“แอมแซ่บ” เปลี่ยนผลไม้เป็นน้ำพริกรสแซ่บ!

Text : พิชชานันท์ สุโกมล
Photo : nitta







    น้ำพริก สินค้าธรรมดาๆ ทำให้ไม่ธรรมดาได้ด้วยฝีมือ ทิวาพร ศิริ เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำพริกผลไม้แบรนด์ “แอมแซ่บ” ซึ่งต่อยอดธุรกิจเดิมของที่บ้านซึ่งเป็นร้านกึ่งของฝาก ขายส่งแคปหมูที่ใหญ่สุดในจังหวัดลำพูน ด้วยความที่เห็นว่ามีเศษที่ได้จากการทอดแคปหมูที่เป็นชิ้นเล็กๆ เหลือเยอะมาก จึงลองเอามาทำน้ำพริกดู โดยทำในลักษณะน้ำพริกแห้งคล้ายๆ ผงโรยข้าว ต่อมาก็เป็นน้ำพริกขิง น้ำพริกข่า โดยแรกๆ ก็ทำอย่างง่ายๆ ไม่ได้มีแพ็คเกจสวยงามอะไร เป็นแบบกระปุกธรรมดาเหมือนในท้องตลาดทั่วไป จนท้ายที่สุดเกิดแนวคิดอยากทำสินค้าให้ฉีกจากตลาดเดิมๆ จึงพัฒนามาเป็น “น้ำพริกลำไย” ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น และยังของขึ้นชื่อของ ต.หนองช้างคืน จ.ลำพูนอีกด้วย
 




     ส่วนผสมหลักๆ ของน้ำพริกผลไม้ คือมีพริก หอมแดง กระเทียม ลำไย โดยเอาวัตถุดิบทั้งหมดมาทอดก่อน แล้วจึงผ่านขั้นตอนการสลัดน้ำมัน จากนั้นจึงทำการอบในพาราโบลาโดมซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเอาน้ำมันออกให้ได้มากที่สุด เพื่อสามารถเก็บผลิตภัณฑ์ให้ได้นานมากขึ้น ไม่เหม็นหืน และยังตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่มีส่วนผสมของลำไยนี้ ทิวาพรบอกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของน้ำพริกผลไม้แบรนด์แอมแซ่บ ที่มีความชัดเจนในการทำแบรนด์ของน้ำพริกผลไม้ที่ไม่มีส่วนผสมเนื้อสัตว์ คนรักสุขภาพและรับประทานอาหารคลีนก็รับประทานได้


     จากน้ำพริกลำไย ทิวาพรแตกไลน์ไปที่ผลไม้ชนิดอื่นที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น สับปะรด มะม่วง แอปเปิ้ล  และลิ้นจี่ ซึ่งทุกคนจะสงสัยว่าสิ่งที่เธอทำคืออะไร เพราะเป็นของคาวผสมกับของหวาน สิ่งที่ตอบได้ดีที่สุดก็คือการได้ลองรับประทาน ดังนั้นทิวาพรจึงประชาสัมพันธ์ด้วยการออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ให้ลูกค้าได้ชิมและมีสินค้าให้ทดลอง 







    “กลุ่มลูกค้าที่เราเลือกก็คือกลุ่มคนที่กล้าลองของใหม่ ก็เลยจะอยู่ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นแล้วก็กลุ่มคนที่อยู่ในวัยทำงานที่ยังเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้ง่าย เพราะผลิตภัณฑ์ของเรามีไว้ทานกับอะไรก็ได้ เป็นการผสมผสานระหว่างของคาวและของหวาน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้ ทานกับขนมปังก็ได้ ใส่ในสลัดหรือขนมจีนก็ได้ โดยเราทำแพ็คเกจจิ้งให้ดูน่ารัก สดใส เอาใจวัยรุ่นที่ชอบแชะก่อนชิม รวมถึงราคาที่เข้าถึงได้ ไม่แพงเกินไป คนก็อยากลองมากขึ้นเพราะไม่ได้แพงอะไร ถ้ารสชาติถูกปากก็จะเกิดการซื้อซ้ำ”


    สำหรับอายุการเก็บรักษาน้ำพริกผลไม้แอบแซ่บอยู่ได้นาน 8 เดือน หลักๆ จะขายที่หน้าร้านในจังหวัดลำพูน ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดเชียงใหม่ นอกนั้นจะเป็นการขายผ่านโซเซียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊กและไลน์ ส่วนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะมีตัวแทนจำหน่าย 







     ปัจจุบันทิวาพรผลิตน้ำพริกผลไม้วันต่อวัน ยังได้จำนวนไม่มาก โดยจะเป็นการผลิตตามออเดอร์เป็นส่วนใหญ่ และยังทำเป็นธุรกิจแบบครอบครัว โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 400 – 500 ขวด ถือว่าเต็มที่แล้ว ดังนั้นในอนาคตหากทิวาพรต้องการขยายตลาดเข้าโมเดิร์นเทรดหรือส่งออก ก็ต้องวางแผนเรื่องการลงทุนอีกพอสมควร เพราะปัจจุบันเธอใช้กระแสเงินสดในการบริหารไม่ได้ลงทุนกู้แบงก์แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลิตภัณฑ์น้ำพริกของทิวาพรก็ได้รับมาตรฐาน อย. และ GMP CODEX ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สามารถส่งออกได้ 


     รูปแบบของน้ำพริกผลไม้ตอนนี้มีอยู่รูปแบบเดียวคือแบบขวดขนาด 80 กรัม ราคา 89 บาท มี 5 รสชาติ คือ ลำไย ลิ้นจี่ สับปะรด มะม่วง และแอปเปิ้ล ซึ่งกลางปี 2560 นี้ ทิวาพรบอกว่ากำลังจะออกแบบเป็นซองเพื่อสะดวกในการพกพา ซึ่งสอดรับกับผลตอบรับที่ค่อนข้างดีในขณะนี้ 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน

SME ไทยจะอยู่รอดได้อย่างไรท่ามกลางสงครามการค้า

การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125% โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ดังนั้น SME ไทยจึงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง ...แล้วเราจะอยู่รอดได้อย่างไร