นอกจากสตีฟ จ๊อบส์แล้ว อีลอน มัสก์ (Elon Musk) นักธุรกิจและนักประดิษฐ์แคนาดาเชื้อสายแอฟริกาใต้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พลิกวิถีชีวิตของคนทั้งโลกด้วยไอเดียสุดแหวกแนว ไม่ว่าจะเป็น การสร้างยานอวกาศออกไปนอกโลก การผลิตรถยนต์ไร้คนขับ และการสร้างรถไฟความเร็วสูงวิ่งได้เกิน 1,000 กม./ชม. มัสก์เป็นเจ้าของบริษัทสเปซเอ็กซ์ (ผลิตยานอวกาศ) บริษัทเทสลา มอเตอร์ (ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ) และบริษัทโซลาร์ซิตี้ (ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์)
Cr: businessinsider.com
ล่าสุดเมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มัสก์เผยแผนจะใช้จรวดสเปซเอ็กซ์เพื่อทำให้ผู้คนเดินทางข้ามทวีปในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง โดยยกตัวอย่างการเดินทางจากนิวยอร์กไปลอนดอนจะใช้เวลาเพียง 29 นาทีเท่านั้น สิ่งที่เขาพูดดูเหมือนจะคาบเกี่ยวระหว่าง “บ้า” กับ”อัจฉริยะ” แต่ไม่ว่ามัสก์จะนำเสนอไอเดียอะไร ยังไงโลกก็เงี่ยหูฟัง ไปดูกันว่า 14 ความคิดสุดล้ำของมัสก์มีอะไรบ้าง
1. ส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร ทั้งนี้ วงโคจรของโลกกับดาวอังคารจะโคจรมาพบกันทุก 26 เดือน ได้แก่ปีหน้า ปี 2020 และปี 2024 หากทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด แผนการส่งคนไปดาวอังคารจะเริ่มปี 2024
2. วิสัยทัศน์เกี่ยวกับรัฐบาลดาวอังคาร มัสก์คิดว่าน่าจะเป็นแบบประชาธิปไตยโดยตรง ไม่ใช่แบบตัวแทน นั่นคือคนที่อยู่บนดาวอังคารโหวตตรงได้เลย
3. มากกว่าแค่มีชีวิตอยู่รอด แต่มัสก์มองถึงสร้างชุมชนใหม่บนดาวอังคารหรือดาวแดง (red planet) ให้มีทุกอย่างเหมือนบนโลก
4. การเดินทางไปดาวอังคารเที่ยวแรกอันตรายมาก มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการเสียชีวิต ฉะนั้น ใครก็ตามที่นำร่องไปชุดแรกควรเตรียมพร้อมที่จะตาย
5. หากดาวอังคารเรียกความสนใจคุณไม่ได้ ยังมีจรวดสเปซเอ็กซ์ที่นำพาคุณไปรอบโลกในระยะเวลาอันสั้น ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
6. แต่ถ้ายังอยากเสี่ยงที่จะไปดาวอังคาร การตายในอวกาศก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายนัก หากจะต้องเลือกสถานที่ตาย ดาวอังคารอาจเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว
7. เกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับ มัสก์มองว่าถ้าจะห้ามไม่ให้ผู้คนใช้รถยนต์แบบนี้ (self-driving car) ก็เท่ากับว่ากำลังผลักดันพวกเขาไปตาย เพราะสถิติระบุมีคนเสียชีวิตปีละ 1.2 ล้านคนจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่คนขับเอง ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจากรถยนต์ไร้คนขับนั้นน้อยกว่า
8. ถามเกี่ยวกับเทสล่าว่าจะรับผิดชอบอย่างไรหากมีผู้เสียหายในอุบัติเหตุรถยนต์ไร้คนขับ มัสก์กล่าวว่าขึ้นอยู่กับการทำประกันภัยของแต่ละคน และเปรียบเทียบว่าก็เหมือนคนใช้ลิฟต์นั่นแหละ ถ้าติดอยู่ในลิฟต์ บริษัทผู้ผลิตลิฟต์ก็คงไม่ตามไปรับผิดชอบทั่วโลกหรอก
9. ถ้าไม่ครุ่นคิดเรื่องการส่งคนไปดาวอังคาร มัสก์มักจะถกเถียงเกี่ยวกับว่ามนุษย์น่าจะถูกพบเจอในวิดีโอเกมของที่อื่นหรือเปล่า และเรากำลังอยู่ในโลกเสมือนจริงหรือไม่
10. แต่ก็เป็นเรื่องที่สมควรถกเถียงเพราะมีความเป็นไปได้มากว่าเรากำลังอยู่ในโลกเสมือนจริงมากกว่าโลกจริงๆ มีโอกาสพันล้านในหนึ่งครั้งที่เราจะอาศัยอยู่บนฐานของความเป็นจริง
11. มัสก์บอกอีกว่ามนุษย์ควรคาดหวังจริงๆ ว่ากำลังอยู่ในโลกเสมือนจริงเพราะถ้าไม่ใช่ ทุกอย่างอาจเลวร้าย ไม่เช่นนั้นแล้ว เราก็จะลงเอยด้วยด้วยการสร้างโลกเสมือนจริงที่ไม่อาจแยกออกจากโลกจริงๆ หรือไม่อารยธรรมของเราก็ถูกทำลายล้าง
12. มัสก์คิดว่ามนุษย์เข้าสู่การเป็น cyborg (หุ่นยนต์ชีวภาพ หรือ หุ่นยนต์กึ่งมนุษย์) เรียบร้อยแล้ว เพราะในโลกดิจิทัลทุกวันนี้ เราทำได้แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอคอลกับใครก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา สามารถส่งข้อความถึงคนนับล้านคนในคราวเดียว
13. ถ้าไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่งคือการเพิ่มชั้นของปัญญาประดิษฐ์ (AI layer) ที่ทำงานให้เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายมนุษย์
14. AI อาจเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่สุดของมนุษย์ ต้องระมัดระวังอย่างมากในการไม่ทำอะไรเขลาๆ ที่อาจเป็นการปลุกปีศาจ AI ขึ้นมา
ทั้งหมดคือการรวบรวมความคิดความเชื่อของอีลอน มัสก์ อ่านไอเดียของคนที่มีมันสมองอัจฉริยะ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มาลุ้นกันดีกว่าว่าสิ่งที่มัสก์พูดมาจะปรากฏเป็นจริงหรือไม่ เมื่อไร
ที่มา www.businessinsider.com/13-crazy-elon-musk-quotes-things-he-believes-2016-10/#he-has-even-shared-his-vision-for-a-martian-government-2
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
