ใช่แค่ให้ทุน แต่มันคือการสร้างอนาคตให้ผู้ประกอบการไทยได้มีสินค้ามีที่ยืนในตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” น.สพ.ดร.สนัด วงศ์ทวีทอง ผู้จัดการกองทุนฯ คนใหม่ ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568
ตลอดกว่า 9 ปีที่ผ่านมา TED Fund ได้กลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของประเทศในการผลักดันเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม (Innovation-based Economy)
โดยให้การสนับสนุนผู้ประกอบการกว่า 1,000 ราย ตั้งแต่ระดับนักศึกษาไปจนถึง Startup และ SME สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจสะสมกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งในมิติการจ้างงาน การสร้างรายได้
วันนี้ TED Fund กำลังเปิดบทใหม่ ภายใต้การบริหารของน.สพ.ดร.สนัด ผู้เชื่อมั่นว่า
“ทุนคือเพียงจุดเริ่มต้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ‘ระบบ’ ที่ทำให้ผู้ประกอบการเติบโตได้จริง”
จาก “กองทุน” สู่ “กลไกสร้างเศรษฐกิจใหม่”
ตลอดเส้นทางตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2567 TED Fund ได้กลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของระบบนิเวศนวัตกรรมไทย สนับสนุนผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมแล้วกว่า 1,000 ราย ครอบคลุม 13 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ตั้งแต่ยานยนต์สมัยใหม่ อาหารแห่งอนาคต ไปจนถึงเทคโนโลยีชีวภาพ สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
การขับเคลื่อนทั้งหมดนี้ดำเนินผ่าน 3 โครงการหลัก ที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการในทุกระยะของการเติบโต ได้แก่
TED Youth Startup ปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ตั้งแต่รั้วมหาวิทยาลัย ถึงบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 5 ปี ด้วยทุนสูงสุด 1.5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาไอเดียสู่ต้นแบบธุรกิจ (Prototype / Proof of Concept)
TED Market Scaling Up หนุนธุรกิจที่มีรายได้แล้วให้ขยายสู่ตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยทุนสูงสุด 2 ล้านบาท
Startups for Startups ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสตาร์ทอัพไทย สร้างแพลตฟอร์มหรือโซลูชันต่อยอดร่วมกัน ด้วยทุนสูงสุด 2 ล้านบาท
ล่าสุดในปี 2568 เพียงปีเดียว TED Fund ได้สนับสนุนผู้ประกอบการกว่า 282 ราย รวมมูลค่าทุนกว่า 272 ล้านบาท สะท้อนบทบาทที่ขยายจาก “กองทุนสนับสนุน” สู่ “กลไกสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ” อย่างแท้จริง
“เรามองการให้ทุนไม่ใช่แค่การอัดฉีดเงิน แต่คือการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ทำให้คนไทยเติบโตจากไอเดีย จนกลายเป็นธุรกิจจริง สร้างรายได้จริง และเสียภาษีจริง” น.สพ.ดร.สนัด อธิบาย
Quick Win ที่สร้างได้จริง
เมื่อรัฐบาลประกาศนโยบาย “Quick Win” เน้นการแก้ปัญหาปากท้องและสร้างอาชีพในระยะสั้น TED Fund เป็นหนึ่งในหน่วยงานของกระทรวง อว. ที่สามารถตอบโจทย์ Quick Win ได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการที่เชื่อมโยงทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ เช่น
- PiLeatha (ไพเรธ่า): หนังเทียมจากเส้นใยสับปะรด ผลงานสตาร์ทอัพไทยจากมหาวิทยาลัยมหิดล เปลี่ยนของเหลือทางการเกษตรให้เป็นวัสดุแฟชั่นมูลค่าสูง
- ERTIGO: แพลตฟอร์มกายภาพบําบัดออนไลน์ด้วยตนเอง
- FlowMind-RA: ระบบปฏิบัติการที่สามารถวัดแรงปัสสาวะด้วยเสียง
ทั้งหมดนี้คือ “ตัวอย่าง Quick Win ที่ตอบโจทย์จริง” ทั้งด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิต และการสร้างมูลค่าจากเทคโนโลยีไทย
สร้างระบบนิเวศให้ธุรกิจไทย
TED Fund ไม่ได้ทำงานเพียง “ต้นน้ำ” ของการให้ทุน แต่สร้างระบบครบวงจรตั้งแต่ “แนวคิด–ทดลอง–ขยายตลาด–เข้าถึงแหล่งทุน” ผ่านการทำงานร่วมกับเครือข่ายกว่า TED Fellows กว่า 70 แห่งทั่วประเทศ ทั้งมหาวิทยาลัย อุทยานวิทยาศาสตร์ และภาคเอกชน
พร้อมจับมือกับพันธมิตรทางการเงิน เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, ธนาคารออมสิน, และภาคเอกชน, Venture Capital (VC) ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปิดเส้นทางต่อยอดทุนและตลาด เช่น
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ให้วงเงินต่อยอดบริษัทละ 50 ล้านบาท
- TED Global Network เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น เกาหลี จีน ฮ่องกง และตะวันออกกลาง ผลักดันสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดอาเซียนและเอเชีย
“เราไม่ได้ต้องการแค่ให้เงิน แต่ต้องการสร้างโอกาสจริงให้ผู้ประกอบการไทยไปสู่ระดับโลกได้” ดร.สนัดกล่าว
3 ยุทธศาสตร์หลัก ขับเคลื่อน TED Fund ให้พร้อมรบ
เมื่อ TED Fund ก้าวเข้าสู่บทใหม่ ภายใต้การนำของ น.สพ.ดร.สนัด ที่มีเป้าหมายชัดเจนคือ สร้างระบบนิเวศนวัตกรรม เชื่อมโยงทุน ตลาด และความรู้ ให้ผู้ประกอบการก้าวจากไอเดียสู่ธุรกิจที่จับต้องได้ เพื่อให้เป้าหมายนี้เกิดขึ้นวาง 3 ยุทธศาสตร์หลัก ในการขับเคลื่อนการทำงานดังนี้
1. Ensuring Sustainability – ทำให้ผู้ได้รับทุนอยู่รอด เติบโตได้จริง และยั่งยืน ไม่ใช่แค่ให้เงินแล้วจบ แต่ช่วยวางรากฐานธุรกิจให้สามารถต่อยอดได้ในระยะยาว
2. Innovation Ecosystem Development – เชื่อมโยงระบบสนับสนุนครบวงจร ตั้งแต่ห้องเรียน มหาวิทยาลัย อุทยานวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงตลาดโลก เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแรงสำหรับผู้ประกอบการ
3. Capacity Building for Commercialization – พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมขายจริง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ TED Fund ยังขยายการสนับสนุนใน 2 กลุ่มธุรกิจใหม่ที่สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจยุคใหม่ได้แก่
- Creative Innovation & Soft Power – ส่งเสริมธุรกิจสร้างสรรค์ต่อยอดเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและ Soft Power ของไทย
- Urban Living Innovation – เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง
สำหรับปี 2569 TED Fund ตั้งเป้าให้ทุน ไม่ต่ำกว่า 300 ราย รวมวงเงินกว่า 300 ล้านบาท และเพิ่มทุนเริ่มต้นสำหรับ TED Youth Startup จาก 100,000 เป็น 150,000 บาท เพื่อให้นักศึกษาและผู้ประกอบการรุ่นใหม่มีพลังเริ่มต้นจริง พร้อมสร้างระบบสนับสนุนให้ธุรกิจไทยก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ
น.สพ.ดร.สนัด กล่าวทิ้งท้ายว่า ผู้ประกอบการ SMEs และสตาร์ทอัพ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ต้องการขยายตลาด สามารถสมัคร โครงการ TED Market Scaling Up ได้ ตั้งแต่ วันนี้ - 10 พ.ย. 2568
สำหรับนิสิต นักศึกษา และบัณฑิตจบใหม่ ที่มีไอเดียธุรกิจ สามารถสมัคร โครงการ TED Youth Startup เปิดรับสมัคร วันที่ 1 - 15 ธ.ค. 2568
ส่วนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบของ B2B (Business to Business) ที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมรายอื่นๆสามารถสมัคร โครงการ Startups for Startups เปิดรับสมัคร วันที่ 2 - 16 ก.พ. 2569
ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : TED Fund หรือ Website : www.tedfund.mhesi.go.th
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
