“บ้านศิลาดล” ปั้นดินให้เป็นแบรนด์

 

 
 
เรื่อง : รัชตวดี จิตดี
ภาพ : ฝ่ายภาพ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม 
 
 
 
ไม่น่าเชื่อว่าจากดินท้องนาที่ดูไม่มีค่าในสายตาใครหลายคน จะมาเป็นเครื่องปั้นดินเผาเคลือบศิลาดลที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ จนกลายเป็นสินค้าระดับพรีเมียมที่สร้างอาชีพและรายได้ให้กับชาวเชียงใหม่
 
หากคุณยังไม่รู้ว่า “ศิลาดล” คืออะไร...ลองไปฟังคำนิยามจากผู้ก่อตั้งแบรนด์ “บ้านศิลาดล” กันสักหน่อย
 
 
“ศิลาดล คือ เครื่องปั้นดินเผาแห่งแคว้นล้านนา เคลือบรานสีเขียวใสคล้ายหยก บนเนื้อดินที่เผาแกร่งเทียมหิน เพิ่มคุณค่าแห่งหัตถศิลป์ด้วยการแกะลวดลาย และการเขียนสีใต้เคลือบ” 
 
บ้านศิลาดลเกิดและเติบโตขึ้นจากสองมือของทัศนีย์ ยะจา แม่หญิงชาวเชียงใหม่ แม้เธอจะจบการศึกษาด้านบริหารและเคยทำงานด้านการเงินการธนาคารมาก่อน จากตำแหน่งพนักงานรับจ่าย จนกระทั่งตำแหน่งสุดท้ายคือ เจ้าหน้าที่สินเชื่อ แต่ทัศนีย์ก็ค้นพบว่า งานประจำไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต
 
 
“คนเราพอทำงานประจำถึงจุดหนึ่งจะมีความคิดว่า มีอะไรสักอย่างที่เราอยากจะทำจริงๆ จากการที่ได้เติบโตและเห็นงานหัตถกรรมบนถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพงมาตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าเราจะทำอะไรดี จึงมองไปที่ธุรกิจเครื่องเคลือบศิลาดล เพราะมองว่า ถ้าหากคนมาเชียงใหม่ต้องขายอะไร ก็ได้คำตอบว่าต้องขายความเป็นวัฒนธรรม เพราะงานหัตถกรรมที่ขึ้นชื่อ เบื้องหลังความสำเร็จของงานหัตถกรรมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกมาจากเชียงใหม่ จึงมาคิดว่าจะพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าเชิงการท่องเที่ยวให้กับเครื่องเคลือบศิลาดลได้อย่างไร” 
 
 
นั่นคือจุดเริ่มต้นของ “บ้านศิลาดล” ธุรกิจที่นำเอางานหัตถกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นล้านนา มาเพิ่มคุณค่าเชิงการท่องเที่ยว โดยการพัฒนาเครื่องเคลือบหัตถกรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นตลาดหลักของบ้านศิลาดล
 
“ลูกค้าของเรามีทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งแบ่งเป็นลูกค้าไทย 20 เปอร์เซ็นต์ ต่างชาติ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยจะมีทั้งลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวมาซื้อเป็นของฝากหรือของที่ระลึก และลูกค้าที่มาซื้อเพื่อนำไปส่งออกเองส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมาเราเน้นเฉพาะตลาดในประเทศ ไม่ได้ผลิตเพื่อส่งออก เราทำกันแบบเล็กๆ แบบธุรกิจในครอบครัว จึงพยายามสร้างโอกาสในการทำตลาดตลาดประเทศ โดยการออกงานแสดงสินค้าต่างๆ” 
 
 
ทัศนีย์บอกว่า ผลิตภัณฑ์ของบ้านศิลาดลไม่ใช่สินค้าที่เน้นเทคโนโลยีทันสมัย แต่เป็นการผลิตสินค้าที่เน้นคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เนื่องจากประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สามารถนำเสนอคุณค่าทางประวัติศาสตร์ผ่านผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบศิลาดลได้ ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ทำให้สินค้าของบ้านศิลาดลมีความเหมาะสมในกลุ่มสินค้าระดับสูง (High touch) 
 
 
  “โชคดีที่โปรดักต์ที่เราทำนั้นมันแบ่งตลาดของเราชัดเจน แม้ช่วงหนึ่งเศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ลูกค้าของเรายังคงมีกำลังซื้ออยู่” ทัศนีย์เล่าด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้พนักงานของเรามีทั้งหมด 80 คน แต่เป็นทีมงานที่มีศักยภาพ เราผลิตจำนวนน้อย เพราะงานฝีมือทุกคนก็คงทราบดีว่าจะต้องประณีต งานของเราขาย emotion ขาย feeling ขายอารมณ์ความรู้สึก และขายความเป็นเชียงใหม่ เราก็เลยดึงจุดขายนี้มาเพิ่มมูลค่า ทำให้สินค้าของเราบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ใช้”
 
 
จุดเด่นของเครื่องเคลือบบ้านศิลาดลอยู่ที่การผลิตที่เน้นงานทำมือทั้งหมด ผลิตภัณฑ์จะมีสีเขียวคล้ายหุ้มหยก  ส่วนผิวเคลือบที่ได้จะรานตัวและแตกลายงา อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องเคลือบศิลาดล ส่วนกระบวนการผลิตจะยังคงยึดวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม เน้นการเขียนลวดลายและสีสันที่บ่งบอกถึงศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของคนไทย พร้อมนำมาผสมผสานกับการดีไซน์ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้การใช้งานมีความหลากหลายมากขึ้น
 
ปัจจุบันนี้  สินค้าของบ้านศิลาดลมีหลากหลาย ทั้งเครื่องใช้ในบ้านและบนโต๊ะอาหาร เช่น จาน, ชาม, แก้วน้ำ ของตกแต่งบ้าน เช่น แจกัน, โคมไฟ รวมไปถึงของขวัญและของที่ระลึกต่างๆ ล่าสุด ทัศนีย์ยังได้ขยายการผลิตสินค้าประเภทเครื่องประดับ เช่น จิเวลรี่ที่ถูกออกแบบให้เข้ากับรสนิยมของผู้ที่หลงใหลในกลิ่นอายงานฝีมือยุคเก่า
 
 
สำหรับเป้าหมายธุรกิจต่อไป ทัศนีย์บอกว่า เธอจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบศิลาดลเชียงใหม่ ภายใต้แบรนด์ “บ้านศิลาดล” ให้เป็นผู้นำในการผลิตเครื่องเคลือบชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์และทรงคุณค่า ให้เป็นที่ยอมรับทั้งตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ
 
“เราจะพยายามพัฒนาทำผลิตภัณฑ์ของเราให้เป็นภาพลักษณ์สินค้าที่มีคุณภาพของจังหวัดเชียงใหม่ และพัฒนาเครื่องเคลือบศิลาดลเชียงใหม่สู่ความเป็นอินเตอร์ ด้วยการพัฒนาองค์กรให้เป็นผู้นำที่ดีในด้านงานฝีมือ ความมุ่งหวังของเราก็คือ ต้องการให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง หากคิดถึงเครื่องเคลือบศิลาดล คิดถึงจังหวัดเชียงใหม่ และคิดถึงบ้านศิลาดล”
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เมื่อทายาทโรงขนมกุยช่ายตลาดพลู พลิกโฉมธุรกิจ สร้างแบรนด์ Sooo Guichai จนขายได้วันละ 1,000 ลูก

ทำไมขนมกุยช่ายต้องสร้างแบรนด์? ที-กิตติคุณ กชกรจารุพงศ์  ทายาทรุ่นที่ 3 ของโรงขนมกุยช่ายตลาดพลู มองเห็นโอกาสอะไร จึงคิดสร้างแบรนด์ Sooo Guichai (โซกุยช่าย) กุยช่ายแป้งเปลือย เน้นไส้ แป้งน้อย จนปังขายได้ถึงพันลูกต่อวัน

เปิดโลกธุรกิจขยายสู่ตลาดใหม่ งาน Hong Kong International Optical Fair

งานแสดงแว่นตาระดับนานาชาติ Hong Kong International Optical Fair นับเป็นเวทีแห่งโอกาสของประกอบการไทยที่จะขยายธุรกิจด้านแว่นตาสู่ตลาดโลก โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 6 – 8 พฤศจิกายน 2024 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง ( HKCEC )      

dot.b ร้านหนังสืออิสระหนึ่งเดียวในเมืองเก่าสงขลา ทำหน้าที่สเมือนสมองเมือง เปิดถึงเที่ยงคืน

การทำร้านหนังสือในยุคที่สื่อสิ่งพิมพ์ได้ทยอยปิดตัวไป นับเป็นความกล้าที่บางคนเอาความรักในการอ่านมาเดิมพัน โดยเฉพาะในเมืองเล็กๆ อย่างสงขลา ที่คนภายนอกแทบมองไม่เห็นโอกาส แต่ dot.b เกิดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ให้เมืองไม่ขาดร้านหนังสือ