ธุรกิจไทยพร้อมหรือยังกับการปรับตัวสู่ Digital Trend?

Text ;  ศิริรัฐ โชติเวชการ  นายกสมาคมสำนักงานบัญชีคุณภาพ


    
 ในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จำเป็นอย่างยิ่งที่นักธุรกิจต้องปรับตัวตามให้ทัน เรากำลังก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ที่จะต้องวางแผนไปข้างหน้าเพื่อความมั่นคงและยั่งยืนของธุรกิจ มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ Intuit บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้พัฒนาโปรแกรมบัญชี QuickBooks ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งของโลกในตลาดเอสเอ็มอีได้ทำการวิจัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 จนถึงปัจจุบัน ถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2563 ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเลือกมาในส่วนที่สำคัญต่อการปรับตัวของธุรกิจ งานวิจัยได้ทำนายจากมุมมอง 4ด้าน ดังนี้

    1. มุมมองทางด้าน ประชากรศาสตร์

    - การเติบโตของเด็กยุคดิจิทัล จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบนโลกใบนี้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเด็กยุคนี้ เติบโตมากับการมีแท็บเล็ตและสมาร์ตโฟนเป็นของเล่น เขาจึงเกาะติดอยู่กับเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีการสื่อสารผ่านโมบาย และทุกอย่างเป็นเรียลไทม์

    - กลุ่มเบบี้บูมจะเข้าสู่วัยชราแบบ 60 ยังแจ๋วคือคนกลุ่มนี้จะผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจที่จะให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ ที่ตนถนัด

     - เศรษฐกิจจะอยู่ในอุ้งมือของผู้หญิง ซึ่งเป็นเรื่องที่นักการตลาดต้องนำไปคิดต่อว่าจะหาทางขายสินค้ากับกลุ่มผู้หญิงอย่างไร

    - สินค้าและบริการจากทุกท้องถิ่นจะสามารถเข้าสู่ตลาดโลก จะเห็นได้ว่าการขายสินค้าในยุคใหม่ทางออนไลน์นั้น ตลาดไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในประเทศต่อไปแล้ว เมื่อตลาดกว้างขึ้นหมายถึงโอกาสทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น แต่เราก็ยังต้องศึกษาถึงกฎหมายและวัฒนธรรมของประเทศคู่ค้า รวมทั้งภาษีเกี่ยวกับธุรกรรมข้ามชาติของประเทศเราด้วย และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ขณะนี้เราอยู่ในสังคมที่ทุกคนมีส่วนร่วมในทุกเรื่องผ่าน Social Media 

        2. มุมมองด้านสังคมศาสตร์

    - Social Network จะช่วยให้ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในสังคม ทุกเสียงใน Social Media มีความสำคัญ การจะทำมาค้าขายให้ยั่งยืนนั้นจะขาดธรรมาภิบาลไม่ได้เลย 

    - จะเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว(Work-Life Balance) เด็กยุคดิจิทัลชอบความยืดหยุ่นในการทำงานและไม่ต้องการอยู่ในระบอบการทำงานแบบแปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นอีกต่อไป เราจึงเห็นอัตราการเข้า-ออกงานของคนกลุ่มนี้เพิ่มสูงมาก และส่วนใหญ่จะเลือกเป็นนายตัวเองด้วยการขายของผ่านเว็บไซต์

    - จะเป็นยุคที่ผู้คนต้องแลกความเป็นอิสระกับภาระความเสี่ยง เขาหมายถึงการที่เด็กรุ่นใหม่เลือกที่จะเป็นนายตัวเอง เขาก็จะต้องแลกด้วยการที่จะไม่ได้รับเงินเดือนประจำและสวัสดิการต่างๆ

    - การตลาด การขาย จะอยู่ในอุ้งมือของลูกค้า เรื่องนี้ไม่เคยเปลี่ยนแต่ลูกค้าจะยิ่งมีอิทธิพลต่อตลาดมากขึ้นผ่าน Social Media

    3. มุมมองด้านเศรษฐกิจ

    - เศรษฐีใหม่จะมีผลต่อตลาดโลก ปัจจุบันเราจึงเห็นคนจีนมาท่องเที่ยวมากกว่าคนยุโรปและอเมริกัน

    - การเริ่มต้นธุรกิจทำได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เงินสด นั่นหมายถึงเราจะมีคู่แข่งใหม่ๆ เกิดขึ้นง่ายกว่าเดิม

    - ทุกธุรกิจจะแข่งขันกันด้านธรรมาภิบาลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะหากทำมาค้าขายแบบขาดธรรมาภิบาลเราจะถูกกระแส Social Media รุมเร้าจนหมดอนาคตไป

    - จะเป็นยุคที่ผู้คนยอมใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ ว่ากันว่า ธุรกิจโรงพยาบาลเหมือนเสือนอนกิน เพราะขายเงินสดและกำหนดราคาได้เอง

    - รูปแบบการทำงานจะเปลี่ยนจากพนักงานประจำเป็น Freelance นี่คือการพบกันครึ่งทางระหว่างนายจ้างกับลูกน้องยุคดิจิทัลที่ไม่ขอทำงานในระบบเดิม นายจ้างต้องหันมาจ้างงานโดยอาศัยผลของงานเป็นตัวตั้ง มิฉะนั้นเขาจะหาคนทำงานให้ไม่ได้

    - การตลาดแบบเฉพาะกลุ่มจะเฟื่องฟู โดยเฉพาะการทำตลาดเฉพาะกลุ่มผ่าน Social Media จะเป็นเรื่องง่ายในปัจจุบัน

    - จะเป็นยุคที่เหลือแต่ธุรกิจเล็กกับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น

    4. มุมมองด้านเทคโนโลยี

    - การทำงานจะอยู่บนโลกออนไลน์ เมื่อเป็นการทำมาค้าขายผ่านออนไลน์จึงมี Application ใหม่ๆ มารองรับ เช่น ระบบ POS/Stock/Payroll/Job management เป็นต้น ระบบเหล่านี้จะเชื่อมโยงข้อมูลต่อไปถึงระบบบัญชีออนไลน์หรือ Cloud Accounting โดยไม่ต้องอาศัยนักบัญชีมาบันทึกข้อมูลอีกต่อไป

    - ข้อมูลทางธุรกิจมีความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขัน ผู้ประกอบการจะต้องมีการทำบัญชีให้เป็นเรียลไทม์ เพราะนักธุรกิจที่ค้าขายไปทั่วโลกต้องการเข้าถึงข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าเขาจะอยู่ในมุมไหนของโลก และที่สำคัญผู้ประกอบการควรได้รับคำแนะนำจากนักบัญชี เพื่อให้สามารถนำข้อมูลบัญชีเหล่านั้นมาแปลงเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ พร้อมทั้งแนะนำการเสียภาษีที่ถูกต้องบนการค้าระหว่างประเทศที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

    - การเชื่อมต่อของผู้คนแบบไร้สายจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ การค้าแบบเดิมๆ จะเปลี่ยนไป เราจะเห็นว่าธนาคารในไทยยังเริ่มปิดสาขาเพราะธุรกรรมส่วนใหญ่จะทำออนไลน์ แนวโน้มนี้จะไม่มีข้อยกเว้นกับธุรกิจอื่นๆ เช่นกัน

    - การดำเนินชีวิตและธุรกิจจะสะดวกและง่ายขึ้นทุกวันจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Hardware and Software ต่างๆ คงต้องบอกว่า อนาคตโอกาสของธุรกิจมีมากกว่าเดิมเพราะเราสามารถเข้าสู่ตลาดโลกได้ด้วยการค้าขายออนไลน์แต่เราต้องการคนรุ่นใหม่ที่เก่งทางด้านเทคโนโลยีมาช่วยงาน ความยั่งยืนของธุรกิจอยู่ที่ระบบธรรมาภิบาลของธุรกิจและข้อมูลที่ถูกต้องและทันการณ์ที่จะใช้ในการตัดสินใจ รูปแบบการจ้างงานจะเปลี่ยนจากการมีพนักงานประจำไปเป็นการ Outsource หรือการจ้างแบบ Work from home โดยคำนึงถึงผลของงานเพราะคนรุ่นใหม่ต้องการอิสระและไม่สามารถทนต่อการทำงานระบบเดิมที่ต้องเข้างาน 8 โมงเช้าถึงห้าโมงเย็น งานบัญชีทั้ง Front Office และ Back Office จะเป็นแบบ Real Time ข้อมูลจะเชื่อมโยงกันระหว่าง Application เฉพาะเรื่องเช่น การขายแบบ e-Commerce ระบบสินค้าคงคลังจะวิ่งตรงสู่ระบบบัญชีบน Cloud โดยไม่ต้องอาศัยนักบัญชีมาบันทึกรายการอีกต่อไป นักบัญชีจึงต้องเปลี่ยนบทบาทจากเดิมไปเป็นที่ปรึกษาที่จะสามารถรวบรวมข้อมูลบัญชีให้แปลงเป็นข้อมูลที่ฝ่ายบริหารสามารถนำไปใช้ตัดสินใจทางธุรกิจ เราจะเห็นว่าอนาคตข้างหน้าจะสดใสหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเรา

ที่มา : วารสาร K SME Inspired ธนาคารกสิกรไทย
www.smethailandclub.com

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน