Sureeporn ปั้นแบรนด์สู้ ในตลาด Rea Ocean อย่างไร จนขายทะลุ 4 ล้านชิ้น

Text: Wipawan In.


     อีกหนึ่งตลาด Red Ocean นั่นคือ ธุรกิจเครื่องสำอางที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน แต่ “สุรีย์พร (Sureeporn)” กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ใช่เพียงแค่แบรนด์ความงาม แต่เป็นเรื่องราวการเติบโตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เริ่มต้นจากศูนย์ จากความรักครอบครัวและความหวังเล็กๆ ว่าจะได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุข อาย-ณัฐธิดา สิงห์โท ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ผู้หญิงที่ไม่ได้เกิดมาพร้อมต้นทุนใดๆ นอกจากแรงผลักดันภายในใจ สร้างตัวตนบนโซเชียลตั้งแต่ยุค Socialcam ก่อนจะกลายเป็นผู้ประกอบการที่มียอดขายหลายล้านชิ้นต่อปี ทุกก้าวเดินมีทั้งรอยยิ้ม น้ำตา ความกลัว ความกล้า และสิ่งเดียวที่ผลักให้ก้าวไปข้างหน้า “อยากให้ครอบครัวสบาย และอยากใช้ชีวิตของตัวเองสักครั้ง”

“สุรีย์พร” เพราะอยากให้แม่อยู่ในทุกก้าวของความสำเร็จ

     “สุรีย์พร” ไม่ใช่ชื่อของอาย แต่เป็นชื่อคุณแม่ ที่เลือกใช้ชื่อนี้เพราะอยากให้แม่อยู่ในทุกการเติบโต จึงเลือกนำชื่อแม่มาตั้งเป็นชื่อแบรนด์เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อให้แม่ปกป้องและอยู่เคียงข้าง ในทุกก้าวที่กำลังจะเดินไป จากเด็กต่างจังหวัดที่ถูกคาดหวังให้เรียนสายวิทย์เพื่อเป็นพยาบาล อายไม่เคยปฏิเสธพ่อแม่แม้เพียงครั้งเดียว แม้ไม่ได้มีความสุข แต่ก็เรียนจนจบ ทำงานโรงพยาบาล พร้อมหารายได้เสริมไปด้วยจนมีรายได้มากกว่าเงินเดือน

     แต่ชีวิตเปลี่ยนเมื่อหัวหน้างานเรียกไปคุยเรื่องการทำคลิป เป็นสิ่งที่ทำให้อายเริ่มหันกลับมามองตัวเอง จึงตัดสินใจกลับบ้านไปคุยกับครอบครัวด้วยน้ำตาว่า “23 ปีที่ผ่านมา ทำทุกอย่างที่พ่อแม่อยากให้ทำ แต่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตของตัวเองเลย ขอหนึ่งปี…ถ้าไม่สำเร็จ จะกลับมาทำงานให้” คำพูดนั้นทำให้พ่อแม่ยอมให้ลาออก และตั้งแต่วินาทีนั้น แบรนด์ “Sureeporn” ก็ได้เริ่มต้นอย่างจริงจัง

     เริ่มจากตลาดสกินแคร์ มาร์กสีฟ้า สบู่ไข่ เซรั่ม ไปจนถึงลิปลอกและลิปแมต เริ่มพัฒนาโปรดักต์อย่างต่อเนื่องด้วยทุนที่มีไม่มากแต่เต็มไปด้วยความหวัง และค่อยๆ สร้างชื่อในตลาดเครื่องสำอางไทยแบบปากต่อปากด้วยสินค้าแป้งพัฟและ cushion ในปี 2018 อายไม่เก่งเรื่องการตลาด แต่เก่งเรื่องความพยายาม คือสิ่งที่อายใช้ผลักตัวเองให้เติบโตมาถึงทุกวันนี้

จากวันที่ล้มเหลว สู่การกลับมาอีกครั้งด้วยพลังของคอนเทนต์

     Sureeporn เริ่มเป็นที่รู้จักและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีชื่อเสียงและมีตัวแทนจำหน่าย ระบบกำลังไปได้ดี แต่เมื่อเจอวิกฤตโรคระบาดมาถึง ทุกอย่างหยุดชะงัก คนไม่ออกจากบ้าน ไม่แต่งหน้า ยอดสั่งซื้อหายไปแทบหมด จนยอดขายทั้งปีเหลือเพียงครึ่งเดียว ซึ่งไม่พอจะเลี้ยงทั้งครอบครัวและพนักงาน อายต้องตัดสินใจไปไลฟ์ขายของกิน ขนมพื้นบ้าน แม้จะกำไรเพียง 2–10 บาทต่อชิ้น แต่ก็ทำเพื่อให้มีเงินจ่ายเงินเดือนและพยุงทุกคนไว้

     “วันที่ยากที่สุดคือวันที่ “ตัวแทน” ส่งข้อความตำหนิว่า “อย่าลืมนะว่ามีวันนี้ได้เพราะใคร” กลายเป็นประโยคที่ทำให้เราตื่นขึ้นมา และจึงตัดสินใจชัดเจนว่าต้องกลับมาเอาตัวเองให้รอด หันมาทำเองทั้งหมด ทั้งการขาย การทำคอนเทนต์ และยกเลิกระบบตัวแทนออกทั้งหมด เพื่อกลับมาคุมแบรนด์ด้วยตัวเองอย่างเต็มตัวในรูปแบบที่เราต้องการ และอยากสื่อสารถึงลูกค้า เพราะแบรนด์นี้ความตั้งใจแรกก็มาจากเรา ไม่มีใครสื่อสารแบรนด์ได้ดีเท่าเราเอง”

     หลังจากลุยทำตลาดเอง อาย ได้เห็นถึงฟีดแบคของลูกค้าได้เข้าไปตอบ และพูดคุยกับลูกค้าด้วยตัวเองทำให้เห็นข้อดี ข้อเสียของแบรนด์ อะไรที่ยังต้องคงไว้และอะไรที่ต้องปรับปรุง ทำให้อายและลูกค้าใกล้ชิดกันมากขึ้น สร้างความไว้ใจและเชื่อใจได้มากยิ่งขึ้น

เติบโตจากความจริงใจ และแรงสนับสนุนของลูกค้า

    หัวใจของ Sureeporn ไม่ได้อยู่ที่โฆษณาใหญ่โต แต่คือการสร้างคอนเทนต์ที่ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้สร้างภาพหรูหรา แต่สื่อสารตรงไปตรงมา อธิบายให้ฟังด้วยภาษาบ้าน ๆ และตอบลูกค้าจริงใจที่สุด ทำให้ลูกค้า ไว้ใจในตัวคน ก่อนจะไว้ใจในตัวแบรนด์ และเมื่อได้ลองก็ซื้อต่อเรื่อยๆ ปัจจุบันแบรนด์มีอัตราซื้อซ้ำกว่า 52% มียอดขายมากกว่า 4 ล้านชิ้นบน TIKTOK

     “ถึงจะมีรีวิวลบหรือคลิปเปรียบเทียบอยู่บ้างแต่เราเลือก ให้ลูกค้าได้ฟังหลายมุม ไม่ตอบโต้ด้วยอารมณ์ แต่ปล่อยให้ลูกค้าเก่าที่ใช้จริงมาช่วยยืนยันแทน จนเกิดคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ของคนที่รักแบรนด์และคอยปกป้อง เป้าหมายของเราไม่ใช่การบอกว่าแบรนด์ตัวเองดีที่สุด แต่เชื่อว่าตัวตนของเราเหมือนอาหารอีสาน คนที่ชอบรสจัดก็จะชอบเรา คนที่ชอบรสอ่อนก็อาจไม่ชอบ ซึ่งมันคือธรรมชาติ และงานของเราคือ ทำให้ดีที่สุดในทุกวัน แค่วันนี้ดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ดียิ่งกว่าวันนี้ก็พอแล้ว”

     ปัจจุบัน Sureeporn มีพนักงานกว่า 50 คน มียอดผลิตเฉลี่ยเดือนละ 100,000 – 200,000 ชิ้น และกำลังวางแผนออกสินค้าใหม่ตามเสียงของลูกค้า ไม่รีบ ไม่ฝืน แต่ใช้เวลาพัฒนาให้ดีที่สุด เพราะ ลูกค้าควรได้สิ่งที่คุ้มค่าที่สุด และยังคงเชื่อว่าแบรนด์ไทยมีโอกาสในประเทศอีกมาก ผู้หญิงไทยกว่า 40 ล้านคนคือโอกาสใหม่ และแบรนด์ก็พร้อมจะเดินหน้าต่อไปด้วยแรงศรัทธา ความพยายาม และความหวังที่ได้รับจากครอบครัว พนักงาน และลูกค้า

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
  

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ไอเดียสุดแสบ! ร้านออนไลน์จีนทำป้ายใหญ่  แก้ปัญหาลูกค้าใส่แล้วคืน

ถ้าเปิดกล่องเสื้อผ้าออนไลน์แล้วเจอแท็กใหญ่เท่ากระดาษ A4 พร้อมข้อความว่า “ห้ามคืนหรือเปลี่ยน หากป้ายถูกถอดออก” หรือซิปที่ถูกล็อกด้วยรหัสลับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวสุดแปลกใหม่ที่วงการอีคอมเมิร์ซจีนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

Stay with Tree Café จากร้านลึกสุดซอย สู่แบรนด์ที่เติบโตด้วยพลัง Storytelling

ซี-อภิรดี อัษรานนท์ เริ่มต้นทำคาเฟ่ด้วยใจรักกาแฟและบรรยากาศอบอุ่น แม้ร้านใหม่จะอยู่ลึก ซอยตัน ไม่มีแอร์ แต่เรื่องเล่าของร้านก็พาคนเข้ามาคาเฟ่แห่งนี้ และเค้กที่เริ่มจากศูนย์ ก็กลายเป็นธุรกิจเต็มตัว

กว่าจะได้เป็นมือขวาแม่ ทายาทร้าน 'ลาบก้อยซอยนานา' ใช้ Data และบัญชี ต่ออายุร้าน 10 ปีให้ยอดขายเพิ่ม 6 เท่า

เมล–ธนัท สุริยะภูมิ ทายาทรุ่นสองและวิศวกรเกียรตินิยมอันดับสอง ต่อยอดระบบเดิมโดยไม่ล้มของเก่า ใช้ Data และการทำบัญชี พลิกฟื้นร้าน “ลาบก้อย ซอยนานา” จาก 15 โต๊ะเกือบปิดกิจการ…สู่ยอดขายโต 6 เท่าใน 5 เดือน