Nido นวัตกรรมฉีดอินซูลิน ปลอดภัยและสะดวกกว่าเดิม ที่เกิดจาก Pain Point ของผู้ป่วยเบาหวานวัย 20 ปี

เรียบเรียง : Ratchanee P.


      เมื่อ โซอี้ ชาน ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานประเภท 1 ตอนอายุเพียง 20 ปี ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปทันที
ในตอนนั้น เธอเป็นนักศึกษาสาขาออกแบบอุตสาหกรรมที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) และต้องเรียนรู้วิธีฉีดอินซูลินเองวันละ 3–5 ครั้ง ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดตลอดเวลา และพกพาเข็ม และฝาครอบไปทุกที่

     นี่คือความจริงใหม่ที่เธอยังไม่พร้อมจะยอมรับ

     กิจวัตรประจำวันของเธอกลายเป็นเรื่องซ้ำซากและเหนื่อยล้าทางอารมณ์ การฉีดอินซูลินหลายครั้งต่อวัน โดยเฉพาะในที่สาธารณะ รู้สึกทั้งน่าอึดอัดและโดดเดี่ยว

     นอกจากนี้ เธอยังต้องพกพาเข็มที่ใช้แล้ว ซึ่งต้องทิ้งในภาชนะที่แข็งแรง ทนทิ่มทะลุ และมีฝาปิดแน่น พร้อมฝาครอบ “รู้สึกเหนื่อยกับการจัดการชิ้นส่วนเล็กๆ การค้นหาเข็มในกระเป๋า และความยุ่งยากของกระบวนการทั้งหมด ทั้งที่สิ่งที่อยากทำจริงๆ คือไปใช้ชีวิตต่อ”

     โซอี้ถึงกับเก็บอุปกรณ์ในกล่องแว่นตาเพราะไม่พบกระเป๋าที่เล็กและจัดระเบียบได้ดีพอ

     จากการพูดคุยกับผู้ที่เป็นเบาหวานประเภท 1 คนอื่นๆ เธอพบว่าปัญหาไม่ได้เกิดกับเธอเพียงคนเดียว

     “อุปกรณ์ที่เราได้รับไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับเรา ทั้งในแง่ไลฟ์สไตล์ ความเป็นส่วนตัว หรือประสบการณ์ทางอารมณ์”

     ความตระหนักนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ nido (Neat Insulin Daily Organiser) และออกเสียงเหมือนคำว่า “needle” อุปกรณ์กะทัดรัด ใช้งานง่าย ที่ช่วยจัดเก็บและใช้งานเข็มอินซูลินอย่างปลอดภัย

ใช้เวลาหนึ่งปีและกว่า 120 แบบต้นแบบ

     เมื่อโซอี้อายุ 23 ปี เธอเริ่มคิดพัฒนา nido ขณะเลือกหัวข้อวิทยานิพนธ์ปีสุดท้ายที่มหาวิทยาลัย
“อยากให้โปรเจ็กต์สุดท้ายมีความหมายจริงๆ ดังนั้นจึงท้าทายตัวเองด้วยการเลือกหัวข้อที่ยากที่สุดสำหรับตัวเอง”

     เพื่อทำให้ไอเดียเป็นจริง โซอี้ได้รับทุน 200 ดอลลาร์สิงคโปร์จาก NUS สำหรับโครงการวิทยานิพนธ์ แม้ว่าส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายและวัสดุจะเป็นของเธอเอง เธอไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินทั้งหมด

     กระบวนการตั้งแต่การสร้างแนวคิดจนถึงดีไซน์สุดท้ายใช้เวลาประมาณหนึ่งปี

     ครึ่งปีแรกเธอเน้นการวิจัย ทำความเข้าใจชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเบาหวานประเภท 1 รวมถึงตัวเธอเอง และทดลองการใช้งานเบื้องต้นเพื่อดูว่าผู้ใช้ชื่นชอบแนวทางใด

     จากนั้นเธอเริ่มทดลองต้นแบบหลายร้อยแบบ ปรับปรุงจนแม่นยำทุกมิลลิเมตร

     “เริ่มจากกล่องที่คล้ายกับเคส AirPods” โซอี้เล่า “ดีไซน์ผ่านหลายรอบก่อนที่จะได้เวอร์ชันสุดท้ายของ nido”

     ทั้งหมดแล้ว เธอสร้างและปรับปรุงต้นแบบมากกว่า 120 ครั้งก่อนที่ nido จะถึงขั้นตอนปัจจุบัน

หนึ่งในความท้าทายสำคัญคือการออกแบบสำหรับกระบวนการที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน

     “การฉีดอินซูลินอาจดูเหมือนเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องเฉพาะตัว บางคนฉีดเร็วและไม่เปิดเผย บางคนละเอียดรอบคอบ ฉันต้องลบล้างนิสัยเดิมและไม่คิดว่ามีวิธีถูกต้องเพียงวิธีเดียว”

     อีกอุปสรรคคือการสร้างสมดุลระหว่างฟังก์ชันกับความเรียบง่าย ต้นแบบแรกมีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวมากเกินไป ทำงานได้ แต่ต้องรู้วิธีใช้ล่วงหน้า

     “ต้องทดสอบหลายรอบและปรับแก้หลายครั้งเพื่อให้เข้าใจง่ายโดยไม่ต้องอธิบาย”

     การออกแบบสำหรับโรคที่เธอเป็นเองก็มีน้ำหนักทางอารมณ์

      “ยากที่จะเป็นกลางเมื่อปัญหานั้นใกล้ตัว แต่การฟังเรื่องราวของผู้ใช้คนอื่นและเห็นปฏิกิริยาต่อการทดลองทำให้ระลึกว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของฉันคนเดียว แต่เป็นการออกแบบเพื่อชุมชน”

nido ใกล้การใช้งานจริง

     ดีไซน์ปัจจุบันของ nido สามารถเก็บเข็มปากกาอินซูลินได้ถึง 4 ชิ้น มีช่องเก็บที่รองรับแบรนด์และขนาดต่างๆ มีร่องสำหรับถอดฝาเข็มอย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้เข็มตกหรือทิ่มนิ้ว และช่องเก็บชิ้นส่วนใช้แล้วเพื่อนำไปทิ้ง

     nido ขณะนี้ถือสิทธิบัตรชั่วคราวและอยู่ในขั้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ โซอี้กำลังพูดคุยกับพันธมิตร เตรียมเปิดช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ และหาผู้ใช้เพิ่มเพื่อปรับปรุงขั้นต่อไป

     เธอรวบรวมข้อเสนอแนะจากการสนทนาและติดตามผลกับผู้ที่พบเจอระหว่างทำวิทยานิพนธ์ รวมถึงผู้ที่ติดต่อเข้ามาเอง

     “กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานน่าทึ่งและช่วยเหลือมากรู้สึกขอบคุณอย่างมาก หลายคนบอกว่ารู้สึกว่าโปรเจ็กต์เห็นความต้องการของพวกเขา ซึ่งสำคัญมาก เพราะมันไปไกลกว่ากลุ่มคนรอบตัว”

    ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนก็ให้ความเห็นเชิงบวกต่อ nido โดยเฉพาะในเรื่องการสร้างความสะดวกในชีวิตประจำวัน

     สำหรับผลงานนี้ โซอี้เพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ James Dyson Award (สิงคโปร์) ปี 2025 พร้อมเงินรางวัล 8,400 ดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนา nido

     นอกจากนี้ นวัตกรรมของเธอได้เข้ารอบ 20 อันดับสุดท้ายของ James Dyson Award ระดับโลก มีโอกาสเป็นผู้ชนะระดับโลกและรับเงิน 50,700 ดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาขั้นต่อไป โดยผลรางวัลจะประกาศในวันที่ 5 พฤศจิกายน

ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น

     ในสิงคโปร์มีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 400,000 คน คาดว่าจะเพิ่มเป็นราว 1 ล้านคนภายในปี 2050 สำหรับหลายคน การใช้ชีวิตร่วมกับโรคเป็นเรื่องยาก แต่การพูดถึงก็ยากยิ่งกว่า ซึ่งโซอี้เข้าใจดีในฐานะผู้ป่วยเองแรกๆ เธอรู้สึก “อายและไม่รู้จะอธิบายให้ครอบครัวหรือเพื่อนฟังยังไง”

     แต่เธอเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง

     “ส่วนที่ยากที่สุดคือการอ่อนโยนต่อใจตัวเอง เรียนรู้ว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดใคร และไม่ได้เกิดเพราะฉัน ‘กินของหวานมากเกินไป’”

     “ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นอยู่กับปัจจัยมากกว่า 40 อย่าง ตั้งแต่ความเครียดจนถึงความกดอากาศ บางวันแม้ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ผลตรวจก็ไม่เหมือนเดิม และยากที่จะไม่รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว”

    เธอยอมรับว่ายังเรียนรู้การใช้ชีวิตกับเบาหวานประเภท 1 อยู่ทุกวัน และพบความท้าทายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ผ่าน nido โซอี้หวังว่าจะทำให้การเดินทางของผู้ป่วยคนอื่นง่ายขึ้น

     แม้มันจะเป็นนวัตกรรมเล็กๆ แต่ตอบสนองความหงุดหงิดที่แท้จริงของมนุษย์ แม้เพียงช่วยให้บางคนรู้สึกดีขึ้น นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการสร้างต่อไป

     ที่มา :  www.vulcanpost.com 

     Image Credit : NUS Industrial Design

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
  

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

Sureeporn ปั้นแบรนด์สู้ ในตลาด Rea Ocean อย่างไร จนขายทะลุ 4 ล้านชิ้น

อีกหนึ่งตลาด Red Ocean นั่นคือ ธุรกิจเครื่องสำอางที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน แต่ “สุรีย์พร (Sureeporn)” กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ และเพราะอะไรแบรนด์นี้จึงปั้นยอดขายทะลุ 4 ล้านชิ้นได้

ไอเดียสุดแสบ! ร้านออนไลน์จีนทำป้ายใหญ่  แก้ปัญหาลูกค้าใส่แล้วคืน

ถ้าเปิดกล่องเสื้อผ้าออนไลน์แล้วเจอแท็กใหญ่เท่ากระดาษ A4 พร้อมข้อความว่า “ห้ามคืนหรือเปลี่ยน หากป้ายถูกถอดออก” หรือซิปที่ถูกล็อกด้วยรหัสลับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวสุดแปลกใหม่ที่วงการอีคอมเมิร์ซจีนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

Stay with Tree Café จากร้านลึกสุดซอย สู่แบรนด์ที่เติบโตด้วยพลัง Storytelling

ซี-อภิรดี อัษรานนท์ เริ่มต้นทำคาเฟ่ด้วยใจรักกาแฟและบรรยากาศอบอุ่น แม้ร้านใหม่จะอยู่ลึก ซอยตัน ไม่มีแอร์ แต่เรื่องเล่าของร้านก็พาคนเข้ามาคาเฟ่แห่งนี้ และเค้กที่เริ่มจากศูนย์ ก็กลายเป็นธุรกิจเต็มตัว