​Arty & Fern แว่นสั่งตัดตามสไตล์ที่เป็นคุณ






 
     แม้จะมีผู้เล่นอยู่ในตลาดแว่นตามากมาย แต่การเป็น custom made หรือแว่นสั่งตัดที่สวมใส่สบาย เหมาะกับใบหน้าและสไตล์ของผู้สวมใส่ กลายเป็นความแตกต่างที่แบรนด์ Arty & Fern Eyewear ชูเป็นกลยุทธ์และหัวใจหลักในการสร้างจุดแข็งและดึงดูดใจลูกค้า
 

     สองผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง ชนกันต์ อุโฆษกุล และ อานิกนันท์ เอี่ยมอ่อง เปิดเผยว่า เริ่มทำแบรนด์มา 5 ปี แต่ในส่วนของแว่นตาแบบ custom made นั้นเริ่มมาได้ 2 ปีแล้ว ด้วยความรักและชอบสะสมแว่นตาเป็นทุนเดิมจึงเป็นที่มาของการทำเป็นธุรกิจ
 



     “เรา 2 คนเป็นคนรักในแว่นตาและเรียนจบทางด้านดีไซน์มา ตอนแรกมีการทดลองทำแว่นด้วยหลายๆ วิธี จนรู้สึกว่าเราอยากทำแว่นด้วยวิธีที่ถูกต้องจริงๆ เลยไปเข้าคอร์สเรียนที่ประเทศฝรั่งเศษ Eyewear Manufacturing จาก M.O.F. Eyeglasses Craftsmanship school เป็นการเรียนวิธีการทำแว่นแบบดั้งเดิมของประเทศเขา เลยได้ไอเดียกลับมาทำเป็นเซอร์วิสในลักษณะทำแว่นแบบ custom made แล้วแต่โจทย์แล้วแต่รูปหน้าของลูกค้า”
 

     เพราะคำนึงถึงการสวมใส่ได้อย่างสบายที่สุด ทางแบรนด์ บอกว่า แว่นทุกอันจะเป็นการทำแบบขึ้นมาใหม่สำหรับลูกค้าที่มีปัญหาสำหรับการใส่แว่น โดยจะวัดและเก็บข้อมูลจากสรีระโครงหน้าและศรีษะของลูกค้าแล้วทำการดีไซน์
 




     “การทำสินค้าของเราพูดง่ายๆ ก็จะคล้ายกับการตัดสูท คือเริ่มใหม่หมด ดูโครงหน้า มีการวัด มีการเก็บข้อมูล ไซส์ ให้ใส่ได้พอดีหน้า ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้วัสดุที่เราใช้คือ Cellulose Acetate ผลิตจากธรรมชาติ เช่น เยื่อไม้ เศษฝ้าย เป็นต้น เป็นวัสดุที่โรงงานผลิตแว่นหรืออุตสาหกรรมแว่นใช้กันซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตอยู่แล้ว โดยมีคุณสมบัติน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นและไม่หักง่าย”
 

     ด้วยความเป็นงานแฮนด์เมดที่ทำกันแค่ 2 คนในสตูดิโอ ลูกค้าจึงต้องมีการนัดคิวกันล่วงหน้าเพื่อเข้ามาทำการวัดและเก็บข้อมูล ซึ่งระยะเวลาทำแว่นโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ต่อหนึ่งชิ้น
 


     

     “ลูกค้าจะเข้ามาที่ร้านด้วยโจทย์ในใจว่าเขามองหาอะไร บางคนอยากจะแก้ปัญหากับแว่นที่มีอยู่อะไรบางอย่าง บางคนอยากได้แว่นแบบที่หาซื้อไม่ได้ หรือมีปัญหาใส่ไม่พอดี เขาจะมาด้วยโจทย์ๆ นั้น แล้วเขาก็จะมาเลือก material เลือกสีเลือกอะไรต่างๆ กับเรา แล้วเราก็ให้คำแนะนำว่าถ้าคุณมีปัญหาแบบนี้ หรือมองหาแบบนี้ เราจะดีไซน์เป็นแบบไหน เราก็จะเริ่มจากการวัดหน้าเก็บข้อมูลลูกค้า ถ่ายรูปเพื่อไปทำดีไซน์อีกที”
 

  เพราะคนเราไม่มีใครเกิดมาด้วยสายตาที่ดีสมบูรณ์ จึงเป็นโอกาสของแบรนด์ที่สามารถเติบโตได้ตลอดเวลา อีกทั้งรสนิยมหรือสไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการแว่นที่เป็นเอกลักษณ์ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย


 

     “ลูกค้าของเราแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ลูกค้าที่อยากได้แว่นแบบแปลกมากไม่มีขายในโลก เป็นลูกค้าที่มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง เช่น ต้องการแว่นดอกไม้ หรือแว่นที่ทำขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ และอีกประเภท คือ ลูกค้าที่มีปัญหาในการใส่แว่น เช่น ผู้ชายที่หน้าใหญ่มากๆ เพราะในตลาดไซส์แว่นมันมาตรฐานหรือเป็นแบรนด์ยุโรปที่ทำมาเพื่อคนยุโรปที่มีดั้งจมูก คนไทยส่วนมากด้วยซ้ำที่หาแว่นใส่แล้วใส่ไม่ค่อยสบาย หรือคนที่ใส่สบายก็จะเป็นแว่นที่เชยไปเลย ดังนั้น ตัวเลือกเลยมีน้อยสำหรับคนที่หาแว่นยาก ถ้าเป็นผู้ชายก็อย่างที่บอกว่าหน้าเขากว้างมันจะบีบขมับ ถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะมีบางทรงที่ชอบที่อยากได้ แต่ตามท้องตลาดพอหยิบมาใส่แล้วมันอาจจะไม่เข้ากับเขาและไซส์มันไม่พอดี”
 

     แม้จะมีผู้เล่นค่อนข้างมากในตลาดแว่น แต่ทางแบรนด์เลือกที่จะมองไปข้างหน้าและคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจหลัก
 


     

     “เราไม่มองถึงการแข่งขันในตลาด แต่เรามองว่า การ custom มันเป็นส่วนที่เติมเต็มช่องวางของตลาดแว่นเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าแว่นตอนนี้มีหลายแบรนด์มาก ทั้งแว่นแบรนด์แฟชั่นที่เขาเป็นแบรนด์เสื้อผ้าแต่เขาก็ทำแว่นตาด้วย แต่ของเราเป็นแว่นที่ตอบโจทย์คนใช้งานจริงๆ คนที่ใช้แว่นจริงใส่แว่นเป็นประจำเขาจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร แล้วเราตอบโจทย์ตรงจุดนั้นได้ จุดประสงค์ของการใช้งานของลูกค้าก็เป็นตัวแปรหนึ่งที่เราเอาไว้ใช้ในการออกแบบ เราดูด้วยว่าลูกค้ามีโจทย์อะไร เช่น ใช้สำหรับเป็นแว่นกันแดด ใช้อ่านหนังสือ อย่างผู้ใหญ่ก็จะใช้เลนส์สายตาหลายระยะ คือมันก็จะมีโจทย์ต่างๆกัน ที่ร้านจะมีบริการวัดสายตาประกอบแว่นอยู่แล้ว ส่วนชั้น 2 เป็นสตูดิโอสำหรับเซอร์วิสเรื่องกรอบแว่นและดีไซน์”
 

     ถึงตรงนี้เจ้าของแบรนด์ Arty & Fern Eyewear บอกว่า เราเชื่อว่าการดีไซน์หรือการออกแบบ นอกจากสวยแล้วยังต้องช่วยแก้ปัญหาหรือว่าทำให้การใช้ชีวิตของผู้บริโภคเขาดีขึ้นด้วย ซึ่งการ custom made สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ โดยไม่ใช่แค่เป็นแว่นที่สวยแต่มันต้องช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้สวมใส่ได้




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​