Dose Espresso ยิ่งคู่แข่งมาก ยิ่งมีโอกาสมาก

TEXT  : ไศลธร เหมะสิขัณฑกะ

Photo :  Dose Espresso

 

 

 

 

 

 

                จากถนนมิตรภาพมุ่งหน้าสู่วงเวียนกลางเมืองอุดรธานี เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนโพศรี และซ้ายอีกครั้งเข้าถนนราชพัสดุไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับร้านกาแฟที่มีความโดดเด่นด้วยสไตล์ของร้านอาหารหรูอย่าง Dose Espresso ร้านกาแฟดังสัญชาติออสเตรเลีย เชื้อชาติไทย ที่ “เนาวรัตน์ คู่วัจนกุล” เจ้าของร้านตั้งใจจะให้เป็นร้านกาแฟแบบครบวงจรเสิร์ฟทั้งกาแฟ อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งวันนี้กลายเป็นร้านกาแฟสุดพิเศษที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าสนใจในสนาม Local


 

 

 

                “ในจังหวัดอุดรธานีมีร้านกาแฟเกิดใหม่เยอะมากและมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราจะเห็นว่าแต่ละร้านก็จะมีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป ในมุมมองของ Dose Espresso เราถือว่านี่คือโอกาสของธุรกิจกาแฟ เนื่องจากการมีผู้เล่นเข้ามาแข่งขันในตลาดทำให้ตลาดได้รับการ Educated มากขึ้น ลูกค้าเองก็ได้เรียนรู้ว่ารสชาติของกาแฟในแต่ละที่จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น ร้านนี้ให้ความสำคัญกับการทำกาแฟ ในขณะที่อีกร้านอาจเน้นที่การตกแต่งสร้างบรรยากาศ หรือบางร้านอาจมีของหวานเป็นตัวชูโรง เป็นต้น กล่าวได้ว่าธุรกิจร้านกาแฟที่อุดรธานีเป็นการแข่งขันที่งัดเอาจุดเด่นของแต่ละร้านขึ้นมาประชันกัน เป็นการแข่งขันด้วยเอกลักษณ์ของแต่ละร้านจริงๆ”

 

 

                ด้วยการแข่งขันที่ต้องสู้กันที่ความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง ทำให้เนาวรัตน์มองว่า ถ้าจะทำแค่ร้านกาแฟอย่างเดียวคงไม่พอ ทว่าร้านกาแฟที่จะแข่งขันได้ต้องเป็นมากกว่านั้น นั่นคือต้องมีอะไรที่มากกว่ากาแฟ เธอจึงเลือกทำร้านให้เป็นร้านกาแฟครบวงจรที่มีทั้งอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ซึ่งมองว่าน่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้มากกว่า และสิ่งนี้เองเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Dose Espresso นำมาใช้เพื่อสู้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นด้วยกันเอง และรับมือกับร้านกาแฟแบรนด์ใหญ่ๆ ที่กระโดดเข้ามาในสนามเดียวกันกับพวกเขา

 

 

 

 

จุดเริ่มต้น คืออยากส่งต่อแรงบันดาลใจ 

 

                เนาวรัตน์เล่าถึงที่มาของการทำธุรกิจกาแฟว่า เกิดจากแรงบันดาลใจที่ได้รับตอนอยู่ที่ออสเตรเลีย และอยากส่งต่อแรงบันดาลใจนี้ให้กับคนในบ้านเกิด ซึ่งขณะนั้นเธอมีโอกาสได้ทำงานในร้าน Dose Espresso ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย และได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการทำกาแฟจาก แซม แกเบรียล ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ Dose Espresso ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกาแฟ วัฒนธรรมการทำงาน การคั่วกาแฟ การชิม และทำกาแฟ นั่นคือจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจที่เธออยากส่งต่อโดยการเปิดร้านกาแฟ จึงนำไอเดียนี้ไปปรึกษากับแซมและได้คำตอบว่า…

 

“ผมสนับสนุนไอเดียนี้ คุณเอาแบรนด์ Dose Espresso ไปใช้ได้เลย” 

 

 

 

 

                ถ้าพนักงานของ Google ต้องมีความเป็น Googler อยู่ในตัว พนักงานของ Dose Espresso เองก็ต้องมีความเป็น Doser อยู่ในตัวเช่นกัน เนาวรัตน์บอกว่า การปั้นคาแร็กเตอร์ให้กับบุคลากรคือ หนึ่งในกลยุทธ์ของ Dose Espresso ที่ต้องการสร้างตัวตนความเป็นชาว Dose ขึ้นมา เพราะการบริหารจัดการและพัฒนาคนคือ กุญแจสู่ความสำเร็จที่ทางร้านให้ความสำคัญ รวมถึงการดึงคนที่มีบุคลิกแบบ Doser เข้ามาร่วมงานด้วย บุคลิกที่ว่านี้คือ ชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และชอบช่วยเหลือผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท้องถิ่นที่ตนเองอาศัยอยู่   

 

 

                “การบริหารจัดการบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ถือเป็นหัวใจสำคัญของเราและเป็นความท้าทายของทุกธุรกิจ เราเชื่อว่าหากคนในทีมมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานและพร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่น ธุรกิจเราก็จะมีเอกลักษณ์ที่สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
 

 

 

  ก้าวต่อไปของ Dose Espresso พวกเขาแย้มว่าจะโฟกัสไปที่การปั้นแบรนด์ให้เป็นแลนด์มาร์กประจำจังหวัดอุดรธานี เป็นจุดที่ใครก็ตามที่มาอุดรธานีจะต้องแวะมาเยือน โดยจะคุม DNA ของแบรนด์ให้อยู่ภายใต้คอนเซปต์ Better Cake, Better Place และ Better Idea พร้อมตั้งเป้าว่าจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 1 สาขา ในระยะเวลา 2 ปีจากนี้ โดยจะโฟกัสในโซนภาคอีสานเป็นหลัก ซึ่งสถานีต่อไปของ Dose Espresso ก็คือ การเป็นอันดับ 1 ของร้านกาแฟแดนอีสานนั่นเอง 

 

 

ปักหมุด Location

ที่ตั้ง : 106/40 อาคารราชพัสดุ ถนนบริเวณตลาดธนารักษ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000

โทรศัพท์ 09-8661-4641

www.doseespressoth.com

เวลาเปิด 07:00-18:00 น.

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี